- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ยึดไปป์บอมบ์ 41 ลูกคาดใช้ป่วนย่านศก. - แฉก่อเหตุแล้ว 83 ลูก
ยึดไปป์บอมบ์ 41 ลูกคาดใช้ป่วนย่านศก. - แฉก่อเหตุแล้ว 83 ลูก
รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งยกระดับ รปภ.ย่านเศรษฐกิจสำคัญชายแดนใต้ หลังตำรวจยึด "ไปป์บอมบ์" 41 ลูกเตรียมป่วนใหญ่หลังรายอ 6 ขณะที่ ผบช.ภ.9 แฉระเบิดล็อตนี้เคยใช้ก่อเหตุแล้ว 83 ลูกกระจายทุกพื้นที่
พล.ท.เกื้อกูล อินนาจักร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (รอง ผอ.รมน.ภาค 4) กล่าวว่า ได้สั่งการให้กำลังในพื้นที่ยกระดับการคุมเข้มอย่างเข็มงวดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ หลังจากตำรวจตรวจยึดวัตถุระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ขณะกำลังขนย้ายออกจาก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย.61 คาดว่าระเบิดล็อตนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะน่าจะมีอีกบางส่วนที่หลุดรอดเข้าพื้นที่ไปแล้ว โดยเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กที่ใช้ระเบิดตู้เอทีเอ็ม
"เชื่อว่าคนร้ายได้นำระเบิดบางส่วนไปแจกจ่ายแล้ว เพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ชายแดนใต้ช่วงหลังรายอ 6 ของพี่น้องมุสลิม โดยคาดว่าจะนำไปโจมตีจุดตรวจและด่านตรวจต่างๆ เพราะมีลักษณะเป็นระเบิดขว้าง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งอาจนำไปวางตามย่านเศรษฐกิจและตู้เอทีเอ็ม โดยดัดแปลงเป็นระเบิดแบบตั้งเวลา" พล.ท.เกื้อกูล กล่าว
สำหรับเทศกาล "รายอ 6" ที่ พล.ท.เกื้อกูล พูดถึง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "รายอแน" เป็นประเพณีที่มุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีต ไม่มีระบุในพระคัมภีร์หรือคำสอนของศาสดา แต่เป็นวิถีที่มุสลิมในพื้นที่ถือปฏิบัติกัน หลังจากถือศีลอดในเดือนรอมฎอนเสร็จสิ้นแล้ว ส่งเสริมให้ถือศีลอดต่ออีก 6 วัน เมื่อครบกำหนด 6 วันแล้ว มุสลิมชายแดนใต้จะถือโอกาสเฉลิมฉลองกันอีกครั้ง จึงเรียกว่า "รายอ 6" หรือ "รายอแน"
สำหรับการยึด "ไปป์บอมบ์" ล็อตใหญ่ครั้งนี้ เป็นฝีมือของตำรวจทางหลวง 3 นาย คือ ด.ต.กมล ทองคำ ด.ต.เอนก เต็มพร้อม และ ด.ต.วัชระ บุญรัตพันธ์ ขณะขับรถออกลาดตระเวนพื้นที่ บนเส้นทางสายสุไหงโก-ลก - ตากใบ และพบรถต้องสงสัยในพื้นที่ ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นรถกระบะแบบแค็บ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียบ บท 2788 ปัตตานี เมื่อเห็นรถของเจ้าหน้าที่ได้พยายามขับรถหนี เจ้าหน้าที่จึงขับไล่ติดตาม จนสามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวเอาไว้ พบระเบิดแสวงเครื่องแบบ "ไปป์บอมบ์" ประกอบใส่ท่อเหล็ก 41 ลูก ชุดวงจรวิทยุ 2 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 5 นาที 36 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 10 นาที 1 กล่อง และชุดวงจรตั้งเวลา 30 นาทีอีก 2 กล่อง ทั้งยังมีไฟฉายอีก 4 กระบอก
ภายในรถมีชาย 2 คน เจ้าหน้าที่คุมตัวได้ 1 คน คือ นายซานูซี ยาแต เป็นคนขับรถ ส่วนอีก 1 คนหลบหนีไปได้ ทราบชื่อคือ นายอับดุลอาซิ สาเมาะ อายุ 21 ปี
ต่อมาตำรวจ สภ.ตากใบ ได้นำกำลังเข้าค้นบ้าน นายซานูซี ที่ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม จากการตรวจสอบรถกระบะบรรทุกระเบิด พบว่าเป็นของ นายอุษมาน ยาแต อายุ 32 ปี น้องชายของนายซานูซี ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบปากคำว่ารู้เห้นกับการขนย้ายระเบิดหรือไม่ พร้อมทั้งส่งนายซานูซี เข้ากระบวนการซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 อ.เมืองนราธิวาส
นายซานูซี ให้การในเบื้องต้นว่า นายอับดุลอาซิ ที่หลบหนีไปได้ เป็นคนโทรศัพท์มาหา เพื่อให้ตนนำรถกระบะไปรับระเบิดที่บ้านปะลุกา หมู่ 3 ต.โฆษิต โดยมีชายฉกรรจ์ 4 คนนำระเบิดมามอบให้นายอับดุลอาซิ จากนั้นจึงขนระเบิดขึ้นรถเพื่อนำไปส่งต่อให้คนที่มารอรับ ในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร และชื่ออะไร ทว่าถูกสกัดจับเสียก่อน
ขณะเดียวกัน ตำรวจตากใบได้สนธิกำลังกับฝ่ายทหาร เข้าค้นบ้าน นายอับดุลอาซิ ที่นั่งมากับรถบรรทุกระเบิด แต่หลบหนีไปได้ เบื้องต้นไม่พบตัวนายอับดุลอาซิ คาดว่าหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
อย่างไรก็ดี ตำรวจได้หลักฐานสำคัญ เป็นโทรศัพท์มือถือของนายอับดุลอาซิที่ลืมไว้ในรถ เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะมีโทรศัพท์หลายสายที่โทรเข้ามายังเครื่องของนายอับดุลอาซิ
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาและยึดไปป์บอมบ์ได้ถึง 41 ลูก โดยบอกว่าระเบิดล็อตนี้ คนร้ายเคยนำมาใช้ก่อเหตุแล้วจำนวน 83 ลูก ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ระเบิดทำงาน 60 ลูก ไม่ทำงาน 23 ลูก ใช้มาตั้งแต่ปี 59 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ในพื้นที่ อ.บาเจาะ และ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
ข้อมูลจากการแถลงของ ผบช.ภ.9 สอดคล้องกับ พ.ต.ท.ประจวบ นิ่มเรือง หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ที่บอกว่า ระเบิดที่ตรวจยึดมาเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ เหมือนกับที่คนร้ายเคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา เพียงแต่ระเบิดล็อตนี้มีขนาดสั้นและเล็กกว่าไปป์บอมบ์ล็อตอื่นๆ ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจรต่างๆ ที่ใช้ประกอบระเบิด เป็นอุปกรณ์ที่หาได้ภายในประเทศ
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าท่อที่นำมาใช้เป็นพาหนะห่อหุ้มระเบิด เป็นท่อของประเทศเพื่อนบ้าน จึงเป็นไปได้ว่าระเบิดล็อตนี้ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วเคลื่อนย้ายข้ามฝั่งมา
----------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพประกอบจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