อ้างโดนโกรธเคืองฟังไม่ขึ้น! ป.ป.ช.ตีตกคำร้อง ‘เจ๊แดง’ค้าน‘สุภา’องค์คณะฯคดีข้าวจีทูจี
ป.ป.ช. ตีตกคำร้อง ‘เยาวภา วงศ์สวัสดิ์’ ผู้ถูกกล่าวหาคดีข้าวจีทูจีล็อตสอง ค้าน ‘สุภา ปิยะจิตติ’ กก.ผู้รับผิดชอบสำนวน ในองค์คณะไต่สวน อ้างสาเหตุโกรธเคืองเหตุถูกย้ายสมัย รบ.ยิ่งลักษณ์ ชี้ฟังไม่ขึ้น – นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ 7 โรงสี คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก 9 ก.ย.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานความคืบหน้าในการไต่สวนข้อเท็จจริง คดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยทุจริตล็อตที่ 2 ในชั้นองค์คณะไต่สวน (กรรมการ ป.ป.ช. 9 รายเป็นกรรมการ มี น.ส.สุภาปิยะจิตติ เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และมีการเพิ่มชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำกลุ่มวังบัวบานพรรคเพื่อไทย น้องสาวนายทักษิณ เป็นผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม และมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหารวม 71 รายไปแล้วนั้น (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งข้อหา 71 รายพันคดีข้าวจีทูจีล็อต 2-‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เยาวภา’ด้วย, เปิดหมด71ชื่อ คดีจีทูจีล็อต 2 'บุญทรง' เบอร์ 1 พ่วง 'ปู-เยาวภา-ทักษิณ' บ.บิ๊กวงการข้าวเพียบ)
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งองค์คณะไต่สวน และรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ดีนางเยาวภาได้ทำหนังสือคัดค้าน น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นางเยาวภา ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ น.ส.สุภา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง ดูแลด้านรายจ่ายของแผ่นดิน เช่น สำนักงบประมาณ รวมถึงเป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ต่อมาได้ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ดูแลด้านทรัพย์สินของแผ่นดิน เช่น กรมธนารักษ์ อาจทำให้ น.ส.สุภา เกิดความโกรธเคืองและพิจารณาคดีระบายข้าวจีทูจีอย่างไม่เป็นธรรมได้
ทั้งนี้มีการนำหนังสือนางเยาวภา ที่คัดค้าน น.ส.สุภา ดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา ท้ายที่สุดที่ประชุมมีมติว่า เหตุผลของนางเยาวภาฟังไม่ขึ้น จึงให้ตีตกหนังสือคัดค้านดังกล่าวไป
@นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์โรงสี 7 แห่ง คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก 9 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในวันที่ 9 ก.ย. 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ คดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตแรก ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นอุทธรณ์ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีกรรมการ และโรงสี 7 ราย เป็นจำเลย หลังจากก่อนหน้านี้ศาลฎีกาฯพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่ากรรมการ และโรงสีทั้ง 7 ราย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตระบายข้าวจีทูจี
สำหรับรายชื่อกรรมการและโรงสี 7 ราย ได้แก่ 1.หจก.โรงสีกิจทวียโสธร 2.นายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.โรงสีกิจทวียโสธร และกรรมการบริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด 3.บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด 4.บริษัท เค.เอ็ม.ซี.อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด 5.นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการบริษัท เค.เอ็ม.ซี.อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด 6.บริษัท เจียเม้ง จำกัด 7.นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการบริษัท เจียเม้ง จำกัด
โดยศาลฎีกาฯเคยพิพากษาว่า ทางการไต่สวนไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้ง 7 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำกวางตุ้ง และไห่หนาน เข้ามาทำสัญญากับกรมการค้าต่างประเทศเพื่อทำจีทูจี และการจ่ายแคชเชียร์เช็คดังกล่าว ก็เชื่อว่า ทำไปเพื่อรับมอบข้าวออกมาจากคลังของรัฐ ที่กรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้การันตี ไม่มีพฤติการณ์ทราบอยู่แล้วว่า ข้าวดังกล่าวคือข้าวที่ต้องทำจีทูจี และการซื้อข้าวดังกล่าว ก็เป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาด ไม่ใช่ข้าวราคาต่ำที่ถูกนำไปเวียนขายแต่อย่างใด พิพากษายกฟ้อง (อ่านประกอบ :‘โจ’ดีล‘วีระวุฒิ’ขาย‘สมคิด’เบิกข้าวให้!ล้วงคำวินิจฉัยองค์คณะฯทำไมต้องลงโทษโรงสีคดีจีทูจีเก๊?, ไม่เอกฉันท์ยกฟ้องโรงสีคดีจีทูจีเก๊ คำวินิจฉัยองค์คณะฯชี้ซื้อต่อ‘โจ’ผิดปกติ-อัยการจ่ออุทธรณ์)
มาตรา 195 วรรคสี่ ระบุว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้อุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผ็ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา
การวินิจฉัยอุทธรณ์ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตามวรรคสี่ ให้ดำเนินการโดยองค์คณะของศาลฎีกาซึ่งประกอบด้วยผู้พิพากษาในศาลฎีกาตามวรรคสี่ ให้ดำเนินการโดยองค์คณะของศาลฎีกา ประกอบด้วยผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา หรือผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ซึ่งไม่เคยพิจารณาคดีนั้นมาก่อน และได้รับคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจำนวน 9 คน โดยให้เลือกเป็นรายคดี และเมื่ององค์คณะของศาลฎีกาดังกล่าวได้วินิจฉัยแล้ว ให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นเป็นคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้ผู้ใดพ้นจากตำแหน่ง หรือคำพิพากษานั้นมีผลให้ผู้ใดพ้นตำแหน่ง ไม่ว่าจะมีการอุทธรณ์ตามวรรคสี่หรือไม่ ให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา
หลักเกณฑ์และวิธีการอุทธรณ์ตามวรรคสี่ และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคห้า ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ขยายผลจาก‘บุญทรง’!มติทางการ ป.ป.ช. ไต่สวน‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เจ๊แดง’ คดีข้าว-มันจีทูจี
เจาะคำพิพากษาเบื้องหลัง ป.ป.ช. ตีตก‘บุญทรง’ตั้ง กก.สอบปกปิดโกงข้าว-เหลืออีก2คดีขายสินค้าจีทูจี?
ป.ป.ช.ตีตกคดี‘บุญทรง’ปมตั้ง กก.สอบขายข้าวจีทูจีเพื่อปกปิดความจริงที่ต้องเปิดเผย
ขมวดปมซับซ้อน! สถานะพยาน 3 คดีจีทูจีเก๊ หลังศาลยกฟ้องซื้อข้าวต่อสยามอินฯไม่ผิด?
ยังเหลือข้าวล็อตสอง-มันเส้น! อัยการยัน ป.ป.ช. คุยจำเลยขอข้อมูลเพิ่มคดีจีทูจีทำได้
คำให้การพยานคดีจีทูจีเก๊บินดูไบเจรจาซื้อข้าว ก่อน‘ทนายปู’ปูด ป.ป.ช. บีบซัดทอด ‘แม้ว’?
เปิดชื่อ‘ไทยฟ้าฯ’เอกชนราย 5 ถูก ป.ป.ช. กันเป็นพยานคดีข้าวจีทูจีล็อตแรก
ป.ป.ช.ยันเอกชนคดีข้าวจีทูจีบินพบ‘บิ๊กการเมือง’ ถ้ากลับคำไม่กันเป็นพยานแน่!
หมายเหตุ : ภาพประกอบ น.ส.สุภา จาก tnews, ภาพ นางเยาวภา จาก hi-class