'ไบรท์ทีวี' เปิดเออลี่รีไทร์ จ่ายพิเศษ 1 เดือน เเค่ 'ค่าตกใจ' ไม่ใช่เยียวยาตามเเผน กสทช.
'ไบรท์ทีวี' เปิดเออลี่รีไทร์ จ่ายตามกม. พร้อมชดเชยพิเศษ 1 เดือน ให้พนักงาน หลังคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ขณะที่ ศปส. ยื่น กสทช. ก่อนหน้า 1 วัน จี้ดันมาตรการต้องให้เงินพิเศษไม่น้อยกว่า 3 เดือน ขณะที่พนง.บางส่วน เผยสอบถามฝ่ายบุคคล ทราบว่า เงินพิเศษเเค่ค่าตกใจ ไม่ใช่จากเเผนเยียวยาตาม กสทช.
วันที่ 22 พ.ค. 2562 นางเบญจวรรณ รังษีธนานนท์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไบรท์ทีวี จำกัด ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ซึ่งได้ยื่นขอคืนใบอนุญาตประกอบกิจการไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ออกประกาศเเผนกทรัพยากรบุคคล ที่ HR-005/2562 เรื่อง โครงการสมัครใจลาออก โดยได้รับเงินชดเชยพิเศษ รายละเอียดสำคัญ ระบุดังนี้
บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องลดโครงสร้างเเละลดอัตรากำลังคนเนื่องจากการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ช่องรายการ ไบรท์ทีวี เพื่อให้การดำเนินธุรกิจรูปเเบบใหม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ บริษัทฯ จึงมีนโยบายให้พนักงานสมัครเข้าร่วมโครงการสมัครใจลาออก โดยได้รับเงินชดเชยพิเศษจากกรณีคืนช่องใบอนุญาตทีวีดิจิทัล มีหลักการเเละเหตุผล คือ
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินการรูปเเบบธุรกิจใหม่ในอัตรากำลังคนมีความเหมาะสมกับปริมาณงานในอนาคตในการกำหนดทิศทางเเละศึกษาความเป็นไปได้ในเเผนธุรกิจใหม่ เเละให้บริษัทฯ สามารถสร้างระบบเเละบริหารอัตรากำลังได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพเเละประสิทธิผล สอดคล้องกับโครงสร้างรูปเเบบธุรกิจใหม่ ตลอดจนปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนทรัพยากรบุคคลเเละลดภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรโดยรวมตามโครงสร้างรูปเเบบธุรกิจใหม่
ทั้งนี้ มีหลักการว่า ต้องเป็นความประสงค์เเละสมัครใจร่วมกันทั้งสองฝ่ายระหว่างบริษัทฯ กับพนักงานที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ เป็นสิทธิฝ่ายเดียวของบริษัทฯ ในการอนุมัติให้พนักงานลาออกตามโครงการ โดยเฉพาะตำเเหน่งงานหลัก เเละตำเเหน่งงานสำคัญที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์เเละใช้ความรู้เเละประสบการณ์เฉพาะที่ไม่สามารถหาผู้ปฏิบัติงานเเทนได้เเละ/หรืออาจส่งผลเสียต่อธุรกิจของบริษัทฯ
ในกรณีที่มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวนมาก จนทำให้มีค่าใช้จ่ายเกินกว่างบประมาณที่ได้รับอนุมัติ บริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะพิจารณาคัดเลือกตามเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเเก่บริษัทฯ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เเละบริษัทฯ จะไม่รับพนักงานที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการกลับเข้าทำงานในฐานะพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทอีก
ส่วนคุณสมบัติของพนักงานที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการนั้น หนังสือระบุว่า พนักงานทุกระดับของบริษัทฯ ