ศาลฎีกาฯฟัน 7 รองนายก อบต. ‘ยื่นบัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ จำคุก 1-2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
รองนายก อบต.ทั้งหมด! ศาลฎีกาฯฟัน 4 นักการเมืองท้องถิ่นยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ -3 คนไม่ยื่น อบต.จารพัต-เบิด จ.สุรินทร์ -หนองโบสถ์ บุรีรัมย์-ไผ่ล้อม พระนครศรีอยุธยา-วังคีรี ตรัง-อากาศ สกลนคร - คำโคกสูง อุดรธานี คงจำคุกคนละ 1-2 เดือน ปรับเงิน 4,000-8,000 บาท รอลงโทษคุก 1 ปี
นอกจาก นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นซึ่งเป็นคดีที่สองตามข่าวที่รายงานแล้ว (อ่านประกอบ:โดนคดีที่สอง!ศาลฎีกาฟัน‘เสี่ยสุวิทย์’ที่ปรึกษา‘ขุนค้อน’ซุกเงินฝาก หุ้น ที่ดิน ส.ป.ก.50 ไร่)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในวันเดียวกัน วันที่ 16 พ.ค.2562 ศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีก 4 รายซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมีความผิดจงใจยื่นบัญชีฯเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน โดยเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 ต.ค.2562 ดังนี้
1.นายทวีศักดิ์ จันทร์หอม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ จงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.จารพัต เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2554 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2555 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีเมื่อวันที่ 5 ต.ค.2558 โดยไม่แสดงรายการบัญชีเงินฝาก 1 บัญชี และที่ดิน 1 แปลง มูลค่า 160,000 บาท นอกจากนี้กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีผู้ถูกกล่าวหายังไม่แสดงรายการบัญชีเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาศีขรภูมิ เป็นเงิน 318,410.86 บาท และบัญชีเงินกู้จากสหกรณ์การเกษตรศีขรภูมิ จำกัด เป็นเงิน 75,900 บาท
พิพากษาว่า นายทวีศักดิ์ จันทร์หอม ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.จารพัต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.114/2562 วันที่ 16 พ.ค.2562) เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 ต.ค.2562
2. นายสวาท เพ่งพินิจ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เบิด อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.เบิด เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2556 ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.เบิด ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของตนและคู่สมรสหลายรายการ กล่าวคือ
กรณีเข้ารับตำแหน่ง ไม่แสดงรายการยานพาหนะ รถกระบะบรรทุก หมายเลขทะเบียน 81-7259 สุรินทร์ และเงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขารัตนบุรี จำนวน 11,077.63 บาท กรณีพ้นจากตำแหน่ง ไม่แสดงรายการยานพาหนะ รถกระบะบรรทุก หมายเลขทะเบียน 81-7259 สุรินทร์
และเงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขารัตนบุรี จำนวน 3,602.77 บาท และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่แสดงรายการยานพาหนะ รถกระบะบรรทุก หมายเลขทะเบียน 81-7259 สุรินทร์ และเงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขารัตนบุรี จำนวน 3,618.56 บาท
พิพากษาว่า นายสวาท เพ่งพินิจ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.เบิด ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.(คดีหมายเลขแดงที่ อม.116/2562 วันที่ 16 พ.ค.2562)
3..นายทิพย์ วนพงศ์ทิพากร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองโบสถ์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.หนองโบสถ์ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2556 ผู้ถูกกล่าวหา ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯกรณีเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองโบสถ์ในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2556 โดยกรณี เข้ารับตำแหน่งไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหา 5 บัญชี จำนวน 20,025.04 บาท 202,144.46 บาท 300,820.08 บาท 3,204.68 บาท และ 19,797.16 บาท รายการเงินฝากธนาคารของคู่สมรส 3 บัญชี จำนวน 2,000,500 บาท 76,012.44 บาท และ 416,787.66 บาท รายการเงินลงทุนของผู้ถูกกล่าวหา 2 รายการ มูลค่า 5,000,000 บาท และ 4,950,000 บาท รายการเงินลงทุนของคู่สมรส 1 รายการ มูลค่า 2,000,000 บาท รายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ของคู่สมรส 1 รายการ ราคา 262,000 บาท รายการยานพาหนะของผู้ถูกกล่าวหา 4 คัน และรายการกู้เงินธนาคารและสถาบันการเงินอื่นของผู้ถูกกล่าวหา 2 รายการ จำนวน 288,005.89 บาท และ 211,988.80 บาท
กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารของผู้ถูกกล่าวหา 6 บัญชี จำนวน 1,474.62 บาท 3,639.89 บาท 4,735.37 บาท 344,475.48 บาท 3,303.45 บาท 4,477.64 บาท รายการเงินฝากธนาคารของคู่สมรส 3 บัญชี จำนวน 1,100,563.77 บาท 76,645.48 บาท และ 923,132.23 บาท รายการเงินลงทุนของผู้ถูกกล่าวหา 1 รายการ มูลค่า 5,000,000 บาท รายการเงินลงทุนของคู่สมรส 1 รายการ มูลค่า 19,000,000 บาท รายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างของคู่สมรส 1 รายการ มูลค่า 262,000 บาท และรายการยานพาหนะ
ของผู้ถูกกล่าวหา 3 คัน
ผู้ร้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงทำนองว่าบัญชีเงินฝากบางบัญชีเปิดไว้สำหรับรับเบี้ยผู้สูงอายุของคู่สมรส บางบัญชีบุตรเปิดเพื่อซื้อเบี้ยประกันชีวิตให้คู่สมรสและบางบัญชีคู่สมรสมิได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ สำหรับเงินลงทุนในนิติบุคคลบางรายการได้ยกให้บุตรและบางรายการได้พ้นจากการเป็นผู้ถือหุ้นไปแล้ว ส่วนหนี้เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นเข้าใจว่ามีจำนวนเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับหนี้สินที่เคยมีมาจึงมิได้แสดง
พิพากษาว่า นายทิพย์ วนพงศ์ทิพากร ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองโบสถ์ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.หนองโบสถ์ กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.117/2562 วันที่ 16 พ.ค.2562)
4.นายประสงค์ วงษ์มาก รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไผ่ล้อม อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ไผ่ล้อม เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2556 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี สลากออมทรัพย์ 1 รายการไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินกู้ธนาคาร 1 รายการ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี และสลากออมทรัพย์ 1 รายการ
พิพากษาว่า นายประสงค์ วงษ์มาก ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.ไผ่ล้อม ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ธ.ค.2558 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่ง การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.118/2562 วันที่ 16 พ.ค.2562)
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 3 ราย
นอกจากนี้ราชกิจจานุเบกษาวันที่ 22 เม.ย. 2562, 23 พ.ค.2562 และ 29 พ.ค.2562 ศาลฎีกาฯพิพากษาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 3 ราย จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ได้แก่
1.นายรงค์ฤทธิ์ สิทธิโชค รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)วังคีรี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.วังคีรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.129/2562วันที่ 23 พ.ค.2562) เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 15 ต.ค.2562
2.นายสมสมัย ตงบุญชัย รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.อากาศ ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต.อากาศ ครั้งที่ 2 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอากาศ ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน นับแต่วันที่ 12 พ.ย.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 29 พ.ค.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคกุ ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.138/2562วันที่ 29 พ.ค.2562) เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 15 ต.ค.2562
3.นายสมยศ สายเสมา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คำโคกสูง อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.คำโคกสูง ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 ธ.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.87/2562วันที่ 22 เม.ย.2562) เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 18 ต.ค.2562
อ่านประกอบ:
โดนคดีที่สอง!ศาลฎีกาฟัน‘เสี่ยสุวิทย์’ที่ปรึกษา‘ขุนค้อน’ซุกเงินฝาก หุ้น ที่ดิน ส.ป.ก.50 ไร่
ให้พ้นทันที 3 คน! ศาลฎีกาฟัน 6 นักการเมืองท้องถิ่นยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 4 รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯจำคุกจริง 1 เดือน นายกเทศฯธรรมศาลา นครปฐม ยื่นบัญชีเท็จ นับโทษจากคดีเก่า
ศาลฎีกาฟันนายก อบต.เทพมงคล จ.พระนครศรีฯ ยื่นบัญชีเท็จ -2 รอง ยโสฯ ปัตตานี ไม่ยื่น
ศาลฎีกาฯฟันซ้ำ‘อรพิน’นักธุรกิจกุนซือ‘ขุนค้อน’ยื่นบัญชีฯเท็จ 71 ล. ที่ดิน สปก.50 ไร่
ศาลฎีกาฯ ฟัน 3 นายก อบต. 1 รองฯ ซุกทรัพย์สิน-ไม่ยื่นบัญชีฯ ให้พ้นทันที 2 ราย
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี ‘ฉลอง’ คดียื่นบัญชีฯเท็จ
ออกหมายจับ! ศาลฎีกาฯคุกจริง 2 เดือน ‘ระพิพรรณ’ - ยึดทรัพย์รวยผิดปกติ 42 ล.
