ยืดซักฟอกถึง 27 ก.พ.-'สุทิน'สับ'บิ๊กตู่'เอื้อทุนใหญ่-เจ้าตัวรับพบปะอย่างเปิดเผย
อภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สอง สภาส่อแววยืดเยื้อ! 'สุทิน'ยกสื่อ ตปท.-ทีดีอาร์ไอ สับ 'บิ๊กตู่' เอื้อ 5 ทุนใหญ่-24 ทุนประชารัฐ ซัดความผิดพลาดที่สุดคือไม่ทำเศรษฐกิจฐานราก - เจ้าตัวสวนปัดเอื้อพวกพ้อง ถ่ายรูปโชว์เพราะเปิดเผย ไล่ไปดูรวยเพราะอะไร การันตี รบ.ไม่ทำผิดกฎหมาย - วิป 2 ฝ่ายหารือแล้ว ยืดเวลาศึกซักฟอกถึง 27 ก.พ. ปิดตอน 19.00 น.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2563 ที่รัฐสภา (เกียกกาย) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล รวม 6 ราย เป็นวันที่ 2 ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
@'สุทิน'ยกสื่อ ตปท.-ทีดีอาร์ไอ สับ'บิ๊กตู่'เอื้อ 5 กลุ่มทุนใหญ่-24 ทุนประชารัฐ
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศโดยไม่สุจริต เอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง ไร้ความสามารถ ทำบ้านเมืองเสียหาย อาจนำไปสู่ระดับวิกฤติครั้งใหญ่ของไทย เชื่อได้ว่าท่านจะเป็นคนสร้างประวัติศาสตร์ กำลังทำลายความมั่นคงของประเทศ โดยไม่เจตนาหรือเจตนา
นายสุทิน ยกหลักฐานอ้างอิงจากสำนักข่าวฮ่องกง ‘เอเชีย ไทม์’ และนิตยสาร ‘ฟ้าเดียวกัน’ รวมถึงข้อมูลวิจัยจากสถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) อ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่อย่างชัดเจน ถ้าพูดเดี๋ยว รมว.มหาดไทย (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) จะบอกว่ารัฐบาลทำอะไรก็กล่าวหาว่าเอื้อทุนใหญ่ ไม่จริง ไม่ได้ระแวงขนาดนั้น แต่จะเอื้อหรือไม่เอื้อต้องดูที่ของจริง ลองดูเอเชียไทม์ที่ตีพิมพ์บทความกรณี คสช. เอื้อนายทุนใหญ่ 5 ตระกูลหนุนบัลลังก์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นี่คือสื่อต่างประเทศที่เขียนไว้หมด เช่น กลุ่มทุนได้อะไรบ้าง ใช้มาตรา 44 เอื้อกลุ่มทุนอย่างไร การประกาศขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลุ่มทุนใดได้ประโยชน์ เป็นต้น นอกจากนี้ในหนังสือฟ้าเดียวกันยังอ้างถึง กลุ่มทุนประชารัฐอีก 24 ตระกูลที่เป็นพันธมิตรด้วย
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมท่านเอาเสือไปอยู่กับเนื้อหรือเปล่า กลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานน้ำตาล แบ่งโซนนิ่งการเกษตรเสร็จสรรพ คิดเรื่องไร่อ้อย ไปปลูกอ้อย ทั้งที่มีโรงงานน้ำตาลอยู่แล้ว เพิ่มพื้นที่ปลูกน้ำตาลอีก 3 แสนไร่ ปรับวิธีการใหม่ จากใช้อ้อยสดเป็นอ้อยเผา สิ่งที่ตามมาเป็นของแถมคือ PM 2.5
“สิ่งที่ตามมาไหนว่าประชารัฐช่วยให้ชาวบ้านดีขึ้น ก่อนหน้านั้นอ้อยตันหนึ่งเท่าไหร่ สมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) คุณยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) 1,000,1,200 บาท/ตัน แต่ปีที่แล้วเหลือ 600 บาท แล้วช่วยยังไง ผมไม่ได้หาว่ารังแกท่าน แต่มันแปลก พอเอกชนประรัฐไปอยู่ ราคาสินค้าเกษตรตกหมด” นายสุทิน กล่าว
