คำให้การพยานคดีจีทูจีเก๊บินดูไบเจรจาซื้อข้าว ก่อน‘ทนายปู’ปูด ป.ป.ช. บีบซัดทอด ‘แม้ว’?
“…ระหว่างปี 2555 เป็นต้นมา ในช่วงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตแรก คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการกันเอกชนที่เกี่ยวพันกับคดีระบายข้าวจีทูจีไว้อย่างน้อย 5 แห่ง มีเอกชนแห่งหนึ่งให้การในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวน ในชุดกรรมการ ป.ป.ช. เดิม อ้างว่า ตัวแทนของเอกชนรายนี้ เดินทางไปพบกับนักการเมืองใหญ่รายหนึ่งที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเจรจาซื้อขายข้าว โดยนักการเมืองใหญ่รายนี้ระบุว่า ให้ติดต่อซื้อขายข้าวกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด โดยตรงได้เลย…”
“…ต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รายหนึ่ง มีความพยายามที่จะในนำคดีระบายข้าว (จีทูจี) โดยนำสัญญาระบายข้าวที่เหลือมาดำเนินคดีใหม่อีกเป็นครั้งที่ 2 แต่กลับมีการกล่าวหาบุคคลเพิ่มเติมนอกเหนือจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยให้จำเลยหลายรายในเรือนจำให้การซัดทอดถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือญาติ โดยมีการจูงใจแลกกับสิทธิประโยชน์ที่ไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำ แต่ให้อยู่ในโรงพยาบาลแทน…”
เป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญที่ถูกปล่อยออกมาจาก นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันหลบหนีคำพิพากษาคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการจำนำข้าว) (อ้างอิงข่าวจาก เดลินิวส์ออนไลน์)
ประเด็นคือ นายนรวิชญ์ ต้องการจะสื่อว่า ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยทุจริตไปแล้ว มีความพยายามจากกรรมการ ป.ป.ช. บางราย ต้องการ ‘ปัดฝุ่น’ รื้อคดีระบายข้าวแบบจีทูจีขึ้นมาอีกครั้ง โดยให้จำเลยต่าง ๆ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก ซัดทอดถึงนายทักษิณ และเครือญาติว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีบทบาทในโครงการนี้หรือไม่ อย่างไร ?
เบื้องต้นต้องเข้าใจก่อนว่าการไต่สวนของ ป.ป.ช. เกี่ยวกับคดีข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีอย่างน้อย 5 คดีด้วยกัน จบไปแล้ว 2 คดี ได้แก่ คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว (น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำเลย) และคดีระบายข้าวแบบจีทูจีโดยทุจริต (นายบุญทรง นายภูมิ พร้อมพวกเป็นจำเลย) เหลืออยู่ระหว่างไต่สวน 3 คดี ได้แก่ คดีปรับปรุงข้าวส่งมอบอินโดนีเซีย (BULOG มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหา) คดีจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้าราคาประหยัด (ผู้บริหารระดับสูงขององค์การคลังสินค้า (อคส.) กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหา) และคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตใหม่ (มีนายบุญทรง กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหา)
การไต่สวนเฉพาะคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และคดีระบายข้าวแบบจีทูจี เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปี 2555 เป็นต้นมา มี ‘กระบี่มือหนึ่ง’ นายวิชา มหาคุณ และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย 2 กรรมการ ป.ป.ช. (ชุดเดิม) เป็นหนึ่งคณะอนุกรรมการไต่สวน 2 สำนวน ต่อมานายวิชา และนายประสาท พ้นจากตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. เนื่องจากเกษียณ ได้โอนย้ายสำนวนเกี่ยวกับการระบายข้าวจีทูจีมาถึงมือของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ที่อดีตเคยเป็นประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว (สมัยดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง)
