ฝ่ายนายกฯ สภาเอแบค โต้สกอ. ระบุศาลปค.สูงสุดเท่านั้นชี้ขาดอำนาจสอบสวนอธิการบดี
ฝ่ายนายกฯ สภาเอแบค โต้สกอ. ระบุศาลปกครองสูงสุดเท่านั้น จะชี้ขาดอำนาจสอบสวนอธิการบดี ยันที่ที่ประชาคมไปยื่นหนังสือ เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของอธิการบดี หาใช่การหารือแนวทางวินัยต่อทางอธิการบดี
จากกรณีนายขจร จิตสุขุมมงคล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาระบบบริหาร ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ลงนามในหนังสือที่ ศธ 0592(1)3.16/ว991 ด่วนที่สุด เรื่อง หารือกรณีแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ถึงนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล รักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซึ่งสำนักข่าวอิศรา นำเสนอ ข่าว "สกอ.ชี้สภาม.อัสสัมชัญพักการปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี- ตั้งรก.แทน ชอบด้วยกฎหมาย" ไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคม ฝ่ายภราดา สุรสิทธิ์ สุขชัย นายกสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ส่งหนังสือชี้แจงกับสำนักข่าวอิศรา ดังนี้
จากข้อคิดเห็นของนายขจร ที่ได้ลงนามในหนังสือที่ ศธ0592(1)3.16/ว991 ถึง นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล โดยอ้างถึงความเห็นที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายในการประชุมครั้งที่ 7/2558 นั้น ทางมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญขอชี้แจง ดังต่อไปนี้
1.กรณีที่ประชาคมเอแบคได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ที่สกอ. ตามข้อเท็จจริง http://www.isranews.org/isranews-news/item/39867-%E0%B8%B7news02_39867.html กล่าวคือ ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2558 ทางกลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญนําโดยคณบดี คณาจารย์ องค์การนักศึกษา กลุ่มศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า และกลุ่มเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เข้ายื่นหนังสือถึง เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อหารือข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับอํานาจในการลงนามการออกคําสั่งสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ฉบับที่ 4-8 ซึ่งมองว่าเป็นการลุแก่อํานาจในการแต่งตั้ง ดร. สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล กระทําการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญทําได้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการแอบอ้างตนเองและถือเป็นการผิดตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
แต่การกล่าวอ้างตามหนังสือที่ ศธ0592(1)3.16/ว991 อ้างว่า นายกสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณบดี จำนวน 12 คณะ ได้มีหนังสือขอหารือการทางวินัยแก่ภราดาบัญชา แสงหิรัญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งถือว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างร้ายแรง
ดังนั้น ประชาคมเอแบค จึงขอให้ทำความเข้าใจอย่างถูกต้องว่า ที่คณบดีและประชาคมไปยื่นหนังสือนั้น เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของอธิการบดี หาใช่การหารือแนวทางวินัยต่อทางอธิการบดีไม่
2.ตามการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งระบุความบางตอนของรายงานการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ถือเป็นการพิจารณาจากรายงานทางเอกสารที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากในรายงานการประชุมหน้าที่ 5 บรรทัดที่ 31 ระบุว่า “นายกสภาได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ที่ยังไม่ลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบสวนอธิการบดีนั้น เพราะยังไม่แน่ใจในข้อกฎหมายว่า นายกสภามหาวิทยาลัยมีอำนาจในการลงนามสอบสวนอธิการบดีหรือไม่ จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแล เป็นการใช้สิทธิของนายกสภา ดังนั้น จึงต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาตอบกลับมาก่อน
จึงชี้ให้เห็นว่า จากข้อคิดเห็นของนายขจร และคณะอนุกรรมการ ที่ระบุข้อคิดเห็นว่า“หลังจากสภามหาวิทยาลัยมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอธิการบดีไปแล้ว แต่นายกสภามหาวิทยาลัยไม่ดำเนินการตามมติสภามหาวิทยาลัย สภามหาวิทยาลัยในฐานะผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามกฎหมายจึงย่อมสามารถมอบหมายให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยรายอื่นลงนามในคำสั่งแทนได้” ชัดเจนว่า มิได้พิจารณาครบถ้วนตามรายงานการประชุมครั้งที่ 3/2558 ซึ่งในการประชุมครั้งนั้น นายขจร จิตสุขุมมงคล ก็ได้เข้าในที่ประชุม รับฟังเหตุของนายกสภาด้วยตนเองเหตุใดจึงยังระบุว่า นายกสภาไม่ดำเนินการ
3. ข้อหารือที่นายขจร จิตสุขุมมงคล และคณะอนุกรรมการ ได้มีข้อคิดเห็นออกเป็นหนังสือมานั้น เป็นข้อหารือจากทางประชาคมเอแบค ประกอบไปด้วย กลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญนําโดยคณบดี คณาจารย์ องค์การนักศึกษา กลุ่มศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า และกลุ่มเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญที่เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) หากแต่การส่งข้อคิดเห็นกลับระบุถึง นาย สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ดังนั้น ประชาคมเอแบค จึงตั้งข้อสังเกตกลับไปว่า เหตุใด นายขจร จิตสุขุมมงคล และคณะอนุกรรมการจึงตอบข้อหารือเหล่านี้กลับมารวดเร็ว ในขณะที่หนังสือที่นายกสภามหาวิทยาลัยสอบถามขอคำชี้แนะด้านกฏหมายที่ยื่นไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 กลับยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ หรือการตอบข้อซักถามของนายขจร เป็นการให้ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น
4. ข้อคิดเห็นตามหนังสือที่ ศธ0592(1)3.16/ว991เป็นข้อคิดเห็นที่มิใช่กฤษฎีกา มิใช่คำสั่งการจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จึงมิใช่ข้อผูกพันตามกฎหมาย ดังนั้น ประชาคมเอแบค จึงใคร่ขอให้สื่อมวลชนเข้าใจในรายละเอียดที่จงใจมีการบิดเบือนข้อมูลหลายจุด ทำให้การวินิจฉัยตามหนังสือที่ ศธ0592(1)3.16/ว991 มีความคาดเคลื่อนตามข้อกฎหมาย อีกทั้งยังอ้างถึงหน่วยงานสกอ. ทั้งที่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล และในการชี้ขาดของการสอบสวนอธิการบดีนั้น จะต้องมาจากการชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในม.เอแบคต่อเนื่อง โดยวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์โกลาหลขึ้น เมื่อนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ได้นำกำลังตำรวจกว่า 10 นายเข้ามาคุมสถานการณ์ด้านหน้ามหาวิทยาลัย ท้ายสุดเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยต้องเข้าคลี่คลายสถานการณ์และควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ และเหตุการณ์ความวุ่นวายยังคงต่อเนื่องถึงวันที่ 28 กรกฎาคม ตลอดทั้งวันด้วย
ล่าสุดภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย นายกสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ออกคำสั่ง แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากร หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ฟ้องกันนัว! นายกสภาเอแบค กรรมการ รก.อธิการบดี ทั้งข้อหาหมิ่น-ยื่นสกอ.สอบพฤติกรรม
“ประชาคมเอแบค” ร้องรมว.ศึกษา ขอถอดถอนกรรมการสภาทั้งสิบ
กลุ่นหนุนอธิการบดีเอแบค อ้างสกอ. รับปากพิจารณา “สุทธิพร” แอบอ้างเป็นรักษาการ
ฝ่ายหนุนมั่นใจ"อธิการฯเอแบค"ไม่โกง! นัดรวมพลยื่นหนังสือสกอ.โต้ข้อมูล"ดร.สุทธิพร
"ดร.สุทธิพร" ดับเครื่องชน ยื่น สกอ. สอบปม "อธิการฯ" ฝ่าฝืนมติสภาฯเอแบค