ใต้เดือดรับสงกรานต์ จยย.บอมบ์ ลวงยิง-บึ้มซ้ำ ตาย 1 เจ็บอื้อ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ต้องเรียกว่า "ร้อนระอุ" สวนทางเทศกาลสาดน้ำที่เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ เพราะมีเหตุรุนแรงทั้งมอเตอร์ไซค์บอมบ์โจมตีตำรวจ และลอบยิงทหารพรานลวงกำลังเข้าตรวจสอบก่อนกดบึ้มซ้ำ ตาย-เจ็บระนาว
เทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยในปีนี้ รัฐบาลประกาศเพิ่มวันหยุดราขการให้อีก 1 วัน คือวันศุกร์ที่ 12 เม.ย.62 ทำให้เทศกาลปีใหม่ไทยกลายเป็นช่วงหยุดยาว 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 ถึงวันที่ 16 เม.ย. ปรากฏว่าสถานการณ์ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนแรงตั้งแต่หยุดยาววันแรก คือเกิดเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 เม.ย.กันเลยทีเดียว
โดยเมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.อ.สมภพ บุญจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนสายโคกโพธิ์-ยะลา บริเวณหน้าโรงไม้ยางพาราบ้านเกาะตา หมู่ 3 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ ห่างจาก สภ.นาประดู่ เพียง 400 เมตรเท่านั้น หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) พ.ต.อ.วงศกร เหมือนเขียว ผู้กำกับการ สภ.นาประดู่ รวมถึงชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ แบบ 4 ประตูของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกแรงระเบิดจนตกข้างทาง ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ล้มตะแคงบนถนนอก 1 คัน สภาพรถทั้งรถกระบะและรถจักรยานยนต์พังเสียหาย
นอกจากนั้นยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 4 นาย และชาวบ้าน 1 ราย จึงเร่งลำเลียงส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ทราบชื่อคือ จ.ส.ต.จตุพล อัครวิบูลย์ อายุ 41 ปี อาการสาหัส แพทย์ส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี อ.เมืองปัตตานี ร.ต.ท.ชาตรี แก้วกาญจน์ อายุ 51 ปี ด.ต.มนูญ แก้วกับทอง อายุ 56 ปี และ ด.ต.อภิวัฒน์ บุญแก้วเพชร อายุ 34 ปี ทั้ง 3 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนชาวบ้านที่ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นางลีเมาะ โตะเตะ อายุ 65 ปี อาการไม่สาหัส
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า อยู่ในสภาพพังยับเยิน 1 คัน เป็นรถที่คนร้ายใช้ซุกระเบิดเป็น "มอเตอร์ไซค์บอมบ์" ชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องกระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ท.ชาตรี รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน (รอง สว.สส.) สภ.นาประดู่ เป็นหัวหน้าชุด นำกำลัง 6 นาย ออกปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นในพื้นที่ โดยใช้รถกระบะ 1 คัน กำลังพล 4 นาย และรถจักรยานยนต์ 1 คัน กำลังพล 2 นาย โดยรถกระบะแล่นนำหน้า ส่วนรถจักรยานยนต์ขับปิดท้าย หลังเสร็จภารกิจปิดล้อมตรวจค้น กำลังทั้ง 6 นายจึงเดินทางกลับโรงพัก
แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนนำรถจักรยานยนต์ติดตั้งระเบิดแสวงเครื่อง หรือ "มอเตอร์ไซค์บอมบ์" มาจอดดักอยู่ข้างทาง โดยระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกอยู่ในรถน้ำหนักราว 10 กิโลกรัม เมื่อขบวนรถของตำรวจ สภ.นาประดู่ แล่นผ่าน คนร้ายได้กดจุดชนวนระเบิดทันทีจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้รถกระบะของเจ้าหน้าที่เสียหลักตกข้างทาง รถจักรยานยนต์ของตำรวจที่ขับตามมาเสียหลักล้ม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้าเพื่อป้องกันคนร้ายยิงถล่มซ้ำ เมื่อสถานการณ์สงบลงจึงพบว่ามีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะ จ.ส.ต.จตุพล ที่อาการสาหัส จึงแจ้งขอกำลังเสริม และลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาล
สภ.นาประดู่ เจอเหตุหนัก 2 ครั้งใน 3 เดือน
ต่อมา พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้สั่งระดมกำลังออกปิดล้อมไล่ล่าคนร้าย เพราะเชื่อว่ากลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นแกนนำผู้ก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการในพื้นที่ เนื่องจากล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
