ศธ. สกัดโควิด 19 สั่งครู-นร.ไปประเทศกลุ่มเสี่ยง หยุดดูอาการ 14 วัน
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ สั่งสกัดโควิด 19 สั่งครู-นร.ไปประเทศกลุ่มเสี่ยงให้หยุดดูอาการ 14 วัน สอดคล้องกับคำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข - ไม่แนะนำให้ตรวจหาเชื้อในช่วงที่ไม่มีอาการ
วันที่ 23 ก.พ. 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้สั่งการให้นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แจ้งหนังสือเวียนไปยังหน่วยงานราชการและสถานศึกษาทั่วประเทศ ถึงมาตรการการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือโควิด 19 โดยครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนคนใด รวมถึงผู้ปกครองที่เดินทางไปต่างประเทศใน 6 ประเทศกลุ่มเสี่ยงแพร่ระบาดของไวรัส ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์ ขอให้นักเรียนและครูที่เดินทางไปในกลุ่มประเทศดังกล่าว หยุดเรียนและหยุดปฎิบัติงาน เพื่อเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดังนั้นจึงขอให้สถานศึกษาและหน่วยงานราชการ ศธ.ยึดเป็นแนวปฎิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรค
อย่างไรก็ตามขอให้ทุกโรงเรียนดูแลสุขอนามัยภายในโรงเรียน รวมถึงเฝ้าสังเกตสุขภาพของนักเรียนทุกคนด้วย
สำหรับบุคลากรของสถานศึกษา ที่กลับจากการเดินทางไปต่างประเทศ และมีข้อกังวลเรื่องการติดเชื้อ กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีหลายสถานศึกษาที่ให้นักเรียน นักศึกษาและบุคลากร ไปโรงพยาบาลเพื่อขอตรวจหาเชื้อและขอใบรับรองแพทย์ก่อนไปโรงเรียนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำให้ไปขอตรวจและขอใบรับรองแพทย์เนื่องจาก
1.การไปตรวจหาเชื้อในช่วงที่ไม่มีอาการ โอกาสพบเชื้อน้อยมาก หรือหากตรวจแล้วพบว่าเป็นลบก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่ป่วยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะไปขอตรวจ ในขณะที่ไม่มีอาการ
2.การไปโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็น จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล และที่สำคัญอาจนำเชื้อต่างๆ ไปติดผู้ป่วยในโรงพยาบาลซึ่งมีร่างกายไม่แข็งแรงได้
3.ควรรีบไปตรวจเมื่อมีอาการตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนสถานศึกษาที่มีนักเรียนนักศึกษาที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดขอให้ปฏิบัติตนดังนี้
1. ขอความร่วมมือให้นักเรียน นักศึกษา บุคลากรที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด พักอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน (self quarantine at home)
2. สถานศึกษาควรจัดให้มีมาตรการคัดกรองนักเรียน นักศึกษา บุคลากรทุกวันโดยวัดไข้และสังเกตอาการ ไอ มีน้ำมูก เพื่อจะแยกตัวไปยังสถานที่เตรียมไว้ได้ทันที
3.นักเรียน นักศึกษา บุคลากรที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด ให้สังเกตอาการป่วยของตนเอง งดออกไปในที่สาธารณะ ที่มีคนอยู่จำนวนมาก งดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น วัดไข้ทุกวัน ไม่ใช่ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ใช้ขนส่งสาธารณะ หากอาการไม่ดีขึ้นให้ใส่หน้ากากอนามัยและรีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง หรือ โทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
4. สถานศึกษา ควรจัดให้มีเจ้าหน้าที่หรือครูอนามัยเพื่อประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่
5. สถานศึกษาต้องจัดให้มีอุปกรณ์สำหรับการล้างมือและแอลกอฮอล์เจลอย่างเพียงพอ สำหรับนักเรียน นักศึกษา บุคลากร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สื่อเกาหลี รายงานยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่ง 556 ราย-ดับแล้ว 4
องค์การอนามัยโลกเปิดไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย 35 ราย บอกละเอียดคนแรก-สุดท้าย
กันติดเชื้อโควิด-19 บ.ไอทียักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น พร้อมใจสั่งพนง.ทำงานที่บ้าน-เลี่ยงเดินทางช่วงเร่งด่วน
สธ.แนะนำคนไทย ไม่จำเป็น 'เลื่อน' เดินทางไปญี่ปุ่น-สิงคโปร์
อนุทิน ยันสาธารณสุขไทย พร้อมช่วยกัมพูชาป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/