@ประชารัฐไม่มีจริง ตัดประชาชนออกเหลือแค่ 'เอกรัฐ'
นายสุทิน กล่าวว่า กลยุทธ์ประชารัฐ เอาเอกชนควบรัฐบาล ตัดภาคประชาชนออก แล้วพูดว่าประชารัฐ คือพูดไม่จริง ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม ใน 5 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านถูกมาตรา 44 คุมอยู่ ทหารเดินเข้าบ้านอกสั่นขวัญหาย ชาวบ้านไม่กล้ามามีส่วนร่วมอะไร คิดอะไรก็กลัว ตัวแทนชาวบ้านอย่างพวกตนจะพูดยังกลัว พูดปุ๊บโดนปรับทัศนคติ บรรยากาศอย่างนั้นเหรอสร้างประชารัฐ ถึงจะเข้าไปร่วมได้ก็แบบนั่งอมสาก เพราะบรรยากาศไม่มีเสรีภาพ เหลือเอกชนกับรัฐบาลคือ ‘เอกรัฐ’
“เอื้อหรือไม่เอื้อก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงบอกว่า กลุ่มทุนประชารัฐ 24 กลุ่ม ได้งานโครงการมากมายมหาศาล ที่ รมว.คมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ตอบดีทั้งนั้น บอกว่า มีการประมูลอย่างนั้นอย่างนี้ ยุคนี้ใครจะไปโง่ การประกวดราคามีเทคนิค แล้วมันวัดกันตรงไหน วัดที่ Out Put สิ ทำไมกลุ่มทุนรวยขึ้นแบบมหาศาลใน 5 ปี” นายสุทิน กล่าว
@ซัดความผิดพลาดที่สุดของ 'บิ๊กตู่' คือไม่ได้ทำเศรษฐกิจฐานราก
นายสุทิน กล่าวว่า สมัยพวกตนเป็นรัฐบาลหลังวิกฤติปี 2540 ประเทศฟื้นตัวได้เพราะธุรกิจ SME โอทอป เศรษฐกิจในชุมชน เป็นต้น เมื่อเศรษฐกิจฐานรากดี ฐานกลางไปได้ ส่วนยอดปีระมิดก็ไปได้ แต่ความผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เริ่มต้นเป็นรัฐบาลไปจัดการเอาผิดกับเศรษฐกิจฐานราก ไม่ดูแลก็ทรุดหนัก อัดลงไปก็ไม่ขึ้น จะกระตุ้นการบริโภค แต่ไม่มีเงินจะบริโภค กระตุ้นได้อย่างไร ราคาสินค้าเกษตรยังไม่โงหัว แต่กลับทอดทิ้งเกษตรกร นี่คือความผิดพลาดที่สุดของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเมื่อไม่ได้ทำฐานรากยุคแรก เมื่อมีคนบอกให้ทำ แต่สำนึกไม่ทันแล้ว โครงสร้างเศรษฐกิจชุมชนไปหมดแล้ว
“ท่านสมคิด (จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี) เคยอยู่กับผม อยู่กับท่านทักษิณ (ชินวัตร) จะคิดทำเหมือนเดิมไหม เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจมันไปแล้ว ถ้าท่านทักษิณยังอยู่ ไม่ทำแบบนี้แล้ว เพราะมีการทอดทิ้งเกษตรกรรายย่อย อุตสาหกรรมระดับล่าง ฐานรากไม่มี ต่อให้ 10 หนุมานก็เอาไม่ขึ้นเศรษฐกิจแบบนี้ จะกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ไม่กระตุ้นการผลิต ทอดทิ้งเกษตรกร ทำให้รายได้ฐานรากต่ำ แต่ท่านดูแลภาคอุตสาหกรรมทุนใหญ่ มันจึงพุ่งขึ้น เท่านั้นไม่พอ มากที่สุดคือเป็นระบบสูบเนื้อกินเนื้อ เหมือนขุดเอาดินที่ลุ่มถมที่สูง” นายสุทิน กล่าว