สำหรับ สภ.นาประดู่ เคยเกิดเหตุคนร้าย 6 คน บุกยิงถล่มโรงพักช่วงกลางวันแสกๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค.62 หรือราว 3 เดือนก่อนหน้า ทำให้ตำรวจที่เข้าเวรประจำการณ์อยู่ในป้อมยามหน้าโรงพักเสียชีวิต ถือเป็นเหตุการณ์อุกอาจจนต้องมีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.นาประดู่ คนเก่า
ยิงทหารพราน ลวง ผบ.ร้อยเข้าพื้นที่กดบึ้มซ้ำ
วันเสาร์ที่ 13 เม.ย. ร.ท.สมมาตร หญีตจันทร์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4513 (ผบ.ร้อย ทพ.4513) กรมทหารพรานที่ 45 ตั้งฐานอยู่ที่บ้านลาแป หมู่ 2 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจากภรรยาของ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ชุณวัณ บัวเทพ สังกัด ร้อย ทพ.4513 ว่าถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 4 บ้านวังทอง ต.บองอ อ.ระแงะ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 1 ชุดปฏิบัติการเข้าไปตรวจสอบ โดยใช้รถกระบะ 2 คันเป็นพาหนะ โดย ร.ท.สมมาตร นั่งรถคันหน้า ส่วนอีกคันทำหน้าที่คุ้มกัน มีกำลังพลในรถคันหลัง 5 นาย
เมื่อรถของ ร.ท.สมมาตร ไปถึงบ้านที่รับแจ้งว่าลูกน้องถูกยิงเสียชีวิต ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณเส้นทางที่เดินทางมา แรงระเบิดทำให้รถกระบะที่ตามมาคุ้มกันเสียหลักตกข้างทาง จากนั้นคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ได้ระดมยิงใส่ ทำให้กำลังพลในรถตั้งสติและยิงตอบโต้ ขณะที่ ร.ท.สมมาตร ได้สั่งให้กำลังที่เหลือย้อนกลับไปช่วยชุดคุ้มกัน จนเกิดการยิงปะทะกันนานหลายนาที คนร้ายเห็นจวนตัวจึงล่าถอยไป ขณะที่กำลังชุดคุ้มกันทั้ง 5 นายได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย จ.ส.ท.ไตรภพ มะเดื่อ อส.ทพ.พีรดาวซ์ ลาเต๊ะ อส.ทพ.มนตรี กองช่าง อส.ทพ.ประสิทธิ์ หลีปลอด และ อส.ทพ.สาธิต พูลแก้ว กำลังพลที่เหลือได้ช่วยกันลำเลียงส่งโรงพยาบาล
แฉใช้ระเบิดถังแก๊สน้ำหนัก 20 กิโลฯ
ต่อมา พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรพล สุขแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ระแงะ รวมทั้งชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ได้นำกำลังเข้าตรวจที่เกิดเหตุ เริ่มจากจุดที่คนร้ายดักโจมตีด้วยระเบิด พบว่าบริเวณไหล่ทางที่เกิดระเบิด ความร้อนจากระเบิดทำให้หญ้าเตียนโล่งเป็นวงกว้าง มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ในถังแก๊ส น้ำหนักระเบิดประมาณ 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารกระจายเกลื่อน ส่วนรถกระบะสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของทหารพรานชุดคุ้มกัน ตกอยู่ข้างทาง ได้รับความเสียหายเล็กน้อย
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เดินทางต่อไปยังบ้านเลขที่ 67 ซึ่งเป็นบ้านที่ อส.ทพ.ชุณวัณ ถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิต พบศพนอนจมกองเลือดอยู่ภายในบ้านที่ได้เปิดเป็นร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด โดย อส.ทพ.ชุณวัณ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดที่ศีรษะและหน้าอกรวม 2 นัด แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ ของคนร้าย
พ.อ.อิศรา กล่าวว่า อส.ทพ.ชุณวัณ ที่เสียชีวิต อยู่ระหว่างลาพัก และกลับมาบ้านอยู่กับภรรยาตามปกติ ก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านทำทีขอซื้อบุหรี่ เมื่อสบโอกาสได้ชักปืนไม่ทราบขนาดออกมาจ่อยิงใส่ อส.ทพ.ชุณวัณ 2 นัดซ้อนจนเสียชีวิตคาที่ เมื่อภรรยาทราบเรื่องจึงโทรศัพท์ไปหา ร.ท.สมมาตร ผบ.ร้อย ทพ.4513 ต้นสังกัด เพื่อเล่าเรื่องให้ทราบ จากนั้น ร.ท.สมมาตร จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนถูกซุ่มโจมตี คาดว่าทั้งหมดเป็นแผนของคนร้าย ด้วยการยิง อส.ทพ.ชุณวัณ เพื่อลวงให้ผู้บังคับบัญชาส่งกำลังเข้าตรวจสอบ แล้วดักโจมตีซ้ำ
ยิงตำรวจบาดเจ็บอีก 1 ที่สายบุรี
วันเดียวกัน ยังเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักยิง ส.ต.อ.มะคอรี นิเด็น เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 42 (นปพ.42) ได้รับบาดเจ็บ ขณะขับรถยนต์อยู่ในพื้นที่บ้านตะพา เขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี อ.สายบุรี จากการสอบปากคำชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบว่าผู้บาดเจ็บกำลังขับรถมุ่งหน้ากลับฐานปฏิบัติการ และถูกดักซุ่มยิงโดยคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุุ่มก่อความไม่สงบ