เปิดความเห็นอนุฯ ให้ กสทช.สั่ง บ.มือถือเช็คย้อนหลัง คิดค่าโทรเกินจริง ฝ่าฝืนส่อละเว้นหน้าที่

หมายเหตุ:รายงานชิ้นนี้นำเสนอผลการประชุมกรณีนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ร้องเรียนภายหลังประสบปัญหาถูกคิดอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เกินกว่าอัตราขั้นสูง ตามประกาศ กสทช.เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ.2555

“...ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ทำความเห็นเสนอคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เพื่อสั่งให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (จำกัด) มหาชน หรือดีแทค ตรวจสอบมีการคิดค่าบริการเก็บอัตราขั้นสูง 0.99 บาทหรือไม่ และรายงานให้ กทค.ทราบ หากพบมีการคิดค่าบริการเกินกว่าอัตราขั้นสูง 0.99 บาท ให้บริษัทฯ หาแนวทางคืนเงินที่เรียกเก็บค่าบริการเกินให้แก่ผู้ใช้บริการ”

มติที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ขอให้ กสทช.ตรวจสอบเอไอเอสคิดค่าบริการเกินกว่าอัตราขั้นสูงตามประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ.2555 และถูกคิดค่าบริการเกินเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตลดค่าบริการลงร้อยละ 15

(อ่านประกอบ:อนุฯ คุ้มครองผู้บริโภค ชง กทค.สั่งค่ายมือถือรีเช็คคิดค่าโทรเกินจริง พบกระทำผิดต้องชดใช้/ จับตาวาระร้อน! อนุฯ คุ้มครองผู้บริโภค ถกแก้คิดค่าโทรเกินจริง กับสิทธิผู้ใช้บริการ)

นายประสงค์ได้ให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการฯ โดยทราบว่า อัตราค่าบริการเสียงของบริการ 2G คืออัตราค่าบริการเกิน 0.99 บาท แต่กลับถูกเรียกเก็บนาทีละ 1.50 บาท จึงร้องเรียนต่อสำนักงาน กสทช. และได้รับคืนเงินจากบริษัทฯ เป็น 2,704.74 บาท จึงคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับหน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้จ่ายค่าโทรศัพท์ให้กับผู้ร้องเรียน (ขณะนั้นนายประสงค์ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย หรือ คปก.)

จากนั้นได้ทราบว่า ในบริการ 2G ผู้ให้บริการคิดค่าบริการเกิน 0.99 บาท ทั้งในรูปแบบรายการส่งเสริมการขายพื้นฐานและค่าบริการส่วนที่เกินรายการส่งเสริมการขาย แต่มีผู้ร้องเรียนกับสำนักงาน กสทช.เพียง 200 กว่ารายที่ได้รับเงินคืน ขณะที่มีผู้บริโภคที่ถูกคิดค่าบริการอย่างไม่เป็นธรรมจำนวนหลายล้านราย โดยเฉพาะส่วนราชการที่จ่ายค่าโทรศัพท์ให้กับเจ้าหน้าที่

ดังนั้น หากดำเนินการเรื่องนี้ไห้เป็นการทั่วไปจะทำให้เกิดประโยชน์กับราชการและประชาชนจำนวนมหาศาล

(อ่านประกอบ: AIS ยอมคืนเงิน ผอ.อิศรา คิดค่าโทรเกินเพดาน ร้อง กสทช.ตรวจสอบทั้งระบบ)

การที่ผู้ให้บริการทราบอยู่แล้ว แต่ยังคงคิดค่าบริการที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกฎหมายอาญา และควรเริ่มจากการบังคับใช้กฎหมายตามประกาศอัตราขั้นสูงฯ 0.99 บาท เพราะมีกฎหมายเขียนไว้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการได้แสดงรายละเอียดการใช้บริกาของผู้ร้องเรียนตั้งแต่ปี 2555 ดังนั้นจึงเชื่อว่า ผู้ให้บริการสามารถตรวจสอบการใช้บริการย้อนหลังของผู้ใช้บริการทุกรายได้เช่นกัน

การสั่งผู้ให้บริการสามารถให้บริษัทฯ ตรวจสอบย้อนหลังและรายงานผลว่า มีการคิดค่าบริการเกินกว่าอัตราขั้นสูงฯ หรือไม่ หากตรวจสอบแล้วไม่พบและหากมีข้อเรียกร้องภายหลังถือว่า บริษัทฯ รายงานเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน ภายหลังจากการตรวจสอบย้อนหลังและรายงานแล้ว จึงมีคำสั่งให้บริษัทฯ คืนเงินค่าบริการที่เรียกเก็บเกินกับผู้บริโภค และหากพิสูจน์ได้ว่าเคยมีการร้องเรียน มีข้อวินิจฉัย และยังเก็บเกิน 0.99 บาท อีกถือเป็นเจตนาชัดเจนในการฉ้อโกงประชาชน

ส่วนประเด็นสัญญาแนบท้ายใบอนุญาต นายประสงค์ให้ข้อมูลว่า ประชาชนทั่วไปไม่เข้าใจและไม่รู้วิธีการคิดค่าอัตราค่าเฉลี่ยที่สำนักงาน กสทช. แจ้งว่าราคาค่าบริการถูกกว่าราคาเต็มร้อยละ 15 แต่ยังพบว่ามีการเรียกเก็บค่าบริการนอกรายการส่งเสริมการขายในอัตรา 1.50 บาท /นาที และจากการเปรียบเทียบพบว่าราคาที่ถูกลงนั้นควรเป็นดังนี้

บริการเสียง 0.97 บาท/นาที เหลือ 0.82 บาท/นาที

เอสเอ็มเอส 1.56 บาท/ข้อความ เหลือ 1.33 บาท/ข้อความ

เอ็มเอ็มเอส 3.90 บาท/ข้อความ เหลือ 3.32 บาท/ข้อความ

อินเทอร์เน็ต 0.33 บาท/เมกะไบต์ เหลือ 0.28 บาท/เมกะไบต์

ทำให้เข้าใจว่า ผู้ให้บริการน่าจะต้องคิดค่าบริการโทรศัพท์ประเภทเสียงได้ไม่เกินนาทีละ 0.82 บาท แต่กลับถูกคิดค่าบริการนอกรายการส่งเสริมการขายในราคา 1.50 บาท เช่นเดิม

(อ่านประกอบ: ‘ผอ.อิศรา’ ส่งหนังสือ ‘ฐากร’ ปมค่ายมือถือคิดค่าโทรเกินประกาศ กสทช.-ให้ชดใช้คืนผู้บริโภค/ ไม่ใช่คนเดียวที่โดน!'ผอ.อิศรา'ยื่นกสทช.สอบปมคิดค่าโทรเกินทุกค่ายมือถือ)

จี้ กสทช.สั่งค่ายมือถือตรวจย้อนหลังคิดค่าโทรเกินจริงโดยไม่ต้องร้องเรียน

จากข้อมูลที่ได้รับฟัง ที่ประชุมฯ จึงมีความเห็นและข้อสังเกต โดยในประเด็น 0.99 บาท ในกรณีที่ผู้ที่ถูกเก็บเงินเกินไปแล้ว มีทางหรือไม่ที่ กสทช.จะสั่งให้ผู้ให้บริการตรวจสอบและคืนเงินให้กับผู้บริโภค โดยไม่ต้องรอร้องเรียน และประเด็นค่าบริการ 3G ควรออกเป็นอัตราขั้นสูงฯ ด้วย

ฝ่ายเลขานุการยังชี้แจงว่า กรณีบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงฯ ต้องมีคำสั่งทางปกครอง ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่า กรณีดังกล่าวควรดำเนินการเพื่อให้บริษัทฯ คืนเงินให้กับผู้บริโภคเป็นการทั่วไป

ทั้งนี้ ในเชิงกฎหมายการสั่งให้คืนโดยเป็นการทั่วไป อาจเป็นเรื่องที่สำนักงาน กสทช.ต้องพิจารณาว่า การดำเนินการของบริษัทฯ เป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแลในการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย

หากผู้ให้บริการกระทำผิดกฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแลไม่ดำเนินการ ที่ประชุมเห็นว่า อาจมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่!!!

ฝ่ายเลขานุการยังระบุว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ได้สั่งการให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องอัตราขั้นสูงฯ ตามที่นายประสงค์มีการเสนอข่าวเรื่องนี้

ทั้งยังมีข้อสังเกตว่า สำนักงาน กสทช.ควรนำกรณีเรื่องนี้ประชุมหารือในการแก้ไขปัญหาในระดับนโยบาย โดยให้แยกการพิจารณาระหว่างการแก้ไขปัญหาร้องเรียนและการกำกับดูแล โดยการกำกับดูแลควรพิจารณาแยกเป็นโปรโมชั่นที่ผิดกฎหมายและการคืนเงิน

