- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ย้อนข้อมูล คนใกล้ชิด"เสี่ยเปี๋ยง” ก่อนโดนรวบสอบคดีมันเส้นจีทูจี"เก๊" ซ้ำรอย "ข้าว"?
ย้อนข้อมูล คนใกล้ชิด"เสี่ยเปี๋ยง” ก่อนโดนรวบสอบคดีมันเส้นจีทูจี"เก๊" ซ้ำรอย "ข้าว"?
"..ณ วันนี้ ชื่อของ นายสมคิด เอื้อนสุภา นายสุธี เชื่อมไธสง นายลิตร พอใจ ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการระบายมันเส้นแบบจีทูจีอีกครั้ง! ขณะที่บทบาท ก็ยังเหมือนกับกรณีข้าว คือ อยู่ในกลุ่มผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทนนิติบุคคลของผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากบริษัทที่เข้ามาทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ เจ้าของเงินที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง.."
ในบรรดารายชื่อบุคคล กลุ่มเอกชน จำนวน 20 ราย ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวมจำนวน 31 ราย เกี่ยวกับการซื้อขายมันสำปะหลัง (มันเส้น) ในรูปแบบสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่กำลังถูกไต่สวนข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ในขณะนี้
อันประกอบไปด้วย
(1) บริษัท เอลัช (ประเทศไทย) จำกัด
(2) นายชู หมิง เช็น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท เอลัช (ประเทศไทย) จำกัด
(3) นางสาวลิอุ ยุก หมิง ไอลีน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท เอลัช (ประเทศไทย) จำกัด
(4) นายชู หมิง คิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท เอลัช (ประเทศไทย) จำกัด
(5) นายสุธี เชื่อมไธสง
(6) Miss Chen Yifan
(7) บริษัท พี เอส ซี สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
(8) นางสาวอารยา กำปั่นแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท พี เอส ซี สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
(9) นายสุมนต์ เสรีธรณกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท พี เอส ซี สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน
(10) นายสรัญ เสรีธรณกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท พี เอส ซี สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
(11) นายสิรินทร์ เสรีธรณกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท พี เอส ซี สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
(12) นายสราวุธ เสรีธรณกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท พี เอส ซี สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
(13) นางสาวเรณู รักแม่
(14) Ms. Liang Jinmei
(15) บริษัท เอส บี พรีเมียร์ โปรดักส์ จำกัด
(16) นายสมบูรณ์ วัฒนวานิชย์กุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทเอสบี พรีเมียร์ โปรดักส์ จำกัด
(17) นายลิตร พอใจ
(18) บริษัทสุวรรณเกลียวทอง จำกัด
(19) นายจักรพงศ์ ปิติพรสัมฤทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทสุวรรณเกลียวทอง จำกัด
(20) นายสมคิด เอื้อนสุภา
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบปมซื้อมันเส้นจีทูจียุค“ปู”-“บุญทรง-วีระวุฒิ-มนัส”เอี่ยวด้วย)
ชื่อของ "นายสุธี เชื่อมไธสง" "นายลิตร พอใจ" และ "นายสมคิด เอื้อนสุภา" ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะบุคคลทั้งสาม ล้วนแล้วแต่ปรากฎรายชื่อ เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลไปแล้ว (พร้อมกับนายบุญทรง และพวกอีกจำนวนนับสิบราย มีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน)
ทั้งนี้ ในสำนวนสอบสวนคดีระบายข้าวจีทูจี ระบุว่า นายสุธี เชื่อมไธสง นายสมคิด เอื้อนสุภา และ นายลิตร พอใจ เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการซื้อขายข้าวของบริษัทจีน
โดยนายสมคิด เอื้อนสุภา และ นายลิตร พอใจ ปรากฎชื่อ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทจีน ให้เข้ามาลงนามซื้อขายข้าวกับรัฐบาลไทย ในรูปแบบจีทูจี
แต่เมื่อทำสัญญาซื้อขายข้าวที่อ้างว่าเป็นจีทูจีไปแล้ว ข้าวในสต๊อกรัฐบาลกลับมิได้มีการส่งออกไปนอกประเทศแต่อย่างใด
ข้าวอย่างคงวนเวียนอยู่ในประเทศ โดยมีบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการ
หากผู้ค้าข้าวรายใด ที่สนใจจะซื้อข้าวส่วนนี้ สามารถติดต่อซื้อขายผ่านบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ได้ ทำให้ ป.ป.ช. ลงความเห็นว่า การซื้อขายครั้งนี้ ไม่ใช่การซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจริง
แต่เป็นการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กับ Guangdong (กวางตุ้ง) stationery & sporting goods imp. & exp. Corp. และ Hainan (ไห่หนาน) grain and oil industrial trading company ที่มิได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนให้เข้ามาทำสัญญาซื้อขาย แต่ให้มีสิทธิเข้าทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยไม่ต้องแข่งขันราคากับผู้เสนอราคารายอื่นแล้วนำข้าวที่ซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายตลาดภายในประเทศ หรือต่ำกว่าราคาที่ฝ่ายไทยเสนอ หรือต่ำกว่าราคาที่รับจำนำ นำไปขายต่อให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศ หรือนำไปให้บริษัท สยามอินดิก้าฯ นำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง
โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องคือ พ.ต.วีระวุฒิ วัจจนะพุกกะ เลขานุการนายบุญทรง กับ นายโจ หรือนิมล รักดี ซึ่งเป็นคนสนิทนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้ง บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เข้าไปเกี่ยวข้องในการซื้อขายครั้งนี้ และเช็คอีกหลายร้อยใบเป็นหลักฐานยืนยัน
ทั้งนี้ ในส่วนของ นายสมคิด เอื้อนสุภา ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบว่ามีบทบาทสำคัญในเรื่องข้าวจีทูจีดังนี้
ประการแรก
ภายหลังจากที่ บริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน คู่สัญญาการซื้อขายข้าวจีทูจี กับกรมการค้าต่างประเทศ ได้มอบอำนาจให้ "นายรัฐนิธ โสจิระกุล" เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ
และ "นายรัฐนิธ โสจิระกุล" ได้มอบอำนาจให้ นายนิมล รักดี (เสี่ยโจ) ชาว อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ดำเนินการรับมอบข้าวออกจากโกดังแทน และมีการตรวจสอบพบข้อมูลว่า ข้าวในสต็อกรัฐบาล ถูกนำไปเร่ขายให้กับบริษัทเอกชนผู้ค้าข้าวในประเทศไทย ในราคาต่ำ
ส่วนเช็คจำนวนหลายใบ ที่มีการสั่งจ่ายให้กับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อชำระเป็นค่าข้าว ถูกระบุว่า ผู้สั่งซื้อคือ "นายสมคิด เอื้อนสุภา"
ประการสอง
จากการตรวจสอบข้อมูลของนายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.พิษณุโลก พบว่า นายสมคิด เอื้อนสุภา เคยปรากฏชื่อ เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก “เสี่ยเปี๋ยง” นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร เจ้าของบริษัทเพรสซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ผูกขาดการซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เดินทางไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2547
(ดูเอกสารประกอบ)
ขณะที่การไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. พบว่า เงินที่ชำระค่าซื้อขายข้าวของกรมการค้าต่างประเทศที่ได้รับ มีความเกี่ยวพันกับบริษัทสยามอินดิก้า รวมทั้งบริษัทนี้เคยเป็นนายจ้างของ "นายสมคิด เอื้อนสุภา"
ประการสาม
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลนายสมคิด ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในทะเบียนราษฎร์ ซึ่ง ป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีข้าว คือ บ้านเลขที่ 199 ซ.ดำเนินกลางเหนือ แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
พบว่า บ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ใน "ชุมชนมัสยิดบ้านตึกดิน" ลักษณะสภาพแวดล้อมในชุมนุมค่อนข้างคับแคบ ไม่มีพื้นที่หน้าบ้าน
ปัจจุบัน ยังมีคนในครอบครัว เอื้อนสุภา พักอาศัยอยู่
โดยหญิงสาวที่พักอาศัยในบ้านรายหนึ่ง อ้างว่าชื่อ "จิ๋ม" เป็นพี่สาวของ นายสมคิด กล่าวยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ปัจจุบันนายสมคิด ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว
“ตั้งแต่เขา (สมคิด) แต่งงานไปมีครอบครัว ก็ไม่เคยกลับมาบ้านอีกเลยมาเป็นสิบปีแล้ว ไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง เบอร์ติดต่อก็ไม่มี ก็ไม่รู้จะไปตามหายังไง"
จากการสอบถามข้อมูลชาวบ้านที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้รับการยืนยันว่า นายสมคิด ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ มาเป็นเวลาเกือบสิบปีแล้ว
“ทุกวันนี้ที่เห็นอยู่ในบ้านหลังนี้ก็มีเพียงพี่สาว 2 คนกับครอบครัวเท่านั้น ไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้น"
“ส่วนเรื่องที่เขา (สมคิด) เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องข้าว ก็เห็นจากข่าวอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย” เพื่อนบ้านรายนี้ระบุ
(อ่านประกอบ : ย้อนรอยข้อมูล“สมคิด" ลูกน้อง"เสี่ยเปี๋ยง”มือซื้อเช็คสั่งจ่ายข้าวจีทูจี “เก๊”)
ณ วันนี้ ชื่อของ นายสมคิด เอื้อนสุภา นายสุธี เชื่อมไธสง นายลิตร พอใจ ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการระบายมันเส้นแบบจีทูจีอีกครั้ง!
ขณะที่บทบาท ก็ยังเหมือนกับกรณีข้าว คือ อยู่ในกลุ่มผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทนนิติบุคคลของผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากบริษัทที่เข้ามาทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ เจ้าของเงินที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
ส่วนข้อหา คือ ร่วมกันกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
น่าสนใจว่า ภายหลังจากที่การไต่สวนคดีมันเส้นฯ ของคณะอนุไต่สวน ป.ป.ช. สิ้นสุดลง
ชะตาชีวิตของบุคคลทั้ง 3 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับบริษัทสยามอินดิก้า และ นายอภิชาติ หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” จะเป็นอย่างไร
จะ "รอดผล" ข้อกล่าวหา หรือ จะ"ซ้ำรอย" เหมือนกับคดีระบายข้าวจีทูจี ที่ถูกชี้มูลความผิดไปแล้วหรือไม่
โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยใจระทึก!