ผอ.กองสังคมสงเคราะห์ เผยนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษ กลับมาทำผิดซ้ำมีแค่ 3.3 %
ผอ.กองสังคมสงเคราะห์ ชี้คนที่พ้นโทษและกลับไปทำผิดซ้ำเพราะสังคมไม่ให้โอกาส ไม่ยอมรับ และกม.ปิดกั้นการทำอาชีพหลังพ้นโทษ
จากกรณีที่ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม ออกมาระบุถึงประเด็นคนกระทำผิดซ้ำ แม้จะมีจำนวนน้อย แต่เมื่อถูกผลิตซ้ำทางความคิด ทำให้สังคมเชื่อไปแล้วว่า คนพ้นโทษส่วนใหญ่ต้องกระทำผิดซ้ำ ซึ่งไม่ใช่เป็นข้อเท็จจริงนั้น (อ่านประกอบ:ธวัชชัย ไทยเขียว "เราชอบที่จะศึกษา-จดจำคนพ้นโทษแล้วไปกระทำผิดซ้ำ")
นางรัศมี สุวรรณหงษ์ ผู้อำนวยการกองสังคมสงเคราะห์ กรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงสถิติปี 2559 มีการอภัยโทษให้นักโทษ 3.3 หมื่นคน มีผู้กลับมากระทำผิดซ้ำอีกจำนวน 1.1 พันคน คิดเป็น 3.3 % ปี ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากและมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ โดยสังคมไทยมักจะบอกว่าตอนนี้ได้ให้โอกาสผู้ที่พ้นโทษแล้ว แต่พอทางปฎิบัติเหมือนจะหวาดกลัวผู้พ้นโทษ เช่น พอรู้ว่าผู้พ้นโทษเข้ามาทำงานในองค์กรก็จะไล่ออกทันที
"ผู้พ้นโทษหลายคนประสบปัญหาเหล่านี้ โดยผู้พ้นโทษได้แจ้งมาที่กรมราชทัณฑ์ และได้มาขอทุนกับทางมูลนิธิพิบูลสงเคราะห์ เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพหรือทุนการศึกษาให้กับบุตร โดยทุนดังกล่าวสูงสุดจะให้ 5 หมื่นบาท ซึ่งกลุ่มที่ได้รับทุนนี้ไปจะนำทุนไปประกอบอาชีพอิสระที่ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ"
การที่หน่วยงานหรือบริษัทไม่ให้โอกาสในการทำงานผู้พ้นโทษ นางรัศมี กล่าวว่า จะทำให้เขารู้สึกท้อแท้ จึงอยากให้ทุกคนเปิดโอกาสมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะปัจจุบันสังคมยังไม่ให้การยอมรับกลุ่มคนเหล่านั้น
นางรัศมี กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้ผู้ที่พ้นโทษกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก นอกจากการไม่เปิดรับของสังคมแล้ว ปัจจุบันมีการออกพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 2559 โดยกระทรวงสาธารณะสุขกำหนดว่าคนที่จะประกอบอาชีพนวดได้ต้องพ้นโทษมาแล้วเกิน 1 ปี ถึงจะสามารถประกอบอาชีพและขึ้นทะเบียนในการทำอาชีพนวดได้ ทั้งที่ในเรือนจำจะมีการส่งเสริมอาชีพนวดให้กับผู้ต้องขัง
"ตรงนี้เป็นอุปสรรคเพราะในระหว่าง 1 ปีนั้นคนกลุ่มนี้จะทำอาชีพอะไร ถือเป็นกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการประกอบอาชีพ ส่วนอาชีพคนขับรถแท็กซี่จะต้องพ้นโทษมาแล้ว 5 ปี กฎหมายเหล่านี้ทำให้มีข้อจำกัดในการประกอบอาชีพของผู้พ้นโทษ นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้พ้นโทษกลับมากระทำผิดซ้ำอีก เพราะไม่รู้ว่จะทำอาชีพอะไราะไม่รู้ว่จะทำอาชีพอะไร"