คำพิพากษาศาลฎีกาฯฟัน 14 นักการเมืองท้องถิ่น ซุกทรัพย์สิน 9 - ไม่ยื่นบัญชีฯ 5 ราย
‘พลภูมิ’รอด!ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีทรัพย์สิน ชี้ ป.ป.ช.ส่งตัวไม่ทันใน 5 ปี-ขาดอายุความ
รับสารภาพ ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษา ‘ฉลอง เรี่ยวแรง' 17 ก.ย.นี้
‘นิชนันท์’แจงคดีทรัพย์สินถูกศาลฎีกาฯปรับ 4,000 บ.รอลงอาญา 2 ปี-ปัดถูกตัดสิทธิ์การเมือง
ป.ป.ช.ส่งศาลฎีกาฯ เลขาฯ รมช.คลังยุค‘เบญจา’ ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯเมืองยโสธร ไม่แจ้งหนี้บัตรเครดิตเมีย 4 ใบ
รอลงโทษจำคุก 1 ปี! ศาลฎีกาฯให้ ส.อบจ. สตูล พ้นทันที ยื่นบัญชีฯเท็จ 3 ครั้ง
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.เชียงใหม่ -เลขาฯนายก ชัยนาท ซุกทรัพย์สินอื้อ ให้พ้นทันที
ศาลฎีกาฯฟันอีก 5 นักการเมืองท้องถิ่นคดีบัญชีฯ-ให้นายกอบต.ไกรใน สุโขทัย พ้นทันที
13 นักการเมืองท้องถิ่นรอด! ศาลยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สิน เหตุยื่นฟ้องหลัง กม.ใหม่
รับสารภาพ!คุก1 เดือน รอลงโทษ1 ปี 'ชญาดา'เมีย 'พลภูมิ'ส.ส.เพื่อไทย ยื่นบัญชีฯเท็จ
เงินลงทุน 2 แห่ง 2.3 ล. นายก อบต.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี-เมีย คดียื่นเท็จ ป.ป.ช.
เจาะไส้ใน 10 นักการเมืองท้องถิ่นซุกทรัพย์สินอย่างไร? ก่อนศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯฟัน 10 นักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้พ้นตำแหน่งทันที 6 คน
สรรพากรสอบภาษี ห้างรับเหมา นายกเทศฯพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี- คู่สัญญารัฐ 26 ล้าน
ดูชัดๆ นายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี-เมีย โยกหุ้น 2 บ.12 ล้าน - ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
โผล่อีกบริษัท! นายกเทศมนตรี ต.พรหมบุรี สิงห์บุรี ถือหุ้น 9.8 ล. ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี ถือหุ้น หจก. 2 ล.ไม่แจ้ง ป.ป.ช.- อ้าง จนท.ขอดูแค่ทรัพย์สินบุคคล
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี สิงห์บุรี คดียื่นบัญชีฯเท็จ มีทรัพยสิน 172 ล.- รายได้ 427.2 ล.
ศาลฎีกาฯฟันนายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ซุก ป.ป.ช. เงินฝาก 10 ล. ที่ดิน 3 แปลง
4 คดีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่น ศาลฎีกายกคำร้อง เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.ใหม่บังคับ
สรุปคำพิพากษาฟัน 4 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ปัตตานี สกลนคร กาญจนบุรี ตาก ไม่ยื่นบัญชีฯ
พฤติกรรม ส.อบจ.ลำปาง ซุกเงินฝาก เงินกู้ยืม ป.ป.ช.-ศาลจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน ไม่รอลงโทษ นักการเมืองท้องถิ่น จ.อุตรดิตถ์ ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.สุราษฎร์ฯ-ร้อยเอ็ดไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก 1 เดือน-รอลงโทษ 1 ปี รองฯเทศมนตรี จ.นครสวรรค์ ซุกหุ้น-เงินฝาก 13 บัญชี
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ลำพูน-นราฯ ซุกบัญชีฯ เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.บังคับ
ดูชัดๆ อดีตปธ.สภา อบจ.สมุทรสาคร ซุกหุ้น 2 บ. ศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
อย่าลืมฉัน! สมบัติ-นพ.วีระวุฒิ-เมียอริสมันต์ มีคดีรวยผิดปกติในศาลฎีกาฯปี 62
รายชื่อ 190 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สินรอบปี 61 - รองนายก อบต.อื้อ 93 ราย
เผยปี 2561 คดีไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สิน ทะลัก 190 คน ‘ธาริต-พงศ์พัฒน์-ชูวิทย์’ติดกลุ่ม