ปัจจุบันเท่าที่ทราบข้อมูล น.ส.สุภา เป็นผู้ไต่สวนคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตใหม่ ที่มีการกล่าวหานายบุญทรง กับพวกที่เป็นอดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มเอกชนเครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด (อ่านประกอบ : อายัดเช็ค 1.8 พันล.หลักฐานสำคัญมัดข้าวจีทูจีเก๊!-ป.ป.ช.พบของเครือสยามอินฯ)
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2561 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พยายามติดต่อ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากทั้ง 2 รายเดินทางไปราชการที่ต่างประเทศ
วันเดียวกันสำนักข่าวอิศราพยายามติดต่อ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ตามเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว แต่ไม่มีผู้ใดรับสาย จึงทำให้ยังไม่สามารถทราบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวได้
อย่างไรก็ดีหลายคนอาจสงสัยว่า ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ.2561 ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2561 ที่นายนรวิชญ์ ระบุ เกี่ยวพันกับเรื่องนี้อย่างไร
แล้ว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการระบายข้าวแบบจีทูจีด้วยหรือไม่ ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีคำตอบ
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ.2554 หรือประกาศ ป.ป.ช. กันบุคคลไว้เป็นพยานฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญคือ สามารถกันตัวบุคคลหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องเป็นพยานเพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริง และเบิกความในชั้นศาลสำหรับคดีสำคัญต่าง ๆ ได้ โดยบุคคลหรือนิติบุคคลดังกล่าวจะได้รับความคุ้มครองและไม่ถูกดำเนินคดีอาญา หรือวินัยแต่อย่างใด แต่ข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นสาระสำคัญที่นำไปสู่จุดคลี่คลายทางคดีได้
ระหว่างปี 2555 เป็นต้นมา ในช่วงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตแรก (สัญญาฉบับที่ 1-4 ของไห่หนานฯ และกวางตุ้งฯ) คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการกันเอกชนที่เกี่ยวพันกับคดีระบายข้าวจีทูจีไว้อย่างน้อย 5 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยมีเอกชนแห่งหนึ่งให้การในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวน ในชุดกรรมการ ป.ป.ช. เดิม (นายวิชา และนายประสาท เป็นคณะอนุกรรมการฯ) อ้างว่า ตัวแทนของเอกชนรายนี้ เดินทางไปพบกับ ‘นักการเมืองใหญ่’ รายหนึ่งที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเจรจาซื้อขายข้าว โดยนักการเมืองใหญ่รายนี้ระบุว่า ให้ติดต่อซื้อขายข้าวกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด โดยตรงได้เลย
อย่างไรก็ดีในชั้นลงนามบันทึกการให้ปากคำดังกล่าว ตัวแทนเอกชนรายนี้กลับคำให้การ อ้างว่า เป็นการเข้าใจผิด ไม่ได้เดินทางไปดูไบ เพื่อพบกับนักการเมืองใหญ่รายนี้ แต่ไปพบ ‘ผู้ใหญ่’ รายหนึ่ง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จึงแก้ไขถ้อยคำในบันทึกการให้ปากคำดังกล่าวให้ตรงกับที่ตัวแทนบริษัทเอกชนรายนี้อ้างถึง
ต่อมาเมื่ออัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องคดีนี้ต่อศาลฎีกาฯ และพนักงานอัยการเรียกให้บริษัทเอกชนรายนี้มาทำบันทึกคำให้การอย่างเป็นทางการเพื่อเตรียมนำเสนอต่อศาลในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก ตัวแทนเอกชนรายนี้ อ้างว่า ‘ผู้ใหญ่’ คนดังกล่าวไม่ใช่นักการเมืองใหญ่แต่เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าขายข้าว โดยเดินทางไปเพื่อเจรจาธุรกิจเท่านั้น ทำให้พนักงานอัยการไม่นำบริษัทเอกชนรายนี้ขึ้นนำสืบเป็นพยานฝ่ายโจทก์ เพราะเกรงว่า อาจทำให้เสียรูปคดีได้
