'นิพิฐ-บ.ปาล์ม บิซ' โนติสเตือนอิศราหยุดเสนอข่าวป.ป.ช.สอบคดีปลูกปาล์มอินโด
'นิพิฐ-บ.ปาล์ม บิซ' มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ทำหนังสือเตือนสำนักข่าวอิศรา หยุดใส่ร้าย หมิ่นประมาท กระทำการละเมิด กรณีนำเสนอข่าว ป.ป.ช. สอบ คดีปลูกปาล์มอินโด มิฉะนั้นจะดำเนินคดีอาญา-แพ่ง ให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายทุก ๆ ครั้งที่มีการเขียนและเผยแพร่ข้อความ โดยไม่มีการประนีประนอมอย่างเด็ดขาด
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ทำหน้าที่สื่อมวลชน ในการติดตามนำเสนอข้อมูลข่าวกรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีการซื้อขายที่ดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซียของบริษัท พีทีที.กรีน เอ็นเนอร์ยี่ฯ (PTTGE) เนื่องจากพบว่า มีการดำเนินการที่ผิดปกติ โดยเฉพาะการเข้าไปซื้อที่ดินจำนวนมากเพื่อปลูกปาล์มและการสร้างโรงงานสกัดน้ำมันนั้น
ล่าสุด นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา และ บริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ทำหนังสือแจ้งถึงสำนักข่าวอิศรา เพื่อขอให้หยุดใส่ร้าย หยุดหมิ่นประมาท และหยุดการกระทำอันเป็นละเมิด
โดยหนังสือทนาย นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2560 ระบุว่า
ตามที่ท่านได้ร่วมกันทำการเขียนและพิมพ์ข่าวโดยการโฆษณาและเผยแพร่ข้อความลงในสื่ออิเล็คทรอนิกส์ เมื่อวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2560 หัวข้อเรื่อง “พบหนังสือลับคดีปาล์มอินโดฯ อดีตบิ๊ก ปตท.บีบที่ปรึกษา กม.ปกปิดข้อมูล-ส่ง ป.ป.ช.สอบเพิ่ม”, วันอังคารที่ 8 สิงหาคม 2560 หัวข้อเรื่อง “เปิดหนังสือลับ บ.ที่ปรึกษากม.ร้องเรียนอดีตบิ๊ก ปตท.หลักฐานใหม่ ป.ป.ช.สอบคดีปาล์มอินโดฯ” และวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2560 หัวข้อเรื่อง “ซื้อที่โดนหักค่านายหน้า-โยง บ.ไทย รายงานผู้สอบบัญชี ปตท.ชี้สารพัดปัญหาปลูกปาล์มอินโดฯ” ต่อเนื่องกัน โดยการเขียนข้อความให้บุคคลอื่นหลงเชื่อและเข้าใจว่ามีการปกปิดปัญหาเรื่องการซื้อขายที่ดิน และมีการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย ทั้ง 5 โครงการ โดยการเขียนและพิมพ์ข่าวดังกล่าวเป็นการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงและเป็นนำความเท็จใส่ความนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ต่อบุคคลที่สามและประชาชนทั่วไป ที่ได้อ่านข้อความดังกล่าว ให้หลงเชื่อและเข้าใจไปในทางที่ว่า ในขณะนั้นมีนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นผู้บริหารระดับสูงบริษัท พีทีที กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) ในขณะนั้น กระทำทุจริต และมีส่วนเกี่ยวของในการเรียกรับผลประโยชน์จากการซื้อขายโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย ทั้ง 5 โครงการ การกระทำของท่านจึงเป็นการใส่ความนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม และถูกเกลียดชังจากผู้อ่านและประชาชนทั่วไปได้ อันเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา อีกทั้งยังเป็นการกระทำละเมิดต่อนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งท่านจักต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในเหตุดังกล่าวทั้งสิ้น และมีพฤติการณ์จงใจเขียนและเผยแพร่ข้อความที่บิดเบือนนั้นซ้ำ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
นอกจากนี้ ข้อความที่ท่านเขียนและพิมพ์เผยแพร่นั้นเป็นข้อเท็จจริงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทั้งศาลแพ่ง รวมทั้งนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ได้ยื่นฟ้องกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำทุจริตและก่อความเสียหายให้แก่บริษัท พีทีที กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) ต่อศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล อีกทั้งศาลแพ่งได้มีคำสั่งห้ามมิให้เผยแพร่ข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ ต่อสาธารณชนแล้วด้วย ดังนั้น การกระทำของท่านจึงมีเจตนาจงใจละเมิดอำนาจศาล
