อ้างไม่รู้ หลงลืม!ศาลฟันรองนายก อบต.จ.พิจิตรซุกเงิน 15 บัญชี หุ้น 2 บ. ที่ดิน 7แปลง
โผล่อีกราย!ศาลฎีกาฯฟันรองนายก อบต.ป่ามะคาบ จ.พิจิตร จงใจซุกเงินฝาก 15 บัญชี หุ้น 2 บริษัท ที่ดิน 7 แปลง เงินเบิกเกินบัญชีเมีย ลงโทษห้ามเล่นการเมือง 5 ปี ปรับ 8,000 บาท จำคุก 2 เดือน รอการลงโทษ 1 ปี เจ้าตัวอ้างไม่รู้ หลงลืม
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า นายโอภาส แพพ่วง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ หลายรายการ ได้แก่ 1.เงินฝากธนาคาร 15 บัญชี 2.เงินลงทุนในหุ้น ของผู้คัดค้านและคู่สมรส 2 แห่ง 3.ที่ดิน 7 แปลง 4.เงินเบิกเกินบัญชีของคู่สมรส 1 บัญชี ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี มีรายละเอียดดังนี้
ผู้คัดค้านได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่ามะคาบ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2551 พ้นจากตำแหน่งวันที่ 24 ส.ค.2555 ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ป่ามะคาบ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2555 พ้นจากตำแหน่งวันที่ 1 มิ.ย.2559 ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2555 แต่ผู้คัดค้านไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนี้
1.เงินฝากธนาคาร 5 บัญชี
2.เงินลงทุนในหุ้นของผู้คัดค้าน และคู่สมรส 2 แห่ง
3.ที่ดิน 2 แปลง
ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2557 แต่ผู้คัดค้าน ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนี้
1.เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี
2.เงินลงทุนในหุ้น ของผู้คัดค้านและคู่สมรส 2 แห่ง
3.ที่ดิน 3 แปลง
ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2555 แต่ ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนี้
1.เงินฝากธนาคาร 5 บัญชี 3.เงินลงทุน ในหุ้นของผู้คัดค้านและคู่สมรส 2 แห่ง 3.ที่ดิน 2 แปลง
ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2559 แต่ผู้คัดค้าน ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนี้
1.เงินฝากธนาคาร 15 บัญชี 2.เงินลงทุนในหุ้น ของผู้คัดค้านและคู่สมรส 2 แห่ง 3.ที่ดิน 7 แปลง 4.เงินเบิกเกินบัญชีของคู่สมรส 1 บัญชี
ผู้ร้องได้แจ้งให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริง ผู้คัดค้านชี้แจงสรุปได้ว่า เกิดจากข้อผิดพลาดในการแสดงรายการทรัพย์สิน ความไม่รู้ หลงลืม และการยึดถือเอาบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่เคยยื่นไว้ครั้งก่อนหน้าเป็นเกณฑ์ ในการยื่นแสดงรายการ ส่วนกรณีทรัพย์สินของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็อ้างถึงสถานภาพความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและคู่สมรสที่ไม่ค่อยสู้ดี เพราะคู่สมรสไม่ชอบที่ทำหน้าที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และหากคู่สมรสทำการใด ๆ หรือนิติกรรมต่าง ๆ ก็จะปกปิดไม่แจ้งให้ทราบ และบุตรสาวกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ เห็นว่า คำชี้แจงของผู้คัดค้านไม่น่าเชื่อถือและเป็นการง่ายแก่การกล่าวอ้างทั้งเป็นเหตุผลส่วนตัว ไม่อาจนำมาอ้างเพื่อไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดได้ และผู้คัดค้านยังคงมีหน้าที่แสดงบัญชี รายการทรัพย์สินและหนี้สินที่มีอยู่จริงต่อผู้ร้อง จึงฟังไม่ได้ว่ามีเหตุผลอันสมควร พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้คัดค้านมีเจตนายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนา ไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่ สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สิน และหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ
จึงฟังได้ว่า ผู้คัดค้าน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป .ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจาก ตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจาก ตำแหน่งในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 มีผลห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรง ตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง
นอกจากนี้ การกระทำของผู้คัดค้านซึ่งจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 และกรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 จึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิด ข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย
พิพากษาว่า นายโอภาส แพพ่วง ผู้คัดค้าน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ป่ามะคาบ ครั้งที่ 1 กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ป่ามะคาบ ครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 มิ.ย.2559 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 และกรณีพ้นจากตำแหน่งในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 การกระทำ ของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่ การพิจารณา มี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.12/2561-23 ม.ค.2561)
อ่านประกอบ:
นักการเมืองท้องถิ่น 8 คนใน 6 จังหวัด ถูกศาลฎีกาฯฟันจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
เจตนาซุกซ่อน! ศาลฎีกาฯฟันนายก อบต. ใน จ.สมุทรสาคร ไม่แสดงเงินฝาก 3 บัญชี