ต่อมาเมื่อกลางปี 2559 พนักงานอัยการ ได้ทำหนังสือขอให้เพิกถอนเอกชนรายดังกล่าวออกจากการเป็นพยานในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก เนื่องจากกลับคำให้การ และไม่เบิกความตามคำให้การในชั้นศาล
แต่ในการไต่สวนของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตสอง (กล่าวหานายบุญทรง กับพวก สัญญาเมื่อปี 2556 มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานฯ) ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่ (มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธานฯ) กลับกันบริษัทเอกชนรายนี้ไว้เป็นพยานอีก ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯว่า เหตุใดจึงกันบริษัทเอกชนรายนี้ไว้เป็นพยานอยู่ เนื่องจากมีพฤติการณ์ไม่ชอบมาพากล และมีการกลับคำให้การในตอนหลัง นอกจากนี้พนักงานอัยการได้ทำหนังสือขอให้เพิกถอนบริษัทเอกชนรายนี้ไว้เป็นพยาน แต่กลับยังกันไว้เป็นพยานในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตสองอีก ทำให้เกิดการตั้งคำถามทั้งจากฝ่ายอัยการ และฝ่ายเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ถึงเหตุผลของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เพราะตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์เรื่องกันบุคคลไว้เป็นพยาน หากมีการกลับคำให้การ หรือเบิกความไม่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา ย่อมไม่ได้รับการกันไว้เป็นพยาน
อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช. ยืนยันว่า กรณีนี้เอกชนได้ให้การว่าบินพบนักการเมืองใหญ่จริง และหากพบว่ามีการกลับคำให้การ จะต้องถูกตัดออกจากการเป็นพยานแน่นอน (อ่านประกอบ : เอกชน ป.ป.ช.กันเป็นพยานคดีข้าวจีทูจี อ้างบินพบ‘บิ๊กนักการเมือง’ก่อนกลับคำคุย‘ผู้ใหญ่’, เปิดชื่อ 4 บ.ค้าข้าว ป.ป.ช.กันไว้เป็นพยานคดีจีทูจีเก๊-คู่ค้ารัฐ 5.5 พันล., ป.ป.ช.ยันเอกชนคดีข้าวจีทูจีบินพบ‘บิ๊กการเมือง’ ถ้ากลับคำไม่กันเป็นพยานแน่!)
เรื่องราวดังกล่าวเงียบหายไปอีกครั้ง จนมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 (ฉบับใหม่) จึงต้องจัดทำประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ.2561 เพื่อให้สอดคล้องกัน
สำหรับสาระสำคัญของประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ.2561 คล้ายคลึงกับฉบับเดิมเมื่อปี 2554 คือ ต้องเป็นพยานหรือเป็นผู้รู้เห็นกับการกระทำทุจริต และต้องให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์อันเป็นสาระสำคัญของรูปคดีนำไปสู่การคลี่คลายได้ และต้องเต็มใจไปเบิกความเป็นพยานในชั้นศาล หากไม่เบิกความหรือกลับคำให้การจนทำให้เสียรูปคดี อาจถูกพิจารณาไม่กันไว้เป็นพยานได้ แต่มีการเพิ่มเติมว่า หากจะกันบุคคลใดไว้เป็นพยาน ห้ามขู่เข็ญ หรือหลอกลวง หรือกระทำการใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลดังกล่าวมาเป็นพยานโดยเด็ดขาด (อ่านรายละเอียดฉบับเต็ม ที่นี่)
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 ต.ค. 2561 นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้จุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยอ้างว่า มีกรรมการ ป.ป.ช. บางราย เข้าไปสอบปากคำจำเลยบางคนในคดีระบายข้าวจีทูจี เพื่อแลกกับการกันไว้เป็นพยานในคดีระบายข้าวจีทูจี
ไม่ว่าสิ่งที่นายนรวิชญ์กล่าวอ้างมาจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ คงต้องรอให้ฝ่าย ป.ป.ช. ชี้แจงต่อสังคมอีกครั้ง ?
อ่านประกอบ :
เปิดชื่อ'ไทยฟ้าฯ'เอกชนราย 5 ถูก ป.ป.ช. กันเป็นพยานคดีข้าวจีทูจีล็อตแรก
ป.ป.ช.ยันเอกชนคดีข้าวจีทูจีบินพบ‘บิ๊กการเมือง’ ถ้ากลับคำไม่กันเป็นพยานแน่!
เอกชน ป.ป.ช.กันเป็นพยานคดีข้าวจีทูจี อ้างบินพบ‘บิ๊กนักการเมือง’ก่อนกลับคำคุย‘ผู้ใหญ่’
เปิดชื่อ 4 บ.ค้าข้าว ป.ป.ช.กันไว้เป็นพยานคดีจีทูจีเก๊-คู่ค้ารัฐ 5.5 พันล.
ป.ป.ช.ไต่สวนกราวรูด 89 บิ๊กค้าข้าว สั่งจ่ายเช็คระบายจีทูจี "เสี่ยเปี๋ยง" ไม่รอด!
เบื้องหลัง"ป.ป.ช."ไต่สวนบิ๊กค้าข้าว 89 ราย สั่งจ่ายเช็คระบายจีทูจี"เก๊"