เปิดตัว 'หลานเอ-บี' ผู้รับโอนหุ้น บ.วี-ลัคฯ เป็น ผจก.สนามไดร์ฟกอล์ฟ ลูก 'พี่ชายสมพร'

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 22 เมษายน 2562 เวลา 18:02 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | Isranews | ข่าวบุคคลดัง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด | สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ | พรรคอนาคตใหม่ | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

"...มีหุ้นอยู่ 2 กอง คือมาจาก นายธนาธรและภรรยา จึงได้ใส่ชื่อ นายปิติ ซึ่งเป็นพี่ชายเข้าไปด้วย แต่ในทางดำเนินงานนั้นทำคนเดียว เมื่อได้รับหุ้นมาแล้ว ในระยะเวลา 2 เดือน ได้เข้าไปศึกษาข้อมูลของบริษัทฯ ดูบัญชี กระแสเงินสดต่างๆ และได้โปรเจคต์ที่จะทำมา 2 แบบ คือ ทำเป็นอีบุ๊ค แต่ประเมินแล้วมีความเสี่ยงสูง และอีกอย่างคือ ทำเป็นสำนักพิมพ์และอีบุ๊คไปด้วย ประเมินแล้ว 5 ปี น่าจะได้ประมาณ 7 ล้านบาท แต่ก็ต้องเอาเงินเข้าไป 7 ล้านบาทก่อนเช่นกัน เมื่อประเมินดูแล้ว ตัดสินใจว่าน่าจะทำไม่ไหว ต่อมาในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 จึงบอกในที่ประชุมว่าทำไม่ไหว และคืนหุ้นที่ได้รับมาหลังจากนั้น 2 วัน (21 มี.ค. 2562)..."

22เมย62 ACOV vluck

"เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น นางสมพร (จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) ได้โอนหุ้นไปยังนายทวี และ นายปิติ จรุงสถิตพงศ์ ผู้เป็นหลานชาย ส่วนสาเหตุที่นางสมพรได้โอนหุ้นนั้นก็ต้องชี้แจงก่อนว่าเดิม บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด นั้นตั้งใจจะปิดบริษัทตั้งแต่ปลายปี 2561 แต่ปรากฏว่ามีหนี้ค้างชำระประมาณ 11 ล้านบาท ทางฝ่ายบัญชีของบริษัทก็แนะนำว่าอย่าพึ่งปิด เสียดายหนี้ที่ค้างอยู่ ควรจะทางการชำระหนี้ที่ค้างชำระไว้ให้เสร็จ"

"ดังนั้น นางสมพร จึงเกิดดำริว่าควรจะให้หลานๆเข้ามาทำธุรกิจ ได้เข้ามารู้ประสบการณ์การตามทวงหนี้ จึงได้ทำการโอนหุ้นไปให้นายทวีและนายปิติในวันที่ 14 ม.ค. ดังนั้นจึงขอเรียงช่วงเวลาตามนี้ว่าหลังจากวันที่ 8 ม.ค.บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด มีผู้ถือหุ้นจำนวน 8 คนหลังจากที่นายธนาธรและนางรวิพรรณได้โอนหุ้นออกไป พอมาถึงวันที่ 14 ม.ค. ก็กลับมามีผู้ถือหุ้นจำนวน 10 คนอีกเพราะมีการโอนหุ้นของนางสมพรไปให้กับนายทวีและนายปิติ ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มี.ค. นางรวิพรรณลงนามในหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท ทั้งๆไม่มีหุ้นเหลืออยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามตามกฎหมายนั้นระบุว่าแม้จะไม่มีหุ้น แต่ก็เป็นกรรมการบริษัทได้ ดังนั้นเพื่อความสง่างาม นางรวิพรรณจึงได้ทำหนังสือลงนามว่าจะลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทด้วย โดยให้มีผลในวันที่ 19 มี.ค."