@'บิ๊กตู่'ปัดเอื้อพวกพ้อง ถ่ายรูปโชว์เพราะพบปะเปิดเผย-ไล่ไปดูรวยจากอะไร การันตี รบ.ไม่ทำผิดกฎหมาย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงกรณีนี้ว่า การกล่าวหาว่าตนเอื้อประโยชน์พวกพ้อง เอารูปตนถ่ายรูปกับคนโน้นคนนี้ 24 ตระกูล หรือ 4 ตระกูล ตนว่าขาดไปตระกูลหนึ่ง จะได้ครบ 25 คน รวยผิดปกติหรือเปล่า ไม่รู้ แต่นี่เขาถูกกฎหมาย เขาอยู่ได้ การที่มีรูปตนอยู่อย่างนั้น ถือว่าเป็นการประชุมเปิดเผย พบปะเปิดเผย ถ้าไม่มีรูป แสดงว่าไม่เปิดเผย ลองไปดูตรงนี้ ส่วนเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตในคนแก่คนเฒ่า พ่อแม่ที่ลูกไม่อยู่บ้าน มีเงินไปซื้อของใช้จำเป็น ไม่ได้ซื้อเฉพาะจากร้านธงฟ้า แต่ร้านค้าต่าง ๆ มีการปลดล็อคหมดแล้ว โดยการใช้จ่ายผ่านร้านประเภท Moderntrade (ร้านค้าขนาดใหญ่) ต่ำมากประมาณ 0.03% ส่วนมาตรการชิมช็อปใช้ มีอัตราการใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดใหญ่แค่ 8% เท่านั้น
ส่วนเรื่องคนรวยที่รวยเอา ๆ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปดูว่าเขารวยจากอะไร ลงทุนถูกกฎหมายหรือไม่ รัฐบาลนี้จะไม่ยอมทำผิดกฎหมาย เป็นเรื่องของกฎหมาย ตนสั่งใครไม่ได้ คนเดียวรับผิดชอบไม่ได้ แต่ละโครงการได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ถ้าตนเป็นคนแบบนั้น คงอยู่ไม่ได้แบบนี้ ยืนยันเรื่องของตนเองได้ ยืนยันคณะรัฐมนตรีชุดนี้ และเชื่อมั่นในข้าราชการของตนที่มีเป็นแสน ๆ คน ทุกคนมีหน่วยงานหมด การไปเอาสิ่งนู้นสิ่งนี้อ้างนู่นอ้างนี่ ไม่เป็นธรรมกับตนมากนัก
ส่วนการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นความจำเป็นช่วงแรก เนื่องจากมีความรุนแรงเกิดขึ้น บทเรียนที่ประชาชนไม่ชอบ การค้าขายอะไรไม่ได้ มีเสรีภาพอย่างไร้ขีดจำกัดไม่ได้ ต้องดูกฎหมาย ดูรัฐธรรมนูญอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูกฎหมายลูกหลายพันฉบับด้วย สิทธิการชุมนุมต้องไม่กระทบผู้อื่น ปัญหาการจราจร ปัญหาการพูดจาทำให้เกิดความแตกแยก กรุณาให้ระมัดระวังด้วย
@ยืดเวลาซักฟอกถึง 27 ก.พ. 19.00 น.-ขออย่าประท้วง ให้อยู่ในข้อบังคับ
เมื่อเวลาประมาณ 16.20 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ขอหารือว่า เรื่องเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น หลังจากการหารือกัน 3 ฝ่าย (วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน รัฐบาล) จะเริ่มจับเวลา ๆ จริงในเวลา 17.00 น. วันนี้เป็นต้นไป โดยฝ่ายรัฐบาลมีเวลาตอบ 10 ชั่วโมง ฝ่ายค้านมีเวลาอภิปราย 21 ชั่วโมง และจะสิ้นสุดในวันที่ 27 ก.พ. 2563 เวลา 19.00 น. ทั้งนี้หากมีการประท้วงเกิดขึ้น ถ้าฝ่ายรัฐบาลประท้วงหักเวลาฝ่ายรัฐบาล ถ้าฝ่ายค้านประท้วงหักเวลาฝ่ายค้าน โดยจะพยายามไม่ประท้วง พยายามอยู่ในข้อบังคับ ไม่พยายามพูดจาเสียดสี
@สภาส่อแววยืดเยื้อ! ‘สุทิน’ซัด รบ.ใช้เวลาตอบเยอะ จ่อยกเลิกข้อตกลง 3 ฝ่าย ขยายเวลาซักฟอก
