- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- สรุปป่วนนราธิวาส 4 วันส่งท้ายปี ใช้ระเบิดแบบเดียวกันโจมตีทุกจุด
สรุปป่วนนราธิวาส 4 วันส่งท้ายปี ใช้ระเบิดแบบเดียวกันโจมตีทุกจุด
4 วันสุดท้ายของปี 61 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบรูปแบบต่างๆ ทุกวันในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยเป้าหมายส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดนราธิวาส
เหตุรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ธ.ค. ที่มีการลอบวางระเบิดกระจายใน 3 อำเภอ คือ อำเภอระแงะ อำเภอจะแนะ และอำเภอศรีสาคร แต่หนักที่สุดที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพราะมีคนร้ายหลายสิบคนบุกยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา เพื่อใช้เป็นจุดซุ่มยิงและปาระเบิดถล่มฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชคต.กาลิซา นั้น เหตุการณ์ในส่วนนี้ "ทีมข่าวอิศรา" ได้รายงานและลำดับเหตุการณ์อย่างละเอียดไปแล้ว (อ่านประกอบ : เหตุเกิดที่กาลิซา...เปิดแผนคนร้ายยึด รพ.โจมตีฐาน ชคต.)
สำหรับรายงานชิ้นนี้จะเป็นการสรุปรวบรวมเหตุรุนแรงตั้งแต่วันเสาร์ที่ 29 ธ.ค.ต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์ที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่า
ซุ่มยิงทหารพรานเจ็บ 3 ถังแก๊สระเบิดไฟลุกท่วม
เริ่มจากวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. หลังปฏิบัติการป่วนใหญ่พร้อมกัน 3 อำเภอได้เพียง 1 วัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ดักซุ่มยิงทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4905 กรมทหารพรานที่ 49 บริเวณริมถนนบ้านไอร์แยง หมู่ 3 ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย รถถูกเพลิงไหม้เสียหาย 1 คัน
เหตุการณ์เกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. โดยหลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจ สภ.ศรีสาคร ได้สนธิกำลังกับทหารและฝ่ายปกครอง นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงก็พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของทหารพราน กำลังถูกไฟลุกท่วมทั้งคัน เพราะที่กระบะหลังบรรทุกถังแก๊สขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัมจำนวน 2 ถัง และมีอาหารสดอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ต้องประสานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลศรีสาคร ให้ช่วยสนับสนุนรถดับเพลิง และฉีดน้ำดับเพลิงจนสงบเสียก่อน จึงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 3 นาย ทราบชื่อคือ ส.อ.สมพงษ์ อสิอุโฆ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วัชรกร ขวัญแย้ม และ อส.ทพ.ศักรินทร์ พรหมมาศ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลศรีสาคร แต่ทั้ง 3 นายอาการสาหัส ต้องประสานเฮลิคอปเตอร์จากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
ส่วนบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ นอกจากซากรถกระบะที่ถูกเพลิงเผาจนวอดแล้ว ยังพบปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 ของคนร้ายตกอยู่กว่า 10 ปลอก บริเวณเนินดินริมถนน ซึ่งเป็นป่ายางพารา เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.สมพงษ์ หัวหน้าชุด ได้นำผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 2 นาย ขับรถกระบะไปติดต่อราชการที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดศรีสาคร เสร็จแล้ว ส.อ.สมพงษ์ พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชาได้เดินทางต่อไปจ่ายตลาด เพื่อหาซื้อเสบียงอาหารสำหรับเลี้ยงกำลังพล พร้อมซื้อแก๊สหุงต้ม 2 ถังเพื่อนำไปประกอบเลี้ยง จากนั้นจึงพากันขับรถกลับฐาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ
แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มยิง กระสุนบางส่วนถูกถังแก๊สหุงต้มจนระเบิด ไฟลุกท่วม แต่เจ้าหน้าที่ทหารพรานยังแข็งใจยิงตอบโต้คนร้าย และพยายามลงจากรถที่กำลังมีไฟลุกโชน กระทั่งสามารถหาที่กำบังที่ปลอดภัย และยิงตอบโต้คนร้ายอย่างดุเดือด พร้อมวิทยุขอกำลังเสริม ฝ่ายคนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
