- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- 5 คดีคนดังในศาลฎีกาฯ รอพิพากษา มิใช่‘บุญทรง-ยิ่งลักษณ์’ - 12 ส.อบจ.
5 คดีคนดังในศาลฎีกาฯ รอพิพากษา มิใช่‘บุญทรง-ยิ่งลักษณ์’ - 12 ส.อบจ.
รวมมิตร!คดีคนดังรอพิพากษาศาลฎีกาฯ ที่ไม่ใช่‘ยิ่งลักษณ์ -บุญทรง’ 5 รายรอคิว ‘เกษม’ ยึดทรัพย์รอบ 2 - สมควร โอบอ้อม อดีต ส.ส. ปชป. - สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซุกทรัพย์สิน-‘สุรพงษ์’ พาสปอร์ตแม้ว ‘กำนันเซี้ยะ’ฮั้วรับเหมา ไม่รวม 12 ส.อบจ. นักการเมืองท้องถิ่นอื้อ
คดีนักการเมืองคนดังที่อยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทุจริต (จำนำข้าว) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย (คดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558) และคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ (จีทูจี) ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวกเป็นจำเลย (คดีหมายเลขดำที่อม.25/2558) เป็นสองคดีไฮไลต์หยุดประเทศไทย มีกำหนดพิพากษาวันที่ 25 ส.ค.2560 แล้ว
หากพลิกสารบบคดีของศาลฎีกาฯ ยังมีคดีสำคัญๆ ที่นักการเมืองและข้าราชการรดับสูงรอพิพากษาอีกอย่างน้อย 4 คดี จำแนกเป็นคดีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ คดีความผิดการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) และ คดีทุจริตอื่น ดังนี้
1.นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีตที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)เชียงใหม่ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ถูก คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดร่ำรวยผิดปกติกว่า 21 ล้านบาทเป็นคดีที่สอง ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุน ในการซื้อหุ้นบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ASCON) ที่อยู่ในชื่อของ นางดวงสุดา นิมมลรัตน์ (คู่สมรส) จำนวน 61,838,310 หุ้น มูลค่าขณะได้มาหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 9,275,746 บาท และที่ดิน 2 แปลงที่ จ.เชียงใหม่ มูลค่า 11,865,000 บาท
ศาลฎีกาฯนัดพร้อม 4 ก.ย.2560
ก่อนหน้านี้นายเกษมถูก ป.ป.ช.ชี้มูลในคดียื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินเป็นเท็จและร่ำรวยผิดปกติ (คดีแรก) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา ให้มีความผิดใน 2 ข้อกล่าวหา ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และร่ำรวยผิดปกติ พิพากษายึดทรัพย์สิน 7 รายการ มูลค่า 168,453,245.70 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ตามที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ร้อง (คดีหมายเลขแดงที่ อม.44/2560) และสั่งจำคุก 12 เดือนไม่รอการลงโทษ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2560
เท่ากับนายเกษมถูก ป.ป.ช.ชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ 2 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าประมาณ 190 ล้านบาท ในจำนวนทรัพย์สินที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลเป็นหุ้นหรือเงินที่ได้จากการขายหุ้น จำนวน 2 ครั้ง 83,374,080 หุ้น จำนวน 81,420,441 บาท
2. นายสมควร โอบอ้อม อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน ศาลฎีกาฯนัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 17ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.122/2560)
3.นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ศาลฎีกาฯนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 3ก.ค.2560 , 26 ก.ค.2560 และ นัดไต่สวน3 ครั้ง คือ 21 ส.ค.2560 , 30ส.ค.2560 และ 31 ส.ค.2560 และยังไม่กำหนดวันตัดสิน (คดีหมายเลขดำที่ อม.27/2560 ) นายสุพจ์ปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเนื่องจากกรณีเหตุการณ์มีเงินสดเก็บไว้ที่บ้านเมื่อคราวถูกโจรปล้นจำนวน18 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น เหตุเกิดในพื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2554
ก่อนหน้านี้วันที่ 31 ม.ค. 2557 นายสุพจน์ถูกศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตามคำร้องของอัยการสูงสุด 19 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 46,141,038 .83 บาท 11 พ.ย. 2558 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายึดทรัพย์รวมมูลค่าทั้งสิ้น 64,998,587.52 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยเพิ่มบัญชีเงินฝาก 3 บัญชี ที่ปิดแล้วจำนวน 15,857,548.69 บาท และรถยนต์ยี่ห้อ VOLK SWAGEN มูลค่า 3 ล้านบาทแม้ไม่มีชื่อของนายสุพจน์เป็นเจ้าของ แต่รับฟังได้ว่ามีการมอบรถให้นายสุพจน์ใช้อย่างถาวร จึงเป็นทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ 1 ซึ่งเกิดจากการร่ำรวยผิดปกติด้วย
4.นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีออกหนังสือเดินทางให้แก่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งถูกศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และถูกออกหมายจับในคดีก่อการร้าย และคดีอื่น ๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4) รวมถึงส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดำเนินการถอดถอนนายสุรพงษ์ และส่งสำนวนอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อมา เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2560 สนช.ได้ถอดถอนนายสุรพงษ์ ด้วยคะแนน 231 เสียง ไม่ถอดถอน 4 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง จากทั้งหมด 238 เสียง (คดีหมายเลขดำที่ คดีดำที่ อม.51/2560)