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมา ระหว่างนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงโครงการรถไฟฟ้า หลังจากที่ฝ่ายค้านอภิปรายเมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ขอหารือนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในฐานะประธานการประชุม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้อยากหารือ แต่มีความจำเป็น เพราะกังวลว่ายิ่งหารือเยอะยิ่งหนักกว่าเดิมโดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนหน้านี้มีข้อตกลงกัน 3 ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน) ว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ จนมีข้อตกลงใด ๆ ยึดหลัก 3 ข้อ คือ 1.ยึดข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2.ยึดหลักความเหมาะสม ดังนั้นฝ่ายรัฐบาลรู้ว่าอะไรควรมิควร ฝ่ายค้านก็รู้อะไรควรมิควร จึงตกลงกันได้ และ 3.สำคัญที่สุดคือหลักสุภาพบุรุษ
นายสุทิน กล่าวว่า เวลาจะคุยกันหรืออภิปรายอย่างนี้ ท่านประธาน (นายศุภชัย) อ้างข้อบังคับ อ้างสิทธิ ตนก็อ้างได้ แต่ถ้าอ้างโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม สภาจะไปไม่ได้ วันนี้ต้องรู้ว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกฎกติกามารยาทที่เคยปฏิบัติ นายกรัฐมนตรีอาจเพิ่งเข้าสภา ต้องรู้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่กาลเทศะคือให้ใครพูดมากกว่า ควรตอบเวลาใด หรือประธาน เคยเป็น ส.ส. มาหลายสมัย หลายรัฐบาลย่อมรู้ว่า ฝ่ายค้านอภิปรายไปก่อน 3-4 ราย ค่อยรวบยอดชี้แจงทีเดียว แต่นี่ ส.ส.ฝ่ายค้าน อภิปรายรายเดียว รัฐมนตรีมาตอบ 5 ราย นอกจากนี้ช่วงอภิปรายยังจัดไว้ก่อนปิดสมัยประชุมคือไปเกินวันที่ 28 ก.พ. 2563 ไม่ได้
“ในเมื่อท่านไม่คำนึงถึงความเหมาะสม และไม่คำนึงถึงความเป็นสุภาพบุรุษ ผมขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด แล้วประธานบอกว่าเป็นสิทธิ สิทธิต้องควบคู่กับความเหมาะสม ถ้าสิทธิอย่างเดียวตามรัฐธรรมนูญ เรื่องการอภิปรายนั้น ถ้าผมไม่สรุปการอภิปรายก็ปิดไม่ได้ แต่ทำไมผมไม่อ้างข้อนี้ เพราะคำนึงถึงความเหมาะสม ดังนั้นถ้าผมไม่สรุป ปิดไม่ได้ เปิดประชุมวิสามัญอย่างเดียว เอาอย่างนั้นก็ได้ ไม่แคร์ที่จะยกเลิกข้อตกลง ผมไม่มีความสุภาพบุรุษกับคนที่ไม่เป็น” นายสุทิน กล่าว
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า วันนี้ตนเป็นนักการเมืองเหมือนกัน ทราบข้อตกลงวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน ขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลใช้เวลาของเราอยู่ ต้องบริหารเวลาซึ่งกันและกัน สิ่งที่พวกเราต้องการคือการปฏิรูปการเมือง ทำให้สภาเป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่สภาที่ฆ่าฟันทิ่มแทงกัน ต้องการสร้างการรับรู้ให้ประชาชน สาเหตุที่ต้องชี้แจงหลายกระทรวง เพราะแต่ละงานเกี่ยวข้องหลายกระทรวง นายกฯสั่งใครคนเดียวไม่ได้ แต่บูรณาการร่วมกัน ต้องการให้ประชาชนทราบว่าข้อมูล ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มิฉะนั้นจะเข้าใจผิดเหมือนเดิม ประชาชนจะตัดสินว่าใครผิดใครถูก ดังนั้นเวลาเราตัดเรื่อย ๆ เหลือเท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่เหลือก็ไม่พูด
