ผู้ว่าฯสตง.สั่งสอบปมจัดซื้อไก่อบจ.สุรินทร์-ลั่นหากเจอทุจริตเรียกคืนเงินร้อยล้าน!
'ผู้ว่าฯ สตง.' รับลูกหลักฐาน 'อิศรา' สอบพบความเชื่อมโยง '2 หจก.' ขายไก่พันธุ์ไข่ อบจ.สุรินทร์ สั่งสอบข้อมูลเชิงลึกเพิ่ม ระบุชัดหากพบมีการทุจริตจริง เจอเรียกคืนเงินร้อยล้าน!
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ได้รับทราบข้อมูลการตรวจพบความเชื่อมโยงกันระหว่าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีรัมย์ยาสัตว์ และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) สุรินทร์ยาสัตว์ ซึ่งเป็นคู่แข่งขันเสนอราคาโครงการจัดซื้อไก่พันธุ์ไข่ และวัสดุเวชภัณฑ์ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ จำนวนหลายสัญญา วงเงินกว่าร้อยล้านบาท ตามที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบแล้ว ทั้งในประเด็นเรื่องการที่ หจก. บุรีรัมย์ยาสัตว์ เช่าบ้านของหุ้นส่วน หจก.สุรินทร์ยาสัตว์ เป็นที่ตั้งในการทำธุรกิจ และการปรากฎชื่อบุคคลทำบัญชีงบดุลการเงินคนเดียวกัน
(อ่านประกอบ : เปิดทะเบียนบ้านมัด '2 หจก.' ขายไก่อบจ.สุรินทร์กลุ่มเดียวกัน-หุ้นใหญ่แจงแค่เช่าบ้านอยู่,พบหลักฐานใหม่ 2 หจก.ขายไก่อบจ.สุรินทร์ ใช้หญิงสาวทำบัญชีงบดุลฯคนเดียวกัน)
นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สตง.นำข้อมูลส่วนนี้ไปใช้ประกอบการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกแล้ว เพราะถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงเป็นกลุ่มเดียวกันของหจก.ทั้ง 2 แห่ง ขณะที่แนวทางการตรวจสอบโครงการนี้ ที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ มี 2 ประเด็นหลัก คือ 1.การกำหนดราคากลางในการจัดซื้อไก่ พบว่าแพงเกินกว่าราคาท้องตลาด ขณะที่อายุไก่ที่ซื้อมา ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 18 สัปดาห์ ถือเป็นช่วงอายุที่สั้นเกินไป และ 2.ขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนเข้ามาขายสินค้า
"ก่อนหน้านี้ สตง.ตรวจสอบภาพรวมโครงการไปแล้ว พบว่าโครงการส่อว่าจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์โครงการ และเตรียมที่จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกในขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งในส่วนของการประกวดราคาจัดซื้อพันธุ์แม่ไก่ หากพบว่ามีพฤติการณ์ทุจริตเกิดขึ้นชัดเจน ในท้ายที่สุดของการตรวจสอบก็จะนำไปสู่การเรียกเงินที่นำไปใช้ในการดำเนินงานโครงการนี้ประมาณร้อยกว่าล้านคืนจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดำเนินงานโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ ของอบจ.สุรินทร์ เริ่มดำเนินการงานโครงการระหว่างปีงบประมาณ 2557-2559 จํานวน ใช้เงินไปแล้วทั้งสิ้น 143,048,845 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2559 ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ นายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายก อบจ.สุรินทร์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงการจัดซื้อไก่พันธุ์ไข่ จาก หจก. 2 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกันดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปประมาณ 2-3 รอบ เลขาฯ ระบุว่า นายก อบจ.สุรินทร์ ติดประชุมอยู่ ต่อมาในช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปอีกครั้ง ปรากฎว่า หมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวไม่สามารถติดต่อได้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว กำหนดไว้ชัดเจน ในมาตรา 4 ว่า ผู้ใดตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสามปี และปรับร้อยละห้าสิบของจำนวนเงินที่มีการเสนอราคาสูงสุดในระหว่างผู้ร่วมกระทำความผิดนั้น หรือของจำนวนเงินที่มีการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
ผู้ใดเป็นธุระในการชักชวนให้ผู้อื่นร่วมตกลงกันในการกระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ผู้นั้นต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่ง
ขณะที่มาตรา 10 กำหนดไว้ว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติการพิจารณาหรือการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนั้น มีความผิดฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
อ่านประกอบ :
ซื้อไก่ไข่แพงเกินจริง เสียหาย11ล.!สตง.แจ้งผู้ว่าฯสั่งนายกอบจ.สุรินทร์ชดใช้
ฉบับเต็ม! สตง.ชำแหละโครงการเลี้ยงไก่ อบจ.สุรินทร์ 143 ล. บกพร่องเพียบ
หจก.รายเดียวคว้า4 สัญญา103ล.!ข้อมูลจัดซื้อไก่อบจ.สุรินทร์ ก่อนสตง.ลุยสอบ