อดีต ปธ.หอการค้าไทย-อินโดฯร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ‘สุภา’ปมให้ถุงสินบนพยานคดีปาล์ม
อดีต ปธ.หอการค้าไทย-อินโดฯ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีปลูกปาล์มอินโดฯ มอบอำนาจให้ทนาย ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินคดี ‘สุภา-จนท.ป.ป.ช.-บิ๊ก พีทีที.จีอี.’ กล่าวหาให้ถุงสินบนพยาน-สร้างหลักฐานเท็จ ปัดตอบรายละเอียด หลังแจ้งความ พนง.สอบสวนอินโดฯ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2562 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นางแนนซี่ มาตาซูตะ อดีตประธานหอการค้าไทย-อินโดนีเซีย ชาวอินโดนีเซีย ทำหนังสือมอบอำนาจให้นายสยามราช ผ่องสกุล ที่ปรึกษากฎหมาย นำหนังสือร้องเรียนต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ดำเนินการกับ น.ส สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และนางรสยา เธียรวรรณ ผู้บริหารบริษัท พีทีที.จีอี. บริษัทที่ลงทุนโครงการปลูกปาล์มที่อินโดนีเซีย เครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยกล่าวหาว่า น.ส.สุภา และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. รวมถึงนางรสยา ให้ถุงสินบนพยาน สร้างพยานหลักฐานเท็จ และการไต่สวนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย. 2560 โดยหนังสือดังกล่าวเป็นสำเนาที่ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องโดยนางแนนซี่ และทนายโนตารีพับลิก พร้อมกับแนบการให้ถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษรของ Mr.Burhan ผู้ขายที่ดินให้ พีทีที.จีอี. ลงทุนปลูกปาล์มอินโดนีเซีย ซึ่งอ้างว่าได้รับถุงสินบนมาให้ผู้ตรวจการแผ่นดินด้วย
นายสยามราช ระบุว่า จากการสอบปากคำ Mr.Burhan ซึ่งเป็นพยานในคดีดังกล่าว ทำให้มีการพาดพิงถึงนางแนนซี่ และกลายเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดี พีทีที.จีอี. ลงทุนปลูกปาล์มอินโดนีเซีย ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ไทยด้วย
ในหนังสือร้องเรียนของนางแนนซี่ ระบุด้วยว่า ขอให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายไทย หรือถ้าไม่สามารถมีองค์กรใดให้ความยุติธรรมแก่นางแนนซี่ได้ ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทำเรื่องเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและอินโดนีเซีย ปี 2522 ต่อไป เพราะขณะนี้กระบวนการในประเทศอินโดนีเซียได้เริ่มแล้ว หลังจากนางแนนซี่แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.สุภา เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และนางรสยา
อย่างไรก็ดีผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ถุงสินบน และความเชื่อมโยงของนางแนนซี่ กับคดีปลูกปาล์มอินโดนีเซีย แต่นายสยามราช ระบุว่า ไม่ขอให้ข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านางแนนซี่แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานสอบสวนอินโดนีเซีย กล่าวหา น.ส.สุภา เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และนางรสยา กรณีสอบปากคำ Mr.Burhan พยานปากสำคัญคดี พีทีที.จีอี. ลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซีย โดยอ้างว่า Mr.Burhan ได้รับถุงสินบน และเป็นประจักษ์พยานในการสอบสวนโดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ตอนหนึ่งว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เช็คข้อมูลจากประเทศอินโดนีเซียแล้ว ไม่พบว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว นอกจากนี้ข้อเท็จจริงในการไต่สวนคดีนี้ที่อินโดนีเซีย น.ส.สุภา และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ แต่ผู้ไต่สวนพยานคือสำนักงาน ป.ป.ช.อินโดนีเซีย
ทั้งนี้เมื่อเดือน ส.ค. 2560 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ก่อนที่ฝ่าย ป.ป.ช. จะเดินทางไปสอบปากคำ Mr.Burhan ฝ่าย ป.ป.ช. ได้ส่งคำถามล่วงหน้าให้พยานทราบก่อน และกรรมการ ป.ป.ช. ที่เดินทางไปสอบปากคำพยานที่ประเทศอินโดนีเซียคือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ โดยระหว่างสอบปากคำ Mr.Burhan ผ่านล่ามแปลภาษาอินโดนีเซียนั้น พบว่า Mr.Burhan ได้เดินทางเข้าออกห้องเกือบตลอดเวลา เข้าใจว่าเพื่อปรึกษาทนายความ ทั้งนี้เมื่อสอบปากคำแล้วเสร็จ Mr.Burhan ได้ยอมลงนามโดยดี ไม่ได้เป็นตามที่นายนิพิฐกล่าวหาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ Mr.Burhan คือเจ้าของโครงการ PT.KPI ที่ ปตท./PTT.GE เข้าไปดำเนินการซื้อขายที่ดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดีในกระบวนการซื้อขายที่ดิน บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด (บริษัทลูกของ Deloitte Touche Tohmatsu ผู้สอบบัญชีระดับโลก) ตรวจสอบพบว่า มีบริษัทนายหน้า Kalimantan Sawit Lestari Ltd. (KSL) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และได้รับเงินค่านายหน้าจากการซื้อขายที่ดินครั้งนี้ประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
คดีปาล์มอินโดฯคืบ 80%-ปธ.ป.ป.ช.ไม่ห่วงปม‘สุภา’ถูกฟ้อง ลั่นหลักฐานที่ใช้ต้องมาโดยชอบ
เปิดลำดับเหตุการณ์สำคัญคดีปลูกปาล์มอินโดฯก่อนกรณีค่านายหน้า32ล.ดอลลาร์