จาก 'ประวิทย์ มาลีนนท์' ถึง 'พี่สรยุทธ' ต้องอยู่ให้ได้ ..สู้ให้ตัวเอง
"...นาทีนี้ พี่ยุทธต้องทำใจให้เข้มแข็ง ชะตากรรมทำให้พี่ยุทธมาอยู่ณจุดนี้ คนที่ไม่หวังดีต่อพี่ต้องการให้พี่มีสภาพเช่นนี้ คนเหล่านั้นไม่ต้องการให้พี่มีที่ยืนในสังคม แต่อย่างน้อยพี่ก็มีที่ยืนในที่นี้ เขาไม่ต้องการให้พี่อยู่ แต่พี่ต้องอยู่ให้ได้ ไม่ใช่เพื่อสู้กับพวกนั้น แต่เพื่อสู้ให้ตัวเอง..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : นายประวิทย์ มาลีนนท์ อดีตกรรมการบริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในเครือบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เขียนข้อความให้กำลังใจนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง และกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกกรณียักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ ที่ออกอากาศทางช่อง อสมท ระหว่างปี 2548-2549 รวมเป็นเงินกว่า 138 ล้านบาท โดยฎีกาแก้ลดโทษนายสรยุทธ เหลือ 6 ปี 24 เดือน จากเดิมในชั้นต้น และชั้นอุทธรณ์ถูกพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน
...................
พี่ยุทธครับ
ผมขอแสดงความเห็นใจ และเสียใจกับพี่ยุทธที่มาประสบชะตากรรมต้องคำพิพากษาศาลในวันนี้
ผมภูมิใจในตัวพี่ยุทธที่ได้รับฟังที่พี่ยุทธบอกน้องๆว่า พี่ทำใจพร้อมแล้วว่าคำพิพากษาเป็นอย่างไร ก็จะน้อมรับตามที่ศาลท่านกรุณาตัดสินออกมา
พี่ยุทธครับ
นาทีนี้ พี่ยุทธต้องทำใจให้เข้มแข็ง
ชะตากรรมทำให้พี่ยุทธมาอยู่ณจุดนี้
คนที่ไม่หวังดีต่อพี่ต้องการให้พี่มีสภาพเช่นนี้
คนเหล่านั้นไม่ต้องการให้พี่มีที่ยืนในสังคม
แต่อย่างน้อยพี่ก็มีที่ยืนในที่นี้
เขาไม่ต้องการให้พี่อยู่
แต่พี่ต้องอยู่ให้ได้
ไม่ใช่เพื่อสู้กับพวกนั้น
แต่เพื่อสู้ให้ตัวเอง
สู้ให้กับคนที่อยู่รอบๆข้างพี่ ทีมงานของพี่
รวมทั้งคนในสังคมใหม่ของพี่
สาธุ กับพี่ยุทธที่พี่ยุทธสามารถทำใจ สามารถให้อโหสิแก่คนที่ประสงค์ร้ายกับพี่ คนที่ทำร้ายพี่ได้
พี่ได้บอกให้อโหสิกรรมแก่พวกเขาเหล่านั้นไปแล้ว
พี่ยุทธไม่ไปอาฆาตมาดร้าย ไม่ไปพยาบาทพวกเขา
จะได้ไม่ต้องตามจองเวรจองกรรมข้ามภพข้ามชาติกันต่อไป
คนอื่นทำอะไรก็เป็นกรรมของเขา
เราทำอะไรก็เป็นกรรมของเรา
พี่ยุทธรู้ว่า การบอกให้ผู้อื่นทำใจให้ได้นั้น พูดหละง่าย แต่ทำหนะยาก
แต่ในเมื่อคนอื่นทั้งหมดทำได้
พี่ยุทธยิ่งต้องทำได้
เพราะพี่ยุทธเคยบวชเรียนมาแล้ว
พี่ยุทธทำใจแล้วว่า ก็เหมือนกลับเข้าไปบวชเรียนต่อ
เข้าไปปฏิบัติธรรมต่อ
เข้าไปศึกษาต่อ
พี่ยุทธครับ พี่มีความรู้ ความสามารถ มีศักยภาพที่จะช่วยคนอื่นๆในสังคมได้ ไม่ว่าจะเป็นสังคมที่เป็นคนดูโทรทัศน์ของพี่ หรือจะเป็นสังคมของคนในที่ต่างๆได้
อย่าจิตตก
อย่าน้อยใจว่าทำไมเราจึงมีชะตากรรมอย่างนี้
คนอื่นๆมากมายก็ประสบชะตากรรมในรูปแบบอื่นๆหนักเบาต่างๆกัน เช่นกัน
