- Home
- Isranews
- ข่าว
- อดีตปลัดกห. เชื่อมั่นไทยไม่มีเอี่ยวรัฐวิสาหกิจยูเครนย้อมแมวขายอาวุธแพงเกินจริง 10 เท่า
อดีตปลัดกห. เชื่อมั่นไทยไม่มีเอี่ยวรัฐวิสาหกิจยูเครนย้อมแมวขายอาวุธแพงเกินจริง 10 เท่า
อดีตปลัด กห. แจงปมไทยซื้อรถหุ้มเกราะBTR3E1 หลังรัฐวิสาหกิจยูเครนถูกสอบสวนปมทุจริตย้อมแมวขายราคาเกินจริง 10 เท่า เชื่อมั่นกองทัพไทยไม่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน แต่ถ้าตปท.มีปัญหาแบบนั้นจริง ถือว่าเราโชคร้ายมากกว่า เพราะไม่เคยทราบข้อมูลเรื่องนี้มาก่อน แนะ 'อิศรา' ถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา' เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในช่วงเวลานั้นด้วย
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดตามประเด็นการทุจริตที่เกิดขึ้นในประเทศยูเครนกรณีรัฐวิสาหกิจด้านการป้องกันประเทศยูเครน ที่ชื่อว่า Ukroboronprom อาจจะเข้าสู่ภาวะการชำระบัญชี เนื่องจากการสอบสวนการทุจริตพบว่ามีการจัดซื้อชิ้นส่วนอะไหล่อาวุธที่สูงเกินราคาจริงถึง 300 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงกรณีการนำเข้ารถหุ้มเกราะมายังยูเครนนับร้อยๆคันจากประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออกที่มีรถหุ้มเกราะจนล้นที่เก็บ โดยบริษัทผู้นำเข้าจะแจ้งว่าสินค้าที่นำเข้าเหล่าเป็นอะไหล่สำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ มีการถอดชิ้นส่วนทั้งหมดออก และเมื่อขนย้ายถึงประเทศยูเครน ก็นำมาประกอบเข้ากันใหม่อีกครั้งหนึ่ง และขายด้วยราคาที่สูงมากกว่าราคาเดิมถึงสิบเท่า
ขณะที่จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า กองทัพไทยเคยจัดซื้อรถถังรุ่น T84 Oplot และรถหุ้มเกราะBTR3E1 จากจากประเทศยูเครนด้วยเช่นกัน โดย พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสำนักข่าวอิศราว่ากรณีดังกล่าวจะไม่กระทบกับกองทัพไทยอย่างแน่นอน เพราะทางประเทศไทยทำสัญญาซื้อขายอาวุธกับประเทศยูเครนแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งประเทศยูเครนจะต้องรักษาสัญญาในทุกกรณี (อ่านประกอบ:ส่องคดีทุจริตโลก : เปิดโปงขบวนการทุจริตขายอาวุธยูเครน โยงข้อมูลธุรกิจบริษัทประธานาธิบดี?,ส่องคดีทุจริตโลก: เมื่อรัฐวิสาหกิจขายอาวุธยูเครนส่อโดนยุบจากข้อหาทุจริต 295ล.,โฆษกกลาโหม แจงปมยูเครนสอบทุจริตรัฐวิสาหกิจในปท.ขายอาวุธ- เชื่อไม่กระทบกองทัพไทย)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า การจัดซื้อรถหุ้มเกราะรุ่น BTR3E1 ของประเทศไทย มีการสั่งซื้อลอตแรกในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งอดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงเวลาที่มีการสั่งซื้อลอตแรกเกิดขึ้น เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดซื้อรถหุ้มเกราะรุ่น BTR3E1 ดังกล่าว
พล.อ.อภิชาต ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า เท่าที่จำรายละเอียดได้ ในการสั่งซื้อรถหุ้มเกราะรุ่นดังกล่าวนั้น ส่วนตัวเคยเสนอแนะให้มีการจัดซื้อรุ่นที่มีประตูเปิดรถหุ้มเกราะจากทางด้านท้ายแทนด้านข้างเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล และเสนอให้ใช้รถหุ้มเกราะที่มีขีดความสามารถบรรจุกำลังพลได้ 11 นาย แต่อย่างไรก็ตาม เป็นความต้องการของทางกองทัพบกที่เป็นผู้ใช้เขาซึ่งต้องการรถแบบนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ยินยอมตามความต้องการของกองทัพบก
พล.อ.อภิชาตกล่าว ยังระบุด้วยว่า "ก็เคยได้ยินเหมือนกันว่าทางรัสเซียเขาก็เคยท้วงว่ายูเครนได้มีการเอารถหุ้มเกราะจากสมัยสหภาพโซเวียตมาดัดแปลง และรัสเซียก็พยายามจะยืนยันว่าเป็นต้นแบบของรถหุ้มเกราะรุ่นดังกล่าวนี้"
ส่วนประเด็นเรื่องข้อกล่าวหาการทุจริตในเรื่องกรณีการถอดชิ้นส่วนและประกอบใหม่ โดยขายแพงเกินราคาดั้งเดิมถึง 10 เท่า ของ รัฐวิสาหกิจด้านการป้องกันประเทศยูเครน ที่ชื่อว่า Ukroboronprom ซึ่งกำลังมีการสอบสวนสืบสวนอยู่ในขณะนี้นั้น
พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า "เชื่อมั่นว่ากองทัพไทยนั้นคงไม่ได้ไปมีส่วนทุจริตกับเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่มองว่าเราคงโชคร้ายมากกว่า เพราะต้องยอมรับว่าทางกองทัพไทยไม่ได้ทราบในประเด็นเหล่านี้เลยทั้งกรณีการทุจริตของยูเครน และคงไม่อาจจะทราบได้เลยว่ารถหุ้มเกราะที่ทางยูเครนนำมาขายให้กองทัพนั้น มันจะถูกแยกชิ้นส่วนแล้วประกอบขึ้นมาใหม่ โดยขายเกินราคาจริงไปถึง 10 เท่าหรือไม่ ซึ่งจากกรณีดังกล่าวนั้นก็คงต้องรอว่าการสอบสวนของทางยูเครนนั้นจะได้ผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง"
พล.อ.อภิชาต กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับประเด็นนี้นั้น สำนักข่าวอิศราน่าจะต้องไปสอบถามกับทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกในช่วงเวลานั้นด้วย เพราะน่าจะทราบข้อมูลกรณีนี้"
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ได้พยายามติดต่อไปยัง พล.ร.ท. ศังกร พงษ์ศิริ ผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธิน เพื่อจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทางด้านของเจ้าหน้าที่ทหารเรือนายหนึ่งได้ขอให้ทางสำนักข่าวอิศราได้ฝากประเด็นที่ต้องการสอบถามเอาไว้ แล้วจากนั้นจะนำเรียนไปยัง พล.ร.ท.ศังกร ให้รับทราบ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage