เกาหลีใต้ยกระดับเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 'ระดับสูงสุด' ติดเชื้อพุ่ง 602 ราย-ดับรายที่ 5
สำนักข่าวยอนฮับ รายงาน รัฐบาลเกาหลีใต้ ตัดสินใจยกระดับการเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 เป็นระดับสูงสุด หลังจากมีตัวเลขยืนยันผู้ป่วยคิดเชื้อหลายร้อยคนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.มูน แจ-อิน ชี้ ช่วง 2-3 วันต่อจากนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หลังยอดผู้ป่วย เสียชีวิตพุ่งทะยาน
วันที่ 23 ก.พ. 2563 สำนักข่าวยอนฮับ (https://en.yna.co.kr/) รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 17:29 น.ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ ตัดสินใจยกระดับการเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 เป็นระดับสูงสุดแล้ว (highest) หลังจากมีตัวเลขยืนยันผู้ป่วยคิดเชื้อหลายร้อยคนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า "ช่วง 2-3 วันต่อจากนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด"
ก่อนหน้านี้ช่วงเช้า มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในเกาหลีใต้เป็นรายที่ 4 โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 123 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 556 ราย 3 ใน 4 รายที่เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มาจากเมืองทางภาคใต้ คือ เมืองชองโด (Cheongdo) พื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้องรายแรก และแพร่กระจายไปกว่า 110 คน
กระทั่งช่วงบ่ายยอดผู้ป่วยติดเชื้อในเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 602 ราย และเสียชีวิตรายที่ 5
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในวันเดียว คือ วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์นั้น ส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ที่องค์กรทางศาสนาในเมืองแทกู ( Daegu) โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 123 ราย 75 ราย พบว่า เกี่ยวข้องกับสมาชิกกลุ่มศาสนาคริสต์ชินชอนจี
ด้าน The Center for Systems Science and Engineering (CSSE) มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ (Johns Hopkins) ณ เวลา 10.30 น. ได้แสดงลำดับประเทศที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากจีน (76,936) มีตัวเลขมากสุดแล้ว เกาหลีใต้ (556) ขึ้นมาเป็นอันดับสอง ตามด้วย ญี่ปุ่น (135) สิงคโปร์ (85) และอิตาลี (79)
ขณะที่เว็บไซต์ www.scmp.com รายงาน ตัวเลขรายวันล่าสุดของมณฑลหูเป่ย์ ของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ศูนย์กลางการระบาดของโรค ที่แสดงให้เห็นผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและการเสียชีวิตก็เริ่มลดลง ตัวเลข ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ยอดรวมในจีนแผ่นดินใหญ่ มีผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน จำนวนทั้งสิ้น 76,936 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2,442 คน
ล่าสุด นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยกล่าวถึงการควบคุมโรคของประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดรวดเร็ว เช่น จีน ฮ่องกง มาเก๋า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน งดไม่ไปในที่ชุมชน หลีกเลี่ยงใช้ขนส่งสาธารณะ งดใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น งดรับประทานอาหารร่วมกับคนอื่น วัดไข้ทุกวัน หากมีอาการสงสัยให้ใช้หน้ากากอนามัย มาพบแพทย์ และแจ้งประวัติการเดินทาง
ส่วนนักเรียนนักศึกษาที่ปิดเทอม ไปทัศนศึกษาในประเทศกลุ่มเสี่ยง นายแพทย์สุขุม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำให้มาขอใบรับรองแพทย์ ในขณะที่ยังไม่มีอาการป่วย เพราะเสี่ยงติดเชื้อจากโรงพยาบาลได้ อยากให้มาตรวจเมื่อมีอาการเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์ ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เวลา 08.00 น.
1. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 14 ราย กลับบ้านแล้ว 21 ราย รวมสะสม 35 ราย
2. ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 22 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,355 ราย คัดกรองจากสนามบิน 68 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,287 ราย รวมคัดกรองไปแล้ว 3,046,342 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,071 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 284 ราย
3. สถานการณ์ทั่วโลกใน 30 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 23 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 78,673 ราย เสียชีวิต 2,459 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 76,932 ราย เสียชีวิต 2,441 ราย
ที่มาภาพ:en.yna.co.kr /สภาพถนนในตัวเมืองแทกู ซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงโซลประมาณ 300 กิโลเมตรนั้น เกือบร้างในวันที่ 23 กุมภาพันธ์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/