คนประสบความสำเร็จสูงๆมีความเป็นอยู่สุขสบายเริดหรู วันหนึ่งกลับล้มละลาย
จากที่เคยอยู่สูงกลับลงสู่ดิน
คนเคยแข็งแรง อยู่ดีๆเป็น stroke บ้างเป็นอัมพาต บ้างนอนติดเตียง บ้างกายภาพในโรงพยาบาล
บ้างนั่งรถเข็น
คนเคยมีงาน กลับตกงาน
คนประสบวิบากกรรมมีมากมายในรูปแบบต่างๆกัน หนักเบาต่างกันตามกรรมที่เราเคยก่อมาในอดีตในอดีตชาติ
ผมคนหนึ่งละ
พี่อ๊อฟก็อีกคนหนึ่งละ
แต่ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจอยู่ ผมก็จะสู้ชีวิตต่อไป
พี่ก็ต้องสู้ต่อ
คิดว่าสวรรค์กำหนดให้พี่เข้าไปสถานที่นี้เพื่อไปสร้างประโยชน์ในนั้น
พี่ต้องตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ว่า เราจะต้องเป็นคนดี เป็นผู้สร้างประโยชน์
เราจะต้องทำให้สังคมดีขึ้น
เราจะสอนคน เราจะสร้างคน
เราจะให้โอกาสแก่คนอื่น
ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
พี่ก็เข้าไปสอนคน
ไปทำให้สังคมในนั้นให้มีความรู้ ความสามารถมากขึ้น
ไปทำให้สังคมในนั้นมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ไปทำให้คนในนั้นในวันข้างหน้ามีโอกาสที่ดีขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น เป็นคนดีขึ้น
ผมมั่นใจและเชื่อในตัวพี่ว่าพี่ทำได้แน่นอน
และเมื่อพี่พ้นออกมาแล้ว ก็ออกมาทำประโยชน์ให้สังคมในวงกว้างต่อไปเหมือนอย่างที่พี่เคยทำมาแล้ว คือ ช่วยรณรงค์ระดมทุนให้ผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆทั้ง
ในต่างประเทศ และในประเทศ
ช่วยระดมทุนช่วยกาชาด ช่วยโรงพยาบาล
ลงพื้นที่ช่วยคนที่ถูกน้ำท่วม
ให้การดูแลช่วยเหลือและให้กำลังใจแก่คนป่วยหนัก คนป่วยระยะสุดท้าย
สร้างคน สร้างอาชีพให้คนอื่น
สร้างโอกาสให้คนอื่น
สร้างชุมชนต่างๆให้เข้มแข็ง มีอาชีพ มีรายได้
ฯลฯ
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่า ในช่วงหลายปีที่พี่ยุทธถูกให้หยุดทำงาน จะเห็นว่าในแต่ละปี จะไม่มีใครช่วยรณรงค์ให้คนไปบริจาคช่วยกาชาด ไม่มีใครเป็นตัวตั้งตัวตีหารถรับบริจาคโลหิตคันใหญ่ๆไปมอบให้ใช้ในกิจการของกาชาด ไม่มีใครลงไปโปรโมทพื้นที่ในจังหวัดต่างๆเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นการสร้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนต่างๆ ดังเช่นที่เคยเป็นมาในสมัยที่พี่ยุทธยังออกรายการอยู่
ประเทศชาติได้เสียโอกาสไปมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังจะต้องเสียโอกาสแบบนี้ต่อไปอีกหลายๆปีตราบเท่าที่พี่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาทำรายการโทรทัศน์ได้
ถ้าผมสามารถจะเสนอแนะได้ ผมอยากเสนอแนะว่าคดีที่ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ ไม่ใช่คดีค้ายาเสพติด ไม่ใช่คดีตั้งใจฆ่า ไม่ใช่คดีข่มขืน คดีค้ามนุษย์ เหล่านี้เป็นต้น ผมอยากเสนอให้เปลี่ยนการลงโทษผู้กระทำความผิด จากโทษจองจำคุมขัง ให้เปลี่ยนเป็นการใช้ให้ไปทำงานตามสายอาชีพของผู้กระทำความผิดนั้นๆให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคม เช่น เป็นหมอ เป็นพยาบาล เป็นตำรวจ เป็นดับเพลิง เป็นอาสากู้ภัย ก็ใช้ให้ไปทำหน้าที่ของเขาให้แก่สังคมให้เต็มกำลังความสามารถ แทนการมาจองจำคุมขังเอาไว้ ซึ่งหาประโยชน์ได้น้อย ทั้งยังเป็นภาระของราชทัณฑ์ที่ต้องมาควบคุม และต้องเป็นภาระในการดูแลเลี้ยงดู เป็นภาระแก่รัฐในการจัดหางบประมาณมาเพื่อการนี้มหาศาล
นอกจากนั้น การเอาผู้กระทำความผิดทั้งหมดไปคุมขัง ก่อให้เกิดความแออัดยัดเยียดในทัณฑสถาน เกิดปัญหาสุขภาพ และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย
การคัดเลือกเฉพาะผู้ต้องขังชั้นดีตามเกณฑ์ของราชทัณฑ์ในคดีที่ไม่ใช่คดีร้ายแรงดังเช่นที่กล่าวมาแล้วข้างต้นที่มีความรู้ความสามารถในสายอาชีพต่างๆที่ช่วยสังคมในวงกว้างได้ ช่วยคนมากๆได้ ช่วยได้ทุกวัน และในการทำงานช่วยเหลือแต่ละครั้งใช้ช่วงเวลาไม่ยาวนานนัก จะสร้างประโยชน์แก่สังคมได้มากมาย
แนวคิดดังกล่าวไม่ใช่แนวคิดใหม่ เป็นแนวคิดทำนองเดียวกับที่ศาลได้ปฏิบัติมาแล้วบ่อยครั้งในการให้ผู้กระทำความผิดกฏหมายจราจรที่เป็นคนที่มีชื่อเสียง เป็นคนที่สังคมรู้จัก ออกไปบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์แก่สังคมเป็นจำนวนชั่วโมงตามที่ศาลกำหนด
ในกรณีของพี่ยุทธผมเสนอให้ใช้พี่ยุทธไปทำรายการออกอากาศทุกวันเช่นเดิม ในสถานีของรัฐก็ได้ โดยเน้นให้ออกอากาศเนื้อหาที่ส่งเสริมสังคม ข่าวการพัฒนา ให้มากๆ หรือข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากราชการซึ่งเป็นข่าวสารที่ไม่มีรายการข่าวใดอยากนำมาเผยแพร่ เช่น มติที่ประชุมครม. เป็นต้น
การลงทัณฑ์ในลักษณะให้ไปทำงานแบบนี้ จะทำให้พี่ยุทธ หรือผู้ต้องโทษคนอื่นๆมีอาชีพ มีงานเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว และบริวาร แทนการลงโทษโดยเอาพี่ยุทธและคนอื่นๆในเกณฑ์เดียวกันไปคุมขัง ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์มากนัก และจะทำให้ไม่เป็นภาระให้ราชทัณฑ์ต้องมีภาระมาดูแลความเป็นอยู่ของพี่อีกด้วย จะได้เอางบประมาณไปดูแลผู้ต้องขังรายอื่นแทน
ลองมานั่งนึกดูว่าถ้าสามารถให้พี่ออกไปทำงานออกรายการเหมือนก่อนที่พี่ถูกฟ้องคดี มันจะก่อเกิดประโยชน์มากมายมหาศาลแค่ไหน จะช่วยคนได้มากมายแค่ไหน เป็นการเอาคนที่มีความสามารถที่สุดในการนำข่าวสารไปถึงคนดู มาออกรายการข่าวสารที่เป็นประโยชน์ทุกวัน
ลองคิดดู ให้ผู้ต้องโทษที่เป็นหมอ เป็นพยาบาล ออกไปทำงานตามปรกติ รักษาคนป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ หรือไปสอนในสถาบัน เช่นไปสอนนักศึกษาแพทย์บ้าง พยาบาลบ้าง ไปสอนในทัณฑสถานบ้าง ตามรายละเอียดที่ศาลจะสั่ง จะเกิดประโยชน์มากมายเพียงใด
เกณฑ์การคัดเลือกว่าใครสมควรออกไปทำงานสังคมลักษณะนี้ ก็ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ทางศาลหรือทางรัฐจะกำหนด โดยอาจจะเพิ่มให้มีคนรับรอง มีคนค้ำประกัน
