ดูชัดๆ คำสั่ง ป.ป.ช.ไต่สวน พ.อ.กับพวก คดีทุจริตประมูลรถทหาร 9 ลอต 1.1 พันคัน

เขียนวันที่

วันอาทิตย์ ที่ 22 เมษายน 2561 เวลา 20:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | Isranews | จัดซื้อจัดจ้าง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

เปิดหนังสือคำสั่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. 14 มี.ค.61 ตั้งอนุ กก.ฯ ไต่สวน พ.อ. รอง ผอ.กองคลัง ขส.ทบ. พ.ท.หญิง กับพวก 5 คน พฤติการณ์ ปลอมบัญชีขายทอดตลาดรถทหาร 9 ลอต 1.1 พันคัน ออกใบเสร็จรับเงิน 7 ฉบับ ‘สุรศักดิ์ คีรีวิเชียร’ปธ. ‘พล.อ. อกนิษฐ์’ร่วม

picbook0122 4 18

กรณีการปลอมบัญชีขายทอดตลาดรถยนต์ชำรุดของ กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) อย่างน้อย 9 ครั้ง 1,136 คันซึ่งมี นายทหารอย่างน้อย 2 คนเกี่ยวข้องและแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนซึ่งตกเป็นข่าวตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 2560 ล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง และตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้อง 5 คน

1. พ.อ.ภพกฤต พันธ์ยศ รองผู้อำนวยการกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก กระทรวงกลาโหม
2. พ.ท.หญิงศิริโสภา จันทรุกขา หัวหน้าแผนกทะเบียนกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก
3. นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร
4. นายณัฐวุฒิ สมสวย
5.นายคฑาสุรเชษฐ์ หรือณัชวงศักด์ โรจน์พุทธิภิญโญ

ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานอย่างต่อเนื่อง (อ่านประกอบ:โชว์หรา! ป.ป.ช.สอบ 2 นายทหาร -3 เอกชนคดีปลอมบัญชีรถประมูล 1.1 พันคัน)

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา นำหนังสือคำสั่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ 205/2561 ฉบับลงวันที่ 14 มี.ค.2561 แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง มาเสนอ

คำสั่ง คณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง มีนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ พล.อ. อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ อนุกรรมการ และอนุกรรมการอีก 4 คน มีสาระสำคัญ

1.เรื่องที่ถูกกล่าวหา

ร่วมกันปลอมหนังสือกองคลัง และใบเสร็จรับเงิน กรมการขนส่งทหารบก เพื่อนำส่งบัญชียานพาหนะชำรุดที่ได้รับอนุมัติให้ขายทอดตลาด ทั้งที่ไม่มีการขายทอดตลาดยานพาหนะและใช้หนังสือปลอมดังกล่าวเป็นเหตุให้กรมการขนส่งทางบก หลงเชื่อว่ามีการขายทอดตลาดยานพาหนะและดำเนินการออกหนังสือรับรองหลักฐานให้แก่ นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร นายณัฐวุฒิ สมสวย และ นายคฑาสุรเชษฐ์ หรือณัชวงศักด์ โรจน์พุทธิภิญโญ ไปโดยผิดหลง

2.ข้อกล่าวหา

ทุจริตต่อหน้าที่เกี่ยวกับการขายทอดตลาดยานพาหนะ

3. พฤติการณ์ในการกระทำความผิด พ.อ.ภพกฤต พันธ์ยศ ลงนามใน

หนังสือกรมการขนส่งทหารบกที่ กห.0444.9/0417 ลงวันที่ 19 ก.พ.2557
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/0443 ลงวันที่ 25 ก.พ.2557
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/0908 ลงวันที่ 10 เม.ย. 2557
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/1034 ลงวันที่ 29 เม.ย.2557
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/1214 ลงวันที่ 29 พ.ค.2557
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/1356 ลงวันที่ 1 ก.ค. 2557
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/1919 ลงวันที่ 1 ก.ย. 2557
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/2656 ลงวันที่ 19 ก.พ. 2558
หนังสือกรมการขนส่งทหารบก ที่ กห.0444.9/3095 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2558

ถึงหัวหน้าส่วนควบคุมบัญชีรถและเครื่องยนต์ กรมการขนส่งทหารบก พร้อมกับแนบบัญชียานพาหนะชำรุดที่ได้รับอนุมัติให้ทำการขายทอดตลาด จัดทำและลงนามในใบเสร็จรับเงินของกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก ฉบับลงวันที่ 29 ม.ค.2558 ฉบับลงวันที่ 12 มี.ค.2558 และลงนามขอแก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับยานพาหนะจำนวนหลายครั้ง เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงการขายทอดตลาดซากยานพาหนะ จำนวน 1,136 คัน ไปยังกรมการขนส่งทางบก และเป็นหลักฐานในการตรวจสอบบัญชีกับผู้ชนะการขายทอดตลาดเพื่อตัดบัญชีและขอรับโอนหรือจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคล ทั้งที่กรมการขนส่งทหารบก มิได้มอบอำนาจ หรือสั่งการ โดยร่วมกับ พ.ท.หญิง ศิริโสภา จันทรุกขา ที่ได้จัดทำและลงนามในใบเสร็จรับเงินของกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก ฉบับลงวันที่ 26 พ.ย.2556, ฉบับลงวันที่ 24 ก.พ.2557 ,ฉบับลงวันที่24 มี.ค.2557 ,ฉบับลงวันที่ 29 เม.ย.2557 ,ฉบับลงวันที่ 23 พ.ค.2557 ,ฉบับลงวันที่ 23 มิ.ย.2557 ,ฉบับลงวันที่ 20 ส.ค.2557 เป็นหลักฐานว่ากรมการขนส่งทหารบกได้รับเงินจากนายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร นายณัฐวุฒิ สมสวย และนายคฑาสุรเชษฐ์ หรือ ณัฐวงศักดิ์ โรจน์พุทธิภิญโญ ซึ่งชำระเป็นค่าซื้อซากรถจาก การขายทอดตลาดของกรมการขนส่งทหารบก ทั้งที่ กรมการขนส่งทหารบก มิได้มีคำสั่งหรือมอบหมายดำเนินการขายทอดตลาด เป็นเหตุให้ กรมการขนส่งทางบก หลงเชื่อว่ามีการขายทอดตลาดยานพาหนะของกรมการขนส่งทหารบกจริง และดำเนินการออกหนังสือรับรองหลักฐานให้แก่นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร นายณัฐวุฒิ สมสวย และนายคฑาสุรเชษฐ์ หรือ ณัฐวงศักดิ์ โรจน์พุทธิภิญโญ โดยหลงผิด

ฐานความผิด

กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยทุจริต มีพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหน้าที่ ทั้งที่มิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่

คำสั่งฉบับนี้ให้อนุกรรมการมีหน้าที่ 4 ข้อ ในท้ายของคำสั่งระบุว่า

ในการดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน หรือการไต่สวนข้อเท็จจริงให้อนุกรรมการ เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่และมีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวน สำหรับการจัดการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหา มาดำเนินคดี โดยในการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวน หากพบว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในเรื่องที่อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงให้คณะอนุกรรมการไต่สวนรายงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาสั่งให้ไต่สวนผู้นั้น และให้ใช้บังคับกับกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่นเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือ ผู้ สนับสนุน รวมทั้งผู้ให้ ผู้ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่บุคคลตามมาตรา 66 เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่นเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน แล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ ตั้งแตวันที่ 31 ม.ค.2561 เป็นต้นไป พล.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. (ดูหนังสือ ป.ป.ช.ประกอบ)

ต้องรอดูผล สอบสวนของ คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป

picbook22 4 18