- Home
- Isranews
- ข่าว
- ทำเกินป.ป.ช.สั่ง! พนง.ธอส.งัดหลักฐานโต้ฝ่ายบริหารหาเหตุสอบซ้ำปล่อยกู้'พี่สาวนักร้อง'
ทำเกินป.ป.ช.สั่ง! พนง.ธอส.งัดหลักฐานโต้ฝ่ายบริหารหาเหตุสอบซ้ำปล่อยกู้'พี่สาวนักร้อง'
พนง.ธอส. ที่ร้องขอความเป็นธรรม 'บิ๊กตู่' ถูกสั่งสอบซ้ำปมปล่อยกู้ 'พี่สาวนักร้องดัง' เปิดเผยข้อมูลใหม่ 'อิศรา' โต้ฝ่ายบริหารยัน ป.ป.ช. ไม่เคยชี้มูลความผิดทางวินัยตน พร้อมโชว์หนังสือยืนยันเป็นหลักฐาน ระบุเดือนร้อน อับอาย เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง ทำงานเพื่อบ้านหลังนี้มายาวนานนี่คือสิ่งตอบแทนที่ได้รับ
จากกรณี นางเพ็ญศรี โปร่งเมฆ พนักงานระดับสูงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2560 ที่ผ่านมา เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูก ผู้บริหารระดับสูงของ ธอส. ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย จากกรณีการปล่อยสินเชื่อให้กับ พี่สาวนักร้องดังรายหนึ่ง และถูกโยกย้ายตำแหน่ง ทั้งที่ เรื่องนี้เคยมีการสอบสวนมาแล้วในช่วงปี 2553-2554 และไม่พบความผิดปกติในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อดังกล่าวแต่อย่างใด
ขณะที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กรของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชน ระบุว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าว เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่แจ้งให้ธนาคารดำเนินการ ส่วนกรณีที่นางเพ็ญศรี มีหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติงานของกรรมการผู้จัดการ ถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อให้พิธีกรชายชื่อดัง ว่ามีกระบวนการเหมือนกันแต่ไม่ถูกสอบสวนนั้น ประธานกรรมการธนาคารได้มอบหมายให้กลุ่มงานตรวจสอบของธนาคารพิจารณาดำเนินการ และได้มีการสรุปผลการตรวจสอบแจ้งให้กับนางเพ็ญศรี ทราบแล้วว่าการสรุปวิเคราะห์ที่มาของรายได้ผู้กู้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และคู่มือปฏิบัติงานที่บังคับใช้ในขณะยื่นกู้แล้ว และทั้ง 2 กรณีก็ยังมีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับรายได้ของผู้กู้ และพฤติกรรมอื่นๆ ที่แตกต่างกัน
(อ่านประกอบ : พนง.ธอส.ขอความเป็นธรรม'บิ๊กตู่' ถูกผู้บริหารสั่งสอบซ้ำปมปล่อยกู้ 'พี่สาวนักร้องดัง', ป.ป.ช.สั่งมาต้องทำ!ธอส.แจงเหตุสอบซ้ำปล่อยกู้'พี่สาวนักร้องดัง'-กรณีพิธีกรทำตามระเบียบ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นางเพ็ญศรี โปร่งเมฆ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในประเด็นที่ทางธอส.ยืนยันว่าต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงาน ป.ป.ช.