แนวคิดนี้ดูเหมือนเป็นการให้อิสระแก่ผู้ต้องขัง แต่มาคิดดู น่าจะดีกว่าการมีคำพิพากษาให้ต้องโทษ แต่รอลงอาญา ซึ่งก็คล้ายกัน แต่การรอลงอาญา ผู้ต้องโทษไม่ต้องมีหน้าที่ต้องทำอะไรให้สังคมเป็นการตอบแทนแต่อย่างใด
การทำประโยชน์ให้แก่สังคมส่วนรวม พี่ทำได้ ทำมาแล้ว ทำได้ดี เกิดมรรคผลมากมายมาแล้ว แม้ว่าอานิสงส์จากการประกอบคุณงามความดีที่ผ่านมาของพี่ ยังไม่ส่งผลคุ้มครองพี่ในตอนนี้ สักวันหนึ่งข้างหน้าคุณงามความดีเหล่านี้จะตอบแทนให้พี่เอง
อย่างน้อยถ้าพี่นั่งคิดแต่สิ่งดีงามที่พี่ได้ทำมาเหล่านี้ ผมเชื่อว่าอย่างน้อยจะสร้างรอยยิ้มให้กับพี่ได้
และพี่จะได้ไม่ต้องมัวแต่ไปนั่งคิดน้อยอกน้อยใจในชะตาชีวิตของตัวเอง
พี่จะได้ไม่ต้องเสียสมอง เสียความรู้สึก เสียอกเสียใจ ไปต่างๆนานา
คิดบวกครับพี่
คิดว่าเรามีความรู้ มีความสามารถ มีศักยภาพที่จะสร้างโลกให้ดีขึ้นได้
เทพต่างๆได้รับการกราบไหว้บูชา เพราะการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
คิดอย่างเทพ ทำอย่างเทพ
สิครับพี่
พี่โชคดีที่ได้เข้ามาอยู่ในวงการสื่อ และยิ่งใหญ่ก็เพราะสื่อมาแล้ว
น้อยคนจะมีโอกาสแบบนี้
แม้มีโอกาสแบบนี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้แบบนี้
พี่เป็นคนหนึ่งในไม่กี่คนที่ทำได้
ตำนานในวงการสื่อโทรทัศน์ด้านงานข่าวที่ผ่านมามีเพียง 4 ส 1 จ เท่านั้น
แต่มีเพียง 1 ส สรยุทธ เท่านั้นที่นอกจากประสบความสำเร็จสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการข่าวแล้ว ยังยกสถานะของคนในวงการข่าวทั้งหมดให้สูงขึ้น
เป็นอย่างมากด้วย ทำให้คำที่ว่า คนข่าวไส้แห้ง หมดไป คนทำงานทุกระดับมีฐานะการเงิน มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมากมาย
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเพียงคนเดียวในตำนานคนข่าวที่สร้างประโยชน์แก่สังคมในวงกว้างอย่างหาคนเปรียบไม่ได้
รักษาศักยภาพอันนี้ของพี่ไว้
รอโอกาสที่พี่จะใช้สื่อ ทำอย่างเทพ ในวันข้างหน้าสิครับ
ประวิทย์ มาลีนนท์
21 ม.ค. 2563
อ่านประกอบ :
คุกจริง 'สรยุทธ' 6 ปี 24 ด.! ศาลฎีกาฯ พิพากษาแก้คดี ‘ไร่ส้ม’ ไม่รอลงอาญา
ชี้ชะตาคดี ไร่ส้ม 138 ล. ‘สรยุทธ’ ปิดฉากหรือพ้นผิด นักเล่าข่าว 5.5 พันล.
ถ้าทุจริตคงไม่ร่วมมือ อสมท สอบ! คำต่อคำ‘สรยุทธ’หลังศาลอุทธรณ์จำหน่ายคดีปลอมเอกสาร
ศาลอุทธรณ์ตัดสินคดี‘สรยุทธ’โฆษณาเกินเวลา 29 ส.ค.-ยืนชั้นต้นจำหน่ายคดีปลอมเอกสาร
ชัด ๆ คำพิพากษาศาล! คดี‘สรยุทธ-พวก’โฆษณาเกินเวลา 138 ล.
ไม่รอลงอาญา! ศาลสั่งจำคุก‘สรยุทธ-พวก’ 13 ปี 4 เดือนคดีไร่ส้ม
ช่อง 3 โยน บ.ไร่ส้ม ตัดสินใจ เปลี่ยนพิธีกร 'เรื่องเล่าเช้านี้'
ย้อนข้อมูล 10 ปี! คดี‘สรยุทธ-ไร่ส้ม’ก่อนศาลนัดอ่านคำพิพากษา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/