ลักลอบนำเข้า!ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ กลุ่ม พ.อ.สวมทะเบียนรถทหาร 1.1 พันคัน
อธิบดีดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ปมสวมทะเบียนประมูลขายทอดตลาดรถทหาร ขส.ทบ. 1.1 พันคันกลุ่ม พ.อ. เบื้องต้นพบลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร กรมการขนส่งทางบกร้องทุกข์เมื่อ 7 ธ.ค.
กรณีการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ชำรุดของ กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) อย่างน้อย 9 ครั้ง 1,136 คัน โดยรถที่ถูกนำมาประมูลขาย มีทั้งรถบรรทุก รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หลายยี่ห้อบางยี่ห้อ ไม่มีใช้งานใน ขส.ทบ. หรือมิใช่รถยนต์ทหาร แต่กลุ่มบุคคลใช้วิธีเอารถจากบุคคลภายนอกที่รถนอกหน่วยจัดเตรียมไว้มาสวมบัญชีผ่านการประมูลของทางราชการและเป็นบัญชีเท็จ โดยกรมการขนส่งทางบก (ขส.) กระทรวงคมนาคม ได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2560 ตามข่าวก่อนหน้านี้
ล่าสุดแหล่งข่าวจากดีเอสไอเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2560 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้อนุมัติให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแห่งพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547และมีพนักงานอัยการร่วมสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
จากกการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ไม่มีแหล่งที่มา โดยมีการผลิตหรือมีถิ่นกำเนิดในต่างประเทศ จึงเป็นของที่มีการลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. พ.ศ.2469 มาตรา 27 และ 27 ทวิ ซึ่งกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงเห็นชอบรับเป็นคดีพิเศษ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2560 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ร่วมประชุมกับพนักงานอัยการเพื่อวางแนวทางในการสอบสวน โดยให้ดำเนินการสอบสวนกรมขนส่งทหารบกเป็นผู้กล่าวหาและสอบสวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันที่มาของรถยนต์ดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2560 กรมการขนส่งทางบกได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในความผิดฐานลักลอบนำเข้าตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และรวบรวมพยานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบพฤติการณ์ของผู้กระทำความผิด มีการนำเข้ารถยนต์เก่าใช้แล้วโดยไม่ถูกกฎหมายแล้วนำมาสวมในบัญชีรายละเอียดยานพาหนะชำรุดขายทอดตลาดของกองคลัง กรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นเอกสารปลอม เพื่อนำไปใช้ในการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก การดำเนินการต่อไปจะได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการเพื่อกำหนดการดำเนินการให้รอบคอบเนื่องจากอาจกระทบกับผู้ครอบครองรถยนต์ที่ได้มาโดยสุจริต
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2560 เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกได้เผยแพร่ข่าว นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, พล.ต.สมศักดิ์ ทรัพย์อนันต์ เจ้ากรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.), นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงข่าวการกวาดล้างขบวนการมิจฉาชีพที่แอบอ้างยื่นเอกสารเท็จรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. โดยพัวพันนายทหารยศพันเอกทำเอกสารเท็จ ระบุคำแถลงของนายสนิท พรหมวงษ์ ว่า สืบเนื่องจาก ขส.