ได้มาจากการทุจริต! ปปง.อายัดทรัพย์ ‘เสี่ยเปี๋ยง-พวก’ 7 พันล.พันคดีข้าวจีทูจี
ปลอมสัญญาขายข้าวจีทูจี-ได้ทรัพย์สินจากการทุจริต! ปปง. มีมติอายัดทรัพย์สิน ‘เสี่ยเปี๋ยง-สยามอินดิก้า-สิราลัย-คนใกล้ชิด’ ที่ดิน-บัญชีเงินฝาก เบ็ดเสร็จ 7 พันล้าน ชี้พันคดีข้าวจีทูจีล็อตแรก พบเวียนขายต่อในประเทศ ทำชาติเสียหายกว่า 2 หมื่นล้าน จับตาคดีค้างในชั้น ป.ป.ช. อื้อ 4 คดี อายัดเช็คคดีข้าวจีทูจีล็อตใหม่ไปแล้ว 1.8 พันล้าน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติอายัดทรัพย์สินนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และจำเลยในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ กับพวก รวม 662 รายการ มูลค่าประมาณ 7 พันล้านบาท
พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ปปง. มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด บริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับนายอภิชาติ เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารจำนวน 51 บัญชี มูลค่าประมาณ 921 ล้านบาท และที่ดินใน กทม. ภูเก็ต พังงา อยุธยา อ่างทอง จำนวน 611 รายการ มูลค่าประมาณ 5,970 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 662 รายการ มูลค่าประมาณ 7 พันล้านบาท
พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวอีกว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบธุรกรรมการทางการเงินดังกล่าวพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว มีพฤติการณ์ทุจริตโดยการปลอมสัญญาให้ดูเสมือนมีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐจริง รวมถึงการตรวจพบการได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดกับการทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด บริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายอภิชาติ ปปง. จึงมีมติอายัดทรัพย์สินดังกล่าว
พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวด้วยว่า สาเหตุการยึดทรัพย์สินครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวกรวม 21 คน ในคดีระบายข้าวจีทูจี ซึ่งทำผิดด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำงานโดยช่วยเหลือ มุ่งหมาย และเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทไม่ต้องแข่งขันราคากับผู้เสนอรายอื่น แล้วนำข้าวที่ซื้อได้ในราคาต่ำกว่าราคาขายในประเทศ หรือต่ำกว่าราคาที่รับจำนำ ไปขายในประเทศ หรือขายให้ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด นำไปขายต่ออีกทอดทำให้เกิดความเสียหายแก่กรมการค้าต่างประเทศและประเทศชาติ กว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิชาติ ถือเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญในคดีระบายข้าวจีทูจี ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ภายหลังถูกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในคดียักยอกข้าวของรัฐ จำคุกเป็นเวลา 6 ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างฎีกา และญาติของนายอภิชาติได้เจรจากับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอยอมความ และวางเงินประกันประมาณ 229 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างอัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาว่าจะสามารถยอมความได้หรือไม่
(อ่านประกอบ : ‘เสี่ยเปี๋ยง’มาศาลแล้ว! เข้าไต่สวนคดีข้าวจีทูจีเก๊ หลังป่วยความดันนอน รพ., ให้เอกชนจำเลยคดีข้าวชดใช้2หมื่นล.!ศาลฯรับคำร้องอสส.-'เสี่ยเปี๋ยง'อยู่รพ.ตร.จริง, เรือนจำปากน้ำอุบเงียบส่งตัว 'เสี่ยเปี๋ยง' นอนรพ.ตร.-ญาติวางเงิน229ล. เจรจาคดียักยอกข้าว)
ขณะที่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) เป็นบริษัท ที่ถูกชี้มูลความผิดในคดีระบายข้าวจีทูจี และถือว่ามีส่วนสำคัญในกระบวนการระบายข้าวแบบจีทูจี โดยตามสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ชี้มูลความผิดนายบุญทรง กับพวก ระบุทำนองว่า ไม่มีการทำจีทูจีเกิดขึ้นจริง แต่ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบริษัท สิราลัย จำกัด เป็นผู้เข้าไปซื้อข้าวดังกล่าวในราคาถูกแบบการขายจีทูจี ก่อนจะมาเวียนขายต่อในประเทศในราคาสูงแทน
(อ่านประกอบ : ดูชัด ๆ ป.ป.ช.ปอกเปลือกคดีจีทูจีเก๊เชือดยกเข่ง“บุญทรง-บิ๊กขรก.-เสี่ยเปี๋ยง”)
ปัจจุบันทั้งนายอภิชาติ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบริษัท สิราลัย จำกัด รวมถึงบรรดากรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นเครือญาติกับนายอภิชาติ ตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตใหม่ (ปี 2556) ซึ่งปัจจุบันคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว และมีคำสั่งอายัดแคชเชียร์เช็คกว่า 1.8 พันล้านบาท เนื่องจากพบว่า แคชเชียร์เช็คดังกล่าวมีการอ้างว่ามาจากบริษัทจีนที่เข้ามาทำการซื้อข้าว แต่แท้จริงแล้วมาจากบริษัทในเครือของสยามอินดิก้า
(อ่านประกอบ : อายัดเช็ค 1.8 พันล.หลักฐานสำคัญมัดข้าวจีทูจีเก๊!-ป.ป.ช.พบของเครือสยามอินฯ)
นอกจากนี้นายอภิชาติ ยังตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในชั้น ป.ป.ช. อีกอย่างน้อย 3 คดี ได้แก่ 1.คดีเอื้อประโยชน์ให้เอกชนปรับปรุงข้าวส่งมอบให้อินโดนีเซีย (BULOG) 2.คดีระบายข้าวในสต็อกของรัฐบรรจุถุง (ข้าวถุง) 3.คดีระบายมันสำปะหลัง (มันเส้น) จีทูจีโดยมิชอบ
อ่านประกอบ : ศาลสั่งเพิ่มเงินประกัน‘บุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง’ อีก10ล.กันหนีคดีข้าว-4 ข้อหาใน ป.ป.ช.