ข้อมูลฝั่ง ปตท.แจงเหตุโคลนทะลัก ทำพืชสุมนไพรอภัยภูเบศรเสียหาย
ทีมสื่อสารองค์กรปตท.แจงเหตุโคลนทะลักสมุนไพรอภัยภูเบศรยับ ย้ำ ปตท.มีความตั้งใจเข้าไปจัดการปัญหาในพื้นที่ แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากมูลนิธิฯ เผยสาเหตุพืชสมุนไพรเสียหายอาจเป็นเพราะเบนโทไนต์ส่งผลให้หน้าดินแข็งจนต้นไม้ดูดซึมอาหารไม่ได้
จากกรณีโคลนเทียมทะลักในเขตพื้นที่สมุนไพรมูลนิธิโรงพยาบาลอภัยภูเบศร สำนักข่าวอิศราติดต่อไปยังฝ่ายกรรมสิทธิ์ที่ดินของปตท.และได้รับคำชี้แจงเบื้องต้นจากฝ่ายทีมงานสื่อสารองค์กรปตท.จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้
(อ่านประกอบสมุนไพรอภัยภูเบศรเสียหายยับ เหตุโคลนทะลักปตท.ขุดเจาะวางท่อก๊าซ)
จากเหตุการณ์โคลนเทียมทะลักในเช้าวันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2558 บริเวณพื้นที่ของมูลนิธิโรงพยาบาลอภัยภูเบศรและส่งผลให้มีพืชสมุนไพรหลายชนิดเสียหายนั้น
สำหรับโคลนเทียมหรือเบนโทไนต์เมื่อยิ่งผ่านไปจะทำให้หน้าดินแข็ง ทำให้ต้นไม้อาจดูดซึมอาหารและน้ำไม่ได้ ซึ่งในกระบวนการมิได้มีสารเคมีอื่นใด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง ปตท. มิได้นิ่งนอนใจและพยายามขอเข้าไปดูแลเพื่อทำความสะอาดและยินดีรับผิดชอบ แต่ทางมูลนิธิฯ ยังไม่ยินยอมให้ ปตท. เข้าไปดูแลดังนั้นทางปตท.ขอชี้แจงถึงความตั้งใจว่า มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้เนื่องจากเรามีวิธีกระบวนการจัดการ และขอให้ทางมูลนิธิให้ความร่วมมือในการเข้าไปในพื้นที่
สำหรับข้อสงสัยถึงกระบวนการขุดเจาะว่า ทางปตท.ใช้เทคโนโลยีแบบ Fracking หรือไม่นั้น ทีมสื่อสารองค์กรปตท. ยืนยันว่า เป็นการขุดลอด หรือ Horizontal Directional Drill (HDD) ลักษณะคือขุดวางท่อลอดใต้ดินตาแนวขนานไปกับผิวหน้าดิน
ทั้งนี้ คำว่า Fracking อาจสับสนกับคำว่า Frac-out ซึ่งในที่นี้หมายถึงการรั่วไหลของสารเบนโทไนต์ขึ้นมาตามรอยแยกหน้าผิวดิน ดังที่คุณพรชัย อัศวชินโชติ ผู้อำนวยการโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 ได้ชี้แจงไว้ในจดหมาย ฉบับที่ทางสำนักข่าวอิศราแสดงไว้ในเว็บไซต์แล้ว
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 ยังไม่สะดวกให้ข้อมูลได้ในขณะนี้ โดยจะขอลงพื้นที่เกิดเหตุก่อน