แผนประทุษกรรมฆ่าสองแม่ลูกที่ระแงะ อีกหนึ่งอาชญากรรมร้ายแรงที่ชายแดนใต้
สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกนำเสนอข่าวผ่านสื่อทุกแขนงในบริบทของเหตุการณ์ความไม่สงบรูปแบบต่างๆ มาตลอดกว่า 13 ปี ส่วนคดีอาชญากรรมประเภทอื่นเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก จึงไม่ค่อยเป็นข่าวทางสื่อสารมวลชน อย่างเหตุการณ์สังหารโหดสองแม่ลูก นำศพทิ้งสะพานใน อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคดีที่คนในและนอกพื้นที่ รวมถึงนักสิทธิมนุษยชนให้ความสนใจ
เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.ย.60 เมื่อศูนย์สื่อสาร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งพบศพหญิงสาวและเด็กหญิงถูกทิ้งไว้ที่บริเวณใต้สะพานบ้านกาหนั๊วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา โดยมีผ้าปิดศพไว้ เจัาหน้าที่จึงไปนำศพขึ้นมาชันสูตรและตรวจสอบประวัติ ทราบว่าคือ น.ส.บิสมี สุหลง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/1 หมู่ 12 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นภรรยาของ นายมะสุเปียน มามะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและมีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายหมาย โดยนายมะสุเปียนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมเมื่อปี 2556 ส่วนเด็กหญิงที่เสียชีวิตเป็นลูกสาวของ น.ส.บิสมี คือ ด.ญ.นัสริน มามะ อายุ 5 ปี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ ได้สืบสวนหาตัวคนร้าย โดยแกะรอยจากพฤติกรรมการเดินทางที่ใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง พบถูกบันทึกภาพได้จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดกล้องหนึ่งใน อ.ระแงะ ขณะกำลังขี่รถนำหน้ารถจักรยานยนต์ของ น.ส.บิสมี โดยมีลูกสาววัย 5 ขวบนั่งไปด้วย เจ้าหน้าที่ได้นำภาพมาขยายจนรู้ตัวคนร้าย ก่อนสนธิกำลังกับฝ่ายปกครองและทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้าน พร้อมทั้งเชิญตัว นายฮาซัน เจ๊ะฮะ อายุ 30 ปี มาสอบปากคำ โดยนายฮาซันมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 55/6 หมู่ 2 บ้านเจ๊ะเก ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ
สำหรับของกลางที่ตำรวจตามยึดได้หลังเกิดเหตุมีหลายรายการ เช่น มีดพับสีขาวยาว 8 นิ้ว 1 เล่ม มีคราบเลือดติดอยู่ที่ปลายมีด หัวแก๊ส เสื้อผ้าของผู้ตาย รองเท้าของผู้ตาย 1 คู่ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงสีเทาของผู้ตาย 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง กระเป๋าเป้สีดำ ภายในกระเป๋ามีเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าสตางค์ และเอกสารส่วนตัวของผู้ตาย ซึ่งนายฮาซันนำของกลางเหล่านี้บางส่วนไปทิ้งไว้ริมถนนห่างจากจุดพบศพประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนของกลางอีกบางส่วนยึดมาจากบ้านบิดาของนายฮาซัน ที่เป็นบ้านที่ก่อเหตุฆ่าสองแม่ลูก คือบ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ
วันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ย.60 หลังพบศพเพียง 5 วัน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมนายตำรวจระดับสูงของ จ.นราธิวาส ได้เปิดแถลงข่าวความคืบหน้าคดีนี้ด้วยตนเอง เพราะเป็นคดีอาชญากรรมที่ประชาชนให้ความสนใจ
สำหรับแผนประทุษกรรมของนายฮาซัน ได้มาจากคำรับสารภาพของเจ้าตัว ระบุว่า รู้จักกับ น.ส.บิสมี ผู้ตายโดยบังเอิญ ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปตามถนนสายระแงะ–นราธิวาส ท้องที่บ้านกาแม เมื่อได้พบกับผู้ตายและลูกเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พ.ย.จึงเข้าไปทักทายพูดคุยกัน จากนั้นได้พากันไปที่บ้านพ่อของนายฮาซัน เพื่อให้สองแม่ลูกได้นอนพัก เนื่องจากผู้ตายเป็นคนที่มีปัญหาทางบ้าน มีพฤติกรรมค่ำไหนนอนนั่น แล้วทั้งสามคนได้พักหลับนอนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับนำยาเสพติดมาเสพกัน
ต่อมาช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 พ.ย. นายฮาซันเกิดมีอารมณ์ทางเพศ จึงขอร่วมหลับนอนกับผู้ตาย แต่ผู้ตายขัดขืน ทำให้นายฮาซันโกรธ จึงลงมือทำร้าย และใช้อาวุธมีดแทงบริเวณลำคอของ น.ส.บิสมี พร้อมแทงซ้ำที่บริเวณลำคอและลำตัวอีกหลายครั้ง รวมถึงนำหัวแก๊สเหล็กทุบจนแน่นิ่งไป จากนั้นจึงลงมือแทง ด.ญ.นัสริน ที่ลำคอและลำตัวจนเสียชีวิต เนื่องจาก ด.ญ.นัสริน เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด
เมื่อสังหารทั้งคู่แล้ว จึงนำศพใส่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เพื่อไปทิ้งที่ใต้สะพานบ้านกาหนั๊วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา แล้วย้อนกลับมาที่บ้าน เช็ดเลือดทำความสะอาด และนำของใช้ของผู้ตายในกระเป๋าเป้ไปทิ้งบริเวณริมถนน ห่างจากจุดทิ้งศพประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ได้นำขึ้นรถสามล้อพ่วงข้าง เพื่อนำไปซ่อนที่บ้านภรรยาใน อ.เมืองนราธิวาส ทำการถอดป้ายทะเบียนออก แล้วให้ลูกสาวนำไปใช้ จากนั้นก็ย้อนกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านพ่ออีกครั้ง กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุม
สำหรับประวัติของนายฮาซัน เป็นคนที่ไม่มีอาชีพ ไม่มีงานประจำ พฤติกรรมทั่วไปชอบลักขโมยของ และรับจ้างทั่วไป ไม่มีรายได้ที่แน่นอน และยังติดยาเสพติดด้วย
เมื่อจบการแถลงข่าว พล.ต.ท.รณศิลป์ ได้มอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ ที่ช่วยกันคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมอบเงินปลอบขวัญให้แก่ นางเจ๊ะมีเนาะ ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.บิสมี
-----------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง/ภาพ : ปทิตตา หนูสันทัด
บรรยายภาพ : นายฮาซัน ผู้ต้องหา กำลังจำลองเหตุการณ์นำศพสองแม่ลูกทิ้งบริเวณสะพาน หลังสังหารโหดที่บ้านของบิดา