แนะกสิกรไทย-กรุงศรี-ธสน.ตรวจสอบใบขนถ่านหิน 'เอิร์ธ' หวั่นเจอเหมือนกรุงไทย!
หวั่นใช้ใบขนถ่านหินปลอมกู้ธนาคารกสิกรไทย-กรุงศรีฯ-ธสน.เหมือนกรุงไทย แนะเร่งตรวจสอบ ถ้าพบรีบแจ้งดีเอสไอ ให้ ปปง.เร่งสอบเส้นทางเงินโอนออกนอก
จากกรณีที่ธนาคารกรุงไทยได้กล่าวโทษร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ฉ้อโกงธนาคารเป็นเงินหลายพันล้านบาท โดยการปลอมแปลงใบตราส่งสินค้าทางเรือ(Bill of lading-B/L)นำเข้าถ่านหินจากประเทศอินโดนีเซียของ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัดหรือ เอิร์ธ(EARTH) และนำมาใช้เป็นหลักฐานในการกู้เงินจากธนาคารกรุงไทยเท่าที่ตรวจสอบพบในเบื้องต้นหลายพันล้านบาท (อ่านประกอบ : ฉ้อโกงกรุงไทยหลายพันล.ปลอมใบขนถ่านหิน บ.เอิร์ธกู้เงิน-แจ้งดีเอสไอลุยสอบ)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นอกจากธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นเจ้าหนี้บริษัทเอิร์ธประมาณ 12,000 ล้านบาทแล้ว ยังมีเจ้าหนี้อื่นๆประกอบด้วยธนาคารกสิกรไทย 2,800 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 1,800 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) จำนวน 350 ล้านบาท
ขณะที่แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหนี้รายหนึ่งของบริษัทเอิร์ธ กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวว่าทางธนาคารกรุงไทยได้ตรวจสอบพบหลักฐานการปลอมใบ B/Lขนส่งถ่านหินเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการกู้เงินธนาคารเจ้าหนี้อื่นๆควรจะต้องตรวจสอบว่า บริษัทเอิร์ธได้นำหลักฐานใบ B/L มาใช้เป็นหลักฐานในการกู้เงินหรือไม่และตรวจสอบว่า เป็นเอกสารปลอมเหมือนกับธนาคารกรุงไทยหรือไม่ ถ้าพบว่าเป็นเอกสารปลอมต้องรีบแจ้งตอนนี้เพื่อดำเนินคดีเช่นเดียวกับธนาคารกรุงไทย
แหล่งข่าวกล่าวว่า วิธีการตรวจสอบ เบื้องต้นว่ามีการใช้ใบ B/L ปลอมหรือไม่ คือ ให้กรมศุลกากรของไทยตรวจสอบว่ามีการนำถ่านหินนำเข้ามาในประเทศไทยตรงกับใบB/L หรือไม่ ส่วนกรณีที่อ้างว่า เป็นการนำถ่านหินจากประเทศอินโดนิเซียส่งไปยังประเทศอื่น อาจขอความร่วมมือจากกรมศุลกากรของไทยให้ตรวจสอบกับหน่วยงานศุลกากรของประเทศนั้นนั้นได้
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากการสอบสวนหาพยานหลักฐานว่า มีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องในการปลอมใบB/L แล้ว ดีเอสไอควรเร่งประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะเชื่อว่า อาจมีการนำเงินจำนวนหนึ่งออกไปต่างประเทศ