นางเพ็ญศรี ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า ในช่วงเดือนพ.ย.2559 ภายหลังจากที่ตนทราบว่า ผู้บริหาร ธอส. ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยตนเอง จากกรณีการปล่อยสินเชื่อให้กับ พี่สาวนักร้องดังรายหนึ่ง ซึ่งเป็นการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนซ้ำในประเด็นเดิมที่เคยสอบสวนไปแล้ว เมื่อปี 2554 และผลการสอบสวนที่ออกมาก็ไม่พบความผิดแต่อย่างใด ตนได้ทำหนังสือถึงฝ่ายบริหาร ธอส. เพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยฉบับใหม่ดังกล่าวหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอด โดยทางฝ่ายบริหารฯ ยืนยันว่าต้องปฏิบัติตามคำสั่งของ ป.ป.ช. ที่แจ้งมาให้สอบสวน
นางเพ็ญศรี ชี้แจงต่อว่า หลังจากที่ฝ่ายบริหาร ธอส. ไม่ยกเลิกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยดังกล่าว ตนได้ทำหนังสือถึง สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอให้แจ้ง ธอส. ยกเลิกคำสั่งสอบสวนฉบับใหม่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นการสอบสวนในประเด็นเดิมที่ผลการสอบสวนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดไปแล้ว
เบื้องต้น ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทำหนังสือแจ้งตอบกลับว่า กรณีที่ส่งเรื่องให้ ธอส. สอบสวน มิใช่กรณีการชี้มูลความผิดวินัย เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับเรื่องมีหน้าที่ต้องดำเนินการทางวินัยให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ หรือระเบียบ ที่ใช้บังคับสำหรับการดำเนินการทางวินัยของหน่วยงาน ซึ่งหากเห็นว่า ธอส. เคยดำเนินการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ไม่สามารถดำเนินการสอบสวนทางวินัยได้อีก ตนสามารถโต้แย้งคำสั่งต่อธนาคาร และดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจที่จะแจ้งให้กรรมการผู้จัดการ ธอส. ยกเลิกคำสั่งได้ (ดูหนังสือ ป.ป.ช. ประกอบท้ายข่าว)
นางเพ็ญศรี ชี้แจงต่อว่า หลังได้รับแจ้งหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ตนได้ทำหนังสือถึงฝ่ายบริหาร ธอส. เพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งสอบสวนทางวินัยดังกล่าวอีกหลายฉบับ แต่ทางฝ่ายบริหารก็ยังไม่ยกเลิกคำสั่ง โดยให้เหตุผลว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแสวงหาข้อเท็จจริงพร้อมส่งเอกสารหลักฐานใหม่มาให้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของตนเองในบริษัทของพี่สาวนักร้องดัง ที่นำมาใช้ประกอบการขอกู้สินเชื่อ ซึ่งขัดแย้งกับป.ป.ช. และประเด็นนี้ก็มีการสอบสวนไปแล้ว และไม่พบความผิดเช่นกัน
" ประเด็นการสอบสวนสัดส่วนหุ้นของดิฉัน เป็นหนึ่งในประเด็นที่เคยถูกสอบสวนไปแล้วอย่างละเอียด และผลสรุปก็ออกมาว่าไม่ผิด แต่ทางฝ่ายบริหาร ก็ยังคงยืนยันที่จะให้สอบสวนความผิดทางวินัยดิฉันต่อไปให้ได้ ไม่เข้าใจว่าเหมือนกันว่า ทำไมจะต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย ถ้าดิฉันผิด ยอมรับผิดอยู่แล้ว แต่เมื่อมันไม่ผิด ทำไมยังคงยืนยันที่จะสอบสวนอีก"
นางเพ็ญศรี ยังระบุด้วยว่า "การทำหนังสือร้องเรียนถึงนายกฯ ของดิฉันวัตถุประสงค์สำคัญ คือ การร้องขอความเป็นธรรม ขอความเห็นใจ เพราะคำสั่งสอบสวนทางวินัยที่ออกมาทำให้เดือนร้อน อับอาย เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง ทั้งที่ ทุ่มเททำงานให้ ธอส. มานานหลายสิบปี ที่นี่เป็นบ้านของดิฉัน ดิฉันทำงานเพื่อบ้านหลังนี้มายาวนาน อีกไม่นานจะเกษียณอายุแล้ว แต่นี่คือสิ่งตอบแทนที่ดิฉันได้รับจากการทำงานให้บ้านหลังนี้หรือ มันถูกต้องแล้วหรือ"