ฉะนั้น โดยหนังสือฉบับบนี้ ข้าพเจ้าในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา จึงขอแจ้งมายังท่านและผู้เกี่ยวข้องทุกคนให้หยุดกระทำการหมิ่นประมาทนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ห้ามเขียนและเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดของบริษัท พีทีที กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) อีกนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป มิฉะนั้น ข้าพเจ้ามีความจำเป็นต้องดำเนินคดีกับท่านและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งทางอาญาและทางแพ่งให้ศาลลงโทษท่านตามกฎหมายและให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายทุกๆ ครั้งที่มีการเขียนและเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จนั้น ไล่เลียงไปตามลำดับของการกระทำไปจนถึงที่สุด โดยจะไม่มีการประนีประนอมอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ดีนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ขอสงวนสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของท่านต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสุรสิทธิ์ กิตติสุทธิวงศ์)
ทนายความผู้รับมอบอำนาจ
ส่วนหนังสือทนายความ บริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลงวันที่ 15 ส.ค.2560 ระบุว่า
ตามที่ ท่านได้ร่วมการเขียนและพิมพ์ข่าวโฆษณาและเผยแพร่ข้อความลงในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2560 หัวข้อเรื่อง “เจาะพฤติการณ์ บ.นายหน้า ปมซื้อที่ดินปลูก ปาล์มอินโดฯ โยงญาตินักการเมือง-เลขาฯ บิ๊ก รมต.” และวันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2560 หัวข้อเรื่อง “เผยโฉม 2 คนไทยผู้มีอำนาจลงนาม บ.นายหน้า นั่งกก.2 บริษัทร่วมอดีตเลขาฯ สุวัจน์” ต่อเนื่องกัน ซึ่งท่านทราบดีอยู่แล้วนั้น โดยมีการเขียนข้อความให้บุคคลอื่นหลงเชื่อและเข้าใจว่า บริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) กระทำการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซีย ในโครงการ PT.AZ-ZHAZA PLANTATION และโครงการ PT.KPI ทั้งที่บริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ KALIMANTAN SAWIT LESTARI LTD (KSL) ในทุกกรณีโดยสิ้นเชิง อีกทั้งท่านก็ได้เห็นรายได้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ถึงปัจจุบันแล้วพบว่าบริษัทขาดทุนมาตลอด จึงเห็นได้ชัดเจนเส้นทางการเงินไม่เคยมีเงินใดๆเข้ามาที่บริษัทเลยโดยเฉพาะที่ท่านเขียนและพิมพ์ข่าวโดยบิดเบือนว่าเกี่ยวข้องกับค่านายหน้าหรือค่าที่ปรึกษา แต่ท่านยังคงพยายามเขียนและพิมพ์ข่าวเกี่ยวโยงกับบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบุคคลอื่น ให้เกี่ยวข้องโดยจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงและนำความเท็จใส่ความบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ต่อบุคคลที่สามและประชาชนทั่วไป ที่ได้อ่านข้อความดังกล่าว ให้หลงเชื่อและเข้าใจไปในทางที่ว่า บริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) กระทำการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซีย ในโครงการ PT.AZ-ZHARA-PLANTATION และโครงการ PT.KPI การกระทำของท่านจึงเป็นการใส่ความบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม และถูกเกลียดชังจากผู้อ่านและประชาชนทั่วไปได้ อันเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา อีกทั้งยังเป็นการกระทำละเมิดต่อบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งท่านจักต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในเหตุดังกล่าวทั้งสิ้น และมีพฤติการณ์จงใจเขียนและเผยแพร่ข้อความที่บิดเบือนนั้นซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ฉะนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะทนายความผู้มอบอำนาจของบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จึงขอแจ้งมายังท่านและเกี่ยวข้องทุกคนให้หยุดกระทำการหมิ่นประมาทบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ห้ามเขียนและเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียอีกนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป มิฉะนั้น ข้าพเจ้ามีความจำเป็นต้องดำเนินคดีกับท่านและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งทางอาญาและทางแพ่งให้ศาลลงโทษตามกฎหมายและให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายทุกๆ ครั้งที่มีการเขียนและเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จนั้น ไล่เลียงไปตามลำดับของการกระทำไปจนถึงที่สุด โดยจะไม่มีการประนีประนอมอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ดีบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของท่านต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการ
ขอแสดงความนับถือ
(นายเณริน จันทกร)
ทนายความผู้รับมอบอำนาจ