คือ หนึ่งในข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกรณีการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงเป็นทางการต่อสาธารณชน ในช่วงสายวันที่ 22 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา (อ่านประกอบ : อนค.งัดหลักฐานโชว์ปมโอนหุ้น‘ธนาธร’-หลาน 2 คนมาเพื่อตามหนี้ หอบเอกสารแจง กกต.แล้ว)

ทั้งนี้ หากสาธารณชนยังจำกันได้ ในช่วงค่ำวันที่ 2 เม.ย.2562 ที่ผ่านมา นายธนาธร ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการโอนหุ้นดังกล่าว โดยืนยันว่า ได้โอนหุ้น จำนวน 675,000 หุ้น ด้วยการขายให้นางสมพรตั้งแต่ 8 ม.ค.2562 โดยนางสมพรได้จ่ายเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาถนนบางนา-ตราด (เซ็นทรัลซิตี้) ขีดคร่อมผู้ถือ (A/C PAYEE ONLY) ฉบับลงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 สั่งจ่ายนายธนาธร เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ นางรวิพรรณ ภรรยาก็โอนหุ้นจำนวน 225,000 หุ้น ให้นางสมพรด้วย หลังจากนั้น 14 ม.ค.2562 นางสมพรได้โอนหุ้นเดิมของนายธนาธร ต่อไปให้คุณเอหลานชายคนที่ 1 และโอนหุ้นเดิมของภรรยาไปให้คุณบีหลานชายคนที่สอง ทำให้ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม 4 คนและมีผู้รับมอบฉันทะซึ่งรับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นซึ่งมิได้เข้าร่วมประชุมด้วยตนเองทั้ง 6 คน รวมเป็น 10 คน จากนั้นวันที่ 21 มีนาคม 2562 หลานชายทั้งสองคนได้โอนหุ้นกลับคืนให้นางสมพร ตามลำดับ พร้อมกับคนอื่นอีก 3 คนก็โอนหุ้นให้นางสมพรด้วย จึงเหลือผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 21 มี.ค.2562 จำนวน 5 คน และนางสมพรนำส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทฯ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

อย่างไรก็ดี ในการชี้แจงครั้งนั้น นายธนาธร ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ คุณเอหลานชายคนที่ 1 และ คุณบีหลานชายคนที่สอง มากนัก

หากแต่ในการแถลงข่าวครั้งนี้ของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุชื่อชัดเจนว่า คุณเอหลานชายคนที่ 1 และ คุณบีหลานชายคนที่สอง คือ นายทวี และ นายปิติ จรุงสถิตพงศ์

เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบตราสารโอนหุ้น ระหว่าง นางสมพร กับ นายทวี และ นายปิติ ที่นายปิยบุตร นำมาเปิดเผยข้อมูลต่อสารธารณชน มีการระบุข้อมูลนายทวี ว่ามีอายุ 46 ปี สัญชาติไทย มีอาชีพค้าขาย ส่วนนายปิติ อายุ 47 ปี สัญญาติไทย มีอาชีพค้าขายเช่นกัน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบฐานข้อมูลในโลกออนไลน์ พบว่า นายทวี ถูกระบุชื่อเป็นผู้จัดการทั่วไปของ สนามไดร์ฟกอล์ฟเบอร์ดี้ไฟว์ ซึ่งห้องประชุมชั้น 2 ถูกใช้เป็นสถานที่จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 ของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ก่อนที่เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด โดยนางสมพร กรรมการบริษัท จะแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า มีกรรมการลาออก 1 ราย คือนางรวิพรรณ ในการยื่นแจ้งกรรมการออกครั้งนี้ ได้แนบเอกสารคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด ทำขึ้นเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 มีกรรมการ/ผู้ถือหุ้นเข้าประชุม จำนวน 10 คน ด้วย (อ่านประกอบ : พนักงานยัน เห็นพี่สาว'ธนาธร' ร่วมประชุม วันที่ 19 มี.ค. ใช้ชื่อ 'วี-ลัค' จองสถานที่)

ต่อมา ช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2562 นายทวี จรุงสถิตพงศ์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรายืนยันว่า ตนเป็นหลานของ นางสมพร จึงรุ่งเรื่องกิจ จริง โดยนางสมพร เป็นน้องสาวของ นายเที่ยง จรุงสถิตพงศ์ บิดาของตน ซึ่งเป็นพี่คนโต ส่วนนางสมพรเป็นน้องคนเล็ก ส่วนตัวเรียกนางสมพรว่า อาโกว

เมื่อถามว่า การรับโอนหุ้น บริษัทวี-ลัคฯ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายทวี ตอบว่า ได้รับการโอนหุ้นเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2562 เนื่องจากก่อนหน้านั้นตนได้เข้าพบกับนางสมพรเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานของลูกสาวตน และนางสมพรได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง บริษัทวีลัคฯ ด้วย และเสนอให้เข้าไปดำเนินกิจการต่อ

เมื่อถามว่า เหตุผลที่ได้รับการโอนหุ้นก็เพื่อเข้ามาดูแลกิจการบริษัทคืออะไร นายทวี ตอบว่า เหตุผลที่ได้รับโอนหุ้นคือนางสมพรมองว่าธุรกิจของบริษัทวี-ลัคฯ น่าจะไปต่อได้ จึงเสนอให้ตนลองเอาไปทำ เพราะเห็นว่าเรียนจบด้านนิเทศศาสตร์มา ซึ่งตนก็รับปาก

เมื่อถามว่า เรื่องการติดตามหนี้จากลูกหนี้ค้างชำระจำนวน 11 ล้านบาท ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายทวี ตอบว่า ในส่วนของบัญชีลูกหนี้เจ้าหนี้นั้น ไม่ได้มีอยู่ในมือเป็นรายๆ ว่ามีอะไรบ้าง แต่เห็นผ่านตาว่ามีเหมือนกัน

“มีหุ้นอยู่ 2 กอง คือมาจาก นายธนาธรและภรรยา จึงได้ใส่ชื่อ นายปิติ ซึ่งเป็นพี่ชายเข้าไปด้วย แต่ในทางดำเนินงานนั้นทำคนเดียว เมื่อได้รับหุ้นมาแล้ว ในระยะเวลา 2 เดือน ได้เข้าไปศึกษาข้อมูลของบริษัทฯ ดูบัญชี กระแสเงินสดต่างๆ และได้โปรเจคต์ที่จะทำมา 2 แบบ คือ ทำเป็นอีบุ๊ค แต่ประเมินแล้วมีความเสี่ยงสูง และอีกอย่างคือ ทำเป็นสำนักพิมพ์และอีบุ๊คไปด้วย ประเมินแล้ว 5 ปี น่าจะได้ประมาณ 7 ล้านบาท แต่ก็ต้องเอาเงินเข้าไป 7 ล้านบาทก่อนเช่นกัน เมื่อประเมินดูแล้ว ตัดสินใจว่าน่าจะทำไม่ไหว ต่อมาในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 จึงบอกในที่ประชุมว่าทำไม่ไหว และคืนหุ้นที่ได้รับมาหลังจากนั้น 2 วัน (21 มี.ค. 2562)” นายทวี กล่าว

เมื่อถามว่า นายปิติ จรุงสถิตพงศ์ เป็นใคร นายทวี ตอบว่า เป็นพี่ชายตน อายุ 48 ปี ประกอบกิจการส่วนตัว ส่วนตนเป็นน้องชายอายุ 47 ปี

เมื่อถามว่า ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทั่วไป สนามไดร์ฟกอล์ฟเบอร์ดี้ไฟว์ ใช่หรือไม่ นายทวี ตอบว่า “ทำในลักษณะช่วยงานมากกว่า ทำที่นี่เข้าปีที่ 7 แล้ว”

เมื่อถามว่า กกต. เรียกให้เข้าชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่ นายทวี ตอบว่า “ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีใครเรียกแต่อย่างใด สำนักข่าวอิศราเป็นที่แรกที่สอบถามตน”

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/