ขณะนี้ที่สำนักงาน กสทช.ดำเนินการคือ โปรโมชั่นที่ผิดกฎหมาย แต่สิ่งที่ผู้ร้องเรียนเสนอคือการตรวจสอบเรื่องการคืนเงิน โดยการสั่งให้มีการตรวจสอบและรายงานว่า มีการเก็บค่าบริการเกินหรือไม่ และสั่งการให้มีการคืนเงินกับผู้บริโภคต่อไป โดยไม่ต้องตรวจสอบโปรโมชั่น แต่ตรวจสอบรายละเอียดการใช้งานว่า มีการเรียกเก็บเกินอัตราขั้นสูงฯ หรือไม่

“สำนักงาน กสทช.มีหน้าที่ตรวจสอบไม่ให้ผู้ให้บริการเอาเปรียบผู้บริโภค เมื่อมีข้อเท็จจริงว่า มีการกระทำเช่นนั้น กสทช.ก็มีอำนาจให้เอกชนรายงานตามที่ผู้ร้องแจ้งและอนุกรรมการฯ ควรทำข้อเสนอเรื่องนี้ให้ กทค.พิจารณา ตามมาตรา 31 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศนื และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 โดยแจ้งว่าเป็นผลพวงจากเรื่องร้องเรียน” ความเห็นและข้อสังเกตในที่ประชุมฯ

สำหรับประเด็นค่าบริการ 3G ที่ประชุมมีความเห็นและข้อสังเกต โดยพบว่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ต้นทุนการให้บริการ 3G ถูกกว่าบริการ 2G การกำหนดอัตราขั้นสูง 3G มีความเป็นไปได้หรือไม่ เพราะเชื่อว่า แม้กำหนดอัตราขั้นสูงฯ 0.99 บาท/นาที บริการ 3G จะได้กำไรมากกว่าบริการ 2G

กรณีข้างต้นนายประสงค์ขอส่งเอกสารเพิ่มเติม 2 ฉบับ คือ ตารางการคืนเงิน และใบเสร็จรับเงินของหน่วยงานราชการ

ทั้งนี้ การที่สำนักงาน กสทช. แจ้งว่าเป็นค่าเฉลี่ยทุกโปรโมชั่น สำนักงาน กสทช.มีข้อมูลทุกโปรโมชั่นครบหรือไม่ แน่ใจอย่างไรว่าเป็นค่าเฉลี่ยที่ถูกลงร้อยละ 15 จริง อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการประชุมประมูลคลื่น 2100 MHz เคยมีการพูดว่า จะคำนวณต้นทุน 3G และจะออกอัตราขั้นสูงภายใน 1 ปี แต่ปัจจุบันกลับไม่มีการพูดถึงอัตราขั้นสูงอีกต่อไป

และยังเห็นว่า กฎหมายให้ กสทช.มีอำนาจออกประกาศอัตราขั้นสูงฯ ได้ จึงไม่ควรใช้เงื่อนไขที่กำหนดให้ลดค่าบริการไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 เป็นการถาวร ปัญหาคือ ปัจจุบันไม่มีอัตราค่าบริการพื้นฐานที่ไม่ต้องผูกติดกับรายการส่งเสริมการขาย แต่เป็นการเรียกเก็บตามการใช้งานจริง

หากเห็นสมควรกำหนดอัตราขั้นสูง 3G ก็ต้องทำข้อเสนอให้กำหนดอัตราขั้นสูงเบื้องต้น หากยังไม่มีการศึกษาข้อมูลให้กำหนดในอัตรา 0.99 บาท ของ 2G มาเป็นฐานก็ได้

ทั้งหมด คือ ความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ภายหลังนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ในฐานะผู้ร้องเรียน เข้าให้ข้อมูล เพื่อให้ กสทช. เร่งมีคำสั่งบริษัท ค่ายมือถือ ตรวจสอบย้อนหลังการคิดเก็บค่าบริการตามประกาศ กสทช. เรื่องอัตราขั้นสูงฯ เกินจริงหรือไม่ โดยต้องดำเนินการเป็นการทั่วไป และสร้างมาตการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในการให้บริการ 3G และ 4G ต่อไป .

อ่านประกอบ:มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จี้ค่ายมือถือรีเช็คคิดค่าโทรเกินจริง ไม่เฉพาะผู้ร้อง ให้ชดใช้คืนทุกราย

กสทช.แนะผู้บริโภคหาหลักฐานร้องเรียนค่ายมือถือคิดค่าโทรเกินจริง

ภาพประกอบ:ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์-เว็บไซต์ TNN24