@‘ศุภชัย’ ให้วิปฝ่ายค้าน-รบ.หารือกันใหม่แก้ปัญหาเรื่องเวลา
หลังจากนั้นนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 วินิจฉัยว่า เข้าใจเหตุผลของนายสุทิน เป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง แต่บังเอิญว่าประธานไม่สามารถทำผิดข้อบังคับได้ เพราะข้อบังคับข้อที่ 177 นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี มีสิทธิอภิปรายชี้แจง จะชี้แจงตามคำอภิปรายทีละราย หรือรวมไว้ชี้แจงครั้งเดียวก็ได้ ดังนั้นเมื่อรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี มอบรัฐมนตรีชี้แจง ประธานเป็นอื่นไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดีอยากฝากไปถึงวิปทั้ง 2 ฝ่ายให้ไปตกลงคุยกันว่า เวลาที่เหลือเป็นของฝ่ายรัฐบาลเท่าไหร่ ของฝ่ายค้านเท่าไหร่ รัฐบาลตอบตามเวลา ฝ่ายค้านพูดตามเวลาที่มีก็จบ ก่อนหน้านี้ตอนหารือกันตนไปนั่งฟังด้วยคิดว่ายังคลุมเครืออยู่ ถ้าเอาตามความเหมาะสม ความเหมาะสมแต่ละคนไม่เท่ากัน
“อยากให้ท่านสุทิน กับท่านวิรัช (รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล) ไปนั่งคุยกัน เวลาที่เหลือกำหนดมา เหลือเท่าไหร่ ความเหมาะสมแต่ละคนไม่เท่ากัน เมื่อฝ่ายค้านกล่าวหามา ฝ่ายรัฐบาลต้องตอบให้เคลียร์ทำนองนี้ ก่อนสรุปให้ประธาน ประธานได้ดำเนินการตามข้อตกลงของวิป” นายศุภชัย กล่าว
@‘วิรัช’เผยฝ่ายค้านอภิปรายล้วงทุกกระทรวง รมต.จำเป็นต้องแจง
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ถ้าถามว่าในช่วงเวลานี้ ฝ่ายค้านใช้เวลาอภิปราย 6 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลตอบประมาณ 2 ชั่วโมงนิด ๆ ถ้าดูลักษณะตรงนี้อัตรา 1 ต่อ 3 อยู่ จึงอยากชี้แจงว่าการอภิปรายถ้าเผื่อจะเจาะจงเรื่อง เช่น กระทรวงคมนาคม เจาะลึกเลย ให้ รมว.คมนาคม พูด แต่เมื่อวาน (24 ก.พ. 2563) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พูดแตะทุกกระทรวง แตะนิดออกหน่อย ดังนั้นรัฐมนตรีทุกท่านจึงมีความจำเป็นต้องตอบ นอกจากนี้ตามข้อบังคับข้อที่ 75 เมื่อการอภิปรายยุติแล้ว ห้ามผู้ใดอภิปรายอีก เว้นแต่ที่ประชุมให้ลงมติ จึงให้สิทธิผู้มีสิทธิอภิปรายก่อนลงญัตติมีสิทธิอภิปรายสรุป ไม่ได้บอกว่าไม่สรุปแล้วปิดไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการโต้เถียงดังกล่าว หลังจากนั้นนายศุภชัย ย้ำว่าให้นายสุทิน และนายวิรัช ไปหารือกันเรื่องเวลา ก่อนที่จะให้ ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน อภิปรายต่อไป
อ่านประกอบ :
'ยุทธพงศ์'ใช้ข้อมูล'อิศรา'สับ'บิ๊กตู่' ปมขายที่ดิน'พ่อ'ให้เครือ'เจริญ'-วิป รบ.เบรกขยายซักฟอก
รมว.คลัง โต้มิ่งขวัญ ไทยไม่ได้ 'เหลื่อมล้ำ' มากสุดในโลก หากวัดตามมาตรฐานเวิลด์แบงก์
'มิ่งขวัญ' ให้การบ้านรัฐบาล เร่งปรับ กม. เก็บภาษีตลาดออนไลน์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/