บึ้มสัญลักษณ์ตัดการคมนาคม 4 อำเภอนราฯ
จากนั้น ระหว่างเวลา 19.35 น. ถึง 20.15 น. คนร้ายได้กระจายกำลังกันนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้บริเวณโคนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เสาไฟฟ้าริมถนน และรางรถไฟ กระจายกันในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอศรีสาคร อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอรือเสาะ และอำเภอระแงะ ก่อนมีเสียงระเบิดดังในเวลาไล่เลี่ยกัน
อย่างไรก็ดี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบทันที เพราะเกรงว่าจะเป็นแผนลวงของคนร้ายเพื่อโจมตีซ้ำ จึงนำกำลังเข้าที่เกิดเหตุช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 30 ธ.ค. พบว่าจุดเกิดเหตุมีด้วยกัน 4 จุด 4 อำเภอ ประกอบด้วย
จุดที่ 1 อำเภอรือเสาะ คนร้ายวางระเบิดรางรถไฟ ช่วงรอยสถานีลาโละ กับสถานีรือเสาะ ทำให้หมอนคอนกรีตรองรางรถไฟถูกระเบิดเสียหาย 2 ท่อน และรางรถไฟบิดงอเล็กน้อย ความเสียหายของรางรถไฟ ทำให้รถไฟสายใต้ 14 ขบวนต้องหยุดให้บริการกว่าครึ่งวัน
จุดที่ 2 อำเภอระแงะ คนร้ายวางระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนน เยื้องกับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 ท้องที่ หมู่ 1 ตำบลตันหยงมัส ทำให้เสาไฟฟ้าเสียหาย 2 ต้น แต่ไม่ได้หักโค่นลงมา
จุดที่ 3 อำเภอศรีสาคร คนร้ายวางระเบิดเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ในพื้นที่บ้านบือแนนากอ หมู่ 6 ตำบลตะมะยูง แรงระเบิดทำให้เสาส่งสัญญาณฯได้รับความเสียหายเล็กน้อย
จุดที่ 4 อำเภอเจาะไอร้อง คนร้ายจุดประทัดยักษ์หน้าอาคารแบบน็อคดาวน์ที่ใช้ควบคุมเครื่องส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ที่บ้านบาโงดุดุง หมู่ 6 ตำบลจวบ แต่ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ได้รับความเสียหาย
แฉระเบิดนราฯส่งท้ายปีทุกจุดรูปแบบเดียวกัน
ต่อมาเวลา 09.30 น.วันอาทิตย์ที่ 30 ธ.ค.เกิดระเบิดบริเวณสะพานรถไฟ ระหว่างสถานีโต๊ะเด็ง กับสถานีบูกิต ในพื้นที่บ้านไอร์สะเตีย หมู่ 5 ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง แรงระเบิดทำให้ไม้หมอนรองรางรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ช่วงค่ำวันเดียวกัน เวลาประมาณ 20.15 น. คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนนในหมู่บ้านแบแร หมู่ 6 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าหัก 1 ต้น ส่วนอีก 1 ต้นได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ต่อมาช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 31 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ได้เดินทางเข้าตรวจที่เกิดเหตุ และสอบปากคำชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ได้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุสังเกตเห็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน วนเวียนใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ชาวบ้านไม่ได้เอะใจ คิดว่าเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านพบกัน จึงจอดรถคุย แต่พอเสียงรถจักรยานยนต์หายไปเพียง 5 นาที ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น
สำหรับวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ เป็นเศษซากวัตถุระเบิดที่คล้ายคลึงกับระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใช้โจมตีเสาไฟฟ้า รางรถไฟ และเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ช่วงระหว่างวันที่ 28-29 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยระเบิดทั้งหมดเป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ไว้ในท่อแป๊ปเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว และจุดชนวนด้วยวงจร ไอ.ซี.ไทม์เมอร์ หรืออุปกรณ์หน่วงเวลาระเบิด โดยทุกจุดใช้วัตถุระเบิดแบบเดียวกัน
คาดว่าเป็นระเบิดที่ประกอบขึ้นในล็อตเดียวกัน แล้วส่งกระจายไปให้สมาชิกแนวร่วมฯในแต่พื้นที่ไปใช้ก่อเหตุพร้อมๆ กันเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ดูใหญ่โตขึ้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
่่อ่านประกอบ : ถึงคิวนราธิวาส! บึ้ม 6 จุด 3 อำเภอ เจ็บ 4 ราย