คดีปาล์มอินโดฯคืบ 80%-ปธ.ป.ป.ช.ไม่ห่วงปม‘สุภา’ถูกฟ้อง ลั่นหลักฐานที่ใช้ต้องมาโดยชอบ
‘พล.ต.อ.วัชรพล’ เผยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงกระแสข่าวอดีต ปธ.หอการค้าอินโดฯ-ไทยฟ้อง ‘สุภา-จนท.ป.ป.ช.’ ชี้ข้อกล่าวหารุนแรง ยันการได้มาซึ่งหลักฐานใช้ในชั้นศาลต้องมาโดยชอบ ถ้าทำผิดโทษ 2 เท่าไม่มีใครอยากทำแน่ เผยคดีปลูกปาล์มอินโดฯคืบแล้ว 80% จำไม่ได้แจ้งข้อหาคนใกล้ชิดนักการเมืองดังหรือยัง
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2562 พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่า อดีตประธานหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย แจ้งความตำรวจที่อินโดนีเซีย ร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ติดสินบนพยานเพื่อให้การคดีปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซีย ว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่เท่าที่ดูจากข่าวไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ที่ผ่านมาการทำคดีเป็นไปด้วยความระมัดระวัง
เมื่อถามว่า น.ส.สุภา เคยชี้แจงกรณีนี้หรือยัง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า น.ส.สุภา เคยชี้แจงแล้ว ป.ป.ช. ยืนยันจะใช้พยานหลักฐานและข้อเท็จจริงโดยรอบคอบ ถ้าพลาดเมื่อไหร่ ป.ป.ช. อาจถูกเล่นงานได้ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง ยืนยันว่าหากเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช. ทำผิดเสียเองจะมีโทษเป็น 2 เท่า ดังนั้นไม่มีใครอยากทำผิดแน่นอน ส่วนการได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่จะนำไปใช้ในศาล จะต้องได้มาโดยชอบ
เมื่อถามว่า กรณีนี้เป็นการดิสเครดิต ป.ป.ช. หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เรื่องนี้มองได้หลายมุม
ส่วนความคืบหน้าคดีนี้ถึงขั้นตอนใด เนื่องจากก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. บอกว่า จะทำให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2562 พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน และเร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตอนนี้มีทั้งถูกฟ้อง ขออุทธรณ์ ขอชี้แจง แต่ใครร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาก็พิจารณาทุกเรื่อง โดยน่าจะพูดได้แล้วว่าถึง 80% มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปบ้างแล้ว
เมื่อถามว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลที่ใกล้ชิดนักการเมืองใหญ่รายหนึ่ง ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้แล้วหรือยัง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า จำไม่ได้ เรื่องนี้อยู่ในสำนวน ทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์คณะไต่สวน (คณะกรรมการ ป.ป.ช. 9 รายเป็นองค์คณะฯ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ : เปิดลำดับเหตุการณ์สำคัญคดีปลูกปาล์มอินโดฯก่อนกรณีค่านายหน้า32ล.ดอลลาร์