ทบ. ตรวจสอบพบพิรุธเรื่องการยื่นเอกสารการประมูลรถขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. จึงได้ประสานกรมการขนส่งทางบกขอตรวจสอบรายละเอียด การยื่นเอกสารบัญชีรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. ทุกฉบับอย่างละเอียด ซึ่งล่าสุดพบว่ามีขบวนการยื่นเอกสารส่งบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดลงนามโดยพันเอก ภพกฤต พันธ์ยศ รวมทั้งสิ้น 9 ฉบับ เป็นรถจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,136 คัน ซึ่ง ขส.ทบ. ตรวจสอบรายละเอียดและยืนยันว่าเป็นการยื่นเอกสารเท็จ เนื่องจากห้วงระยะเวลาดังกล่าว ขส.ทบ. ไม่มีการประมูลรถขายทอดตลาดแต่อย่างใด แต่เป็นการจัดทำเอกสารปลอมขึ้น โดยกลุ่มบุคคลที่จัดเตรียมเป็นขั้นตอน ต่อมา ขส.ทบ. ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ลงนามในเอกสารเท็จและผู้เกี่ยวข้องแล้ว ณ สน.เตาปูน ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ยื่นเอกสารเท็จ ณ สน.บางซื่อ
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ส่วนคดีในพื้นที่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2560 สำนักงานขนส่งจังหวัดนนทบุรี ได้มอบหมายให้นายธนู หงส์มัจฉา หัวหน้าฝ่ายทะเบียน แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อให้ดำเนินกับ พ.ท.ภูดลเป็นผู้นำเอกสารปลอมที่ออกโดยกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ) มาจดทะเบียนรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนนทบุรี จำนวน 12 คัน โดยเป็นบัญชีที่อ้างว่ามีประประมูลเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2557 , 29 พ.ค.2557 และ วันที่ 1 ก.ค.2557 เป็นเอกสารเท็จ
ปัจจุบันคดีที่มีการแจ้งความที่ สน.บางซื่อ นั้น พนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ
อ่านประกอบ:
ผอ.กองคลังผู้ลงชื่อประมูลขายทอดรถทหาร 111 คัน ได้เลื่อนตำแหน่ง
เปิดหนังสือถึงเจ้ากรมฯ สอบคดี พ.ท.สวมบัญชีรถประมูล จดทะเบียน จ.นนท์ 12 คัน
แจ้งจับ พ.ท.เครือข่าย พ.อ. ปลอมบัญชีประมูลรถทหาร ยื่นจดทะเบียน จ.นนท์ 12 คัน
เปิดตัว บ.สืบราคากลางปม 128 คัน ขส.ทบ.ที่แท้อู่ซ่อม รถทหารอื้อ เจ้าของชื่อ'ป๋าหวิล'
เปิดหมดบัญชีแลกเปลี่ยนรถ 128 คัน ขส.ทบ.-2 บ.เสนอราคากลางเท่ากันเป๊ะ 47 รายการ
บอลบินมีชื่อในคดี พ.ท.หญิงลักลอบขายรถ 49 คัน ไฉน!เป็นคู่สัญญา 9 ครั้งกว่าพันคัน
พบรถในบัญชีประมูล ขส.ทบ. หมายเลขซ้ำซ้อน ยานพาหนะ บชร.2
โนเนมจากสุรินทร์ชื่อโผล่ประมูลรถอีซูซุ-ฟาร์ 5 คัน พ.อ. ออกใบเสร็จ 5 แสนบ.
ให้มา จ.นครปฐม! ‘บอลบิน’ปัดชนะประมูลรถทหาร หลังชื่อโผล่ 8 ลอต 1,172 คัน
บัญชีรถ 128 คัน พล.อ.ปรีชาอนุมัติแลกเปลี่ยนลูกน้อง‘บอลบิน’ เทียบปม 111 คัน
แค่เข้าใจผิด! พันเอก ขส.ทบ.แจงปมชื่อโผล่ขายทอดตลาดรถ 111 คัน ยันสุจริต
เปิด 3 ใบเสร็จรับเงิน ประมูลขายทอดตลาดรถทหาร - 30 ล. เข้าบัญชีใคร?
เปิด 4 ‘พ.ท.-พ.อ.’ ชื่อโผล่ในเอกสารคดีประมูลขายทอดตลาดรถทหาร
คาดิลแลค 47 คัน-บูอิค-ลินคอล์น โผล่ในบัญชีประมูลรถทหาร คดีสวมทะเบียน
ตร.ส่ง ป.ป.ช.แล้ว!คดีประมูลทอดตลาดรถทหารฉบับ พันเอก เชื่อเป็นขบวนการ
8 ลอต 1,172 คัน! ‘บอลบิน’ คนเดียว บัญชีประมูลรถทหาร คดีสวมทะเบียน
เตรียมเรียกเอกชนแจงคดีประมูลขายรถทหารฉบับ พ.อ.-ไร้แววติดต่อ'บอลบิน'
จิ๊ปล้วนๆ 165 คัน!บัญชีขายทอดตลาดรถทหาร ชื่อ‘บอลบิน’โผล่ คดีสวมทะเบียน
ผู้ชนะประมูลขายทอดตลาดรถ 70 คัน ขส.ทบ.อยู่แฟลตห้วยขวาง คดีสวมทะเบียน
เก๋งล้วนอีก 70 คัน! รถขายทอดตลาด ขส.ทบ.-ออกใบเสร็จ 4.9 ล.ถูกสอบยัดไส้?
เปิดข้อมูลรถ 111 คัน ในบัญชีขายทอดตลาดฉบับ พ.อ.-เบนซ์อื้อ อัลฟ่า แฮมเมอร์
เปิดใบเสร็จ! พ.อ.รับเงินสด 4.9 ล. ทำบัญชีประมูลขายรถ ขส.ทบ.ลอต 111 คัน
เปิดหนังสือถึง ผบ.ทบ. ปม พ.อ. ทำบัญชีเท็จประมูลขายรถยนต์ 1,136 คัน
พบนายทหาร พ.อ.ทำเอกสารบัญชีประมูลขายรถยนต์ ขส.ทบ.เท็จ 1,136 คัน