- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- เร่งช่วย นศ.หนุ่มจากยะลาถูกจับที่อียิปต์สงสัยโยง IS
เร่งช่วย นศ.หนุ่มจากยะลาถูกจับที่อียิปต์สงสัยโยง IS
ความคืบหน้ากรณีนักศึกษาไทยถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอียิปต์ควบคุมตัว เพราะสงสัยว่าเกี่ยวโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS องค์กรก่อการร้ายระดับโลกนั้น
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมจากแกนนำมุสลิมในพื้นที่ชายแดนใต้ว่า นักศึกษาคนนี้เป็นชาย อายุ 24 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เรียนจบศาสนาชั้น 10 สถาบันปอเนาะแห่งหนึ่งใน อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา โดยเรียน กศน.ควบคู่ไปด้วย จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีด้านกฎหมายนานาชาติ ที่ประเทศซูดาน แต่ศึกษาได้ 2 ปี ยังไม่จบการศึกษา ก็ย้ายไปเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์
จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ พบว่า นักศึกษาหนุ่มรายนี้เคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่งที่ประเทศคูเวต ด้วยสาเหตุที่ยังไม่ระบุชัด และล่าสุดคือถูกจับที่ประเทศอียิปต์ พร้อมกับนักศึกษาคนอื่นๆ รวมแล้ว 140 ราย โดยมีนักศึกษาไทยเพียงคนเดียว คือเด็กหนุ่มจากอำเภอยะหารายนี้ โดยข้อกล่าวหาเบื้องต้นที่ทำให้ถูกควบคุมตัว เพราะมีภาพของขบวนการก่อการร้ายไอเอส และอาวุธปืนในโทรศัพท์
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊คของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร มีแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่นักศึกษาไทยในอียิปต์จำนวน 1 คนได้ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอียิปต์จับกุมตัวไป เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 เนื่องจากพบภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม IS ได้ กอปรกับการปรากฏคลิปนักศึกษาไทยผู้นั้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้สนับสนุนการปฏิวัติอิสลามผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งนั้น
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น และทราบว่าขณะนี้นักศึกษาไทยดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานความมั่นคงอียิปต์ เพื่อตรวจสอบว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม IS หรือไม่อย่างไร
2. เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ เพื่อขอเข้าเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาไทยในโอกาสแรก อีกทั้งยังได้ประสานกับผู้แทนระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์อย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งรัดติดตามเรื่องดังกล่าว และได้ทราบว่า กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ได้ส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานความมั่นคงด้วยแล้ว
3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากผู้แทนระดับสูงของสำนักงานผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลาม (แกรนด์อิหม่าม) และหน่วยงานความมั่นคงของอียิปต์ เพื่อติดตามเรื่องและขอเข้าพบนักศึกษาไทยอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว
4. เพื่อเป็นการป้องปรามเหตุไม่พึงประสงค์ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศเตือนชาวไทยในอียิปต์ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยง รวมทั้งได้ประสานงานกับสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโรในพระบรมราชูปถัมภ์ และสหชมรมนักศึกษาไทย ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้อควรทราบเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ให้กับนักศึกษาไทยในการใช้ชีวิตในอียิปต์ด้วยความระมัดระวังด้วยแล้ว อาทิ การไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในของอียิปต์ ตลอดจนการไม่ยุ่งเกี่ยวกับประเด็นที่มีความสุ่มเสี่ยงด้านความมั่นคง เป็นต้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอเรียนให้ทราบว่า สถานเอกอัครราชทูต ฯ มีความห่วงใยในความปลอดภัยของนักศึกษาไทยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี เนื่องจากการจับกุมดังกล่าวเป็นประเด็นด้านความมั่นคงที่ทางการอียิปต์ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงต้องเร่งหาทางให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสวัสดิภาพของนักศึกษาไทยเป็นสำคัญ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประสานเพื่อขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางอื่นๆ ที่สามารถกระทำได้เพิ่มเติมต่อไป