5.นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี้ยะ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในสารบบของศาลฎีกาฯด้วยเป็นคดีความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) มีอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ (คดีหมายเลขดำที่ อม.131/2560) กำหนดพิจารณานัดแรกวันที่ 4 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ศาลฎีกาฯนัดพร้อมคดีนายเกษม นิมมลรัตน์ อดีตที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)เชียงใหม่ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลร่ำรวยผิดปกติกว่า 21.14 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายประชา ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 คดี
คดีแรกวันที่ 25 ม.ค.2559 ศาลฎีกาจำคุกนายประชา จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี ในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ , กรรโชกทรัพย์ , หน่วงเหนี่ยวกักขัง ตามประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542
คดีที่สอง วันที่ 18 เ.ม.ย.2560 คดีบุกรุกที่ดินราชพัสดุ จำนวน 1 พันกว่าไร่ ศาลฎีกาแก้ลดโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2557 ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น ให้จำคุก 4 ปี แต่คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ลดโทษให้จำคุก 3 ปี
อย่างไรก็ตาม คดีหมายเลขดำที่ อม.131/2560 ของนายประชาที่อยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผิด พ.ร.บ.ฮั้ว นั้น ไม่มีข้อมูลว่าเป็นการกระทำความผิดเมื่อใดโครงการใด
นักการเมืองอื่นคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน อาทิ
1. นายบุญธรรม เจริญกล้า นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 9 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.103/2560) (ส.อบจ.จันทบุรี)
2. นายสมเกียรติ เชียงชุม นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 9 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.104/2560) (ส.อบจ.เชียงใหม่)
3.นายเชิดพันธุ์ มาศรี นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 9 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.105/2560)
4.นายธานิน ทองพูล นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 9 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.106/2560) (ส.อบจ.พัทลุง)
5. นายสมพงค์ ทั่งศรี นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 9 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.107/2560) (ส.อบจ.ประจวบคีรีขันธ์)
6.นายสุวิทย์ บุญเรืองขาว นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 9 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.108/2560)
7.นางผานิต ฤทัยสว่างสกุล นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 10 ส.ค.60 (คดีดำที่ อม.109/2560) (ส.อบจ.ลำปาง)
8. นายกฤษดา ลือโรจน์วงศ์ นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 17 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม. 124/2560) (ส.อบจ.ประจวบคีรีขันธ์)
9.นายสมหมาย แดงโชติ นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 17 ส.ค.2560 (คดีดำที่ อม.125/2560) (ส.อบจ.ประจวบคีรีขันธ์)
10.น.ส.จินตนา กุลากุล นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 6 ก.ย.2560 (คดีดำที่ อม.128/2560) (ส.อบจ.นครพนม)
11. นางณฐฌา ไม้สนธิ์ นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 14 ก.ย.2560 (คดีดำที่ อม.158/2560) ( ส.อบจ.อุทัยธานี)
12. นายเอ ถนอมมิตรวัฒนา นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 21 ก.ย.2560 (คดีดำที่อม.145/2560)(ส.อบจ.อุทัยธานี)
กรณีนายธีมะกาญจนไพรินนักจัดรายการทีวีและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)นัดพิจารณาครั้งแรกหรือนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 27 ก.ค.2560 แต่ไม่ทราบผล
นับตั้งแต่ 5 ม.ค. 2560 จนถึง 7 มิ.ย. 2560 มีนักการเมือง ประมาณ 99 รายที่ศาลฎีกาฯพิพากษาให้มีความผิด กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และยื่นบัญชีฯ เท็จ
ใครรอด-ไม่รอด ต้องติดตามกันต่อไป?
อ่านประกอบ:
รายชื่อ 66 นักการเมืองในศาลฎีกาฯคดีไม่ยื่นทรัพย์สิน-บิ๊กท้องถิ่นอื้อ 63 คน
ศาลฎีกาฯนัดอดีตปลัดคมนาคม คดีซุกเงินสด 18 ล.อีก 3 ครั้งกรณีโจรปล้นบ้าน
ศาลฎีกาฯนัด‘สุรพงษ์’3 ครั้งออกพาสปอร์ต‘ทักษิณ’-กำนันเซี้ยะโดนอีกคดีผิดฮั้ว
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมือง จ.สตูล-สุราษฎร์ฯ ซุกเงินฝาก 7 บัญชึ-ไม่ยื่นทรัพย์สิน
คำเบิกความ ‘เกษม’ ปมซื้อหุ้นจาก‘วัฒน์ชัย’ ก่อนคดี 21 ล.- ศาลฎีกาฯ นัด 4 ก.ย.
ป.ป.ช.ฟันซ้ำ!‘เกษม’รวยผิดปกติ 21 ล.ที่ดิน 2 แปลง-หุ้น ส่งศาลฎีกาฯยึดทรัพย์
หมายเหตุ : ภาพประกอบเกษม นิมมลรัตน์ จาก khaohod.net, สมควร โอบอ้อม, สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล, ประชา โพธิพิพิธ จาก parliament.go.th, สุพจน์ ทรัพย์ล้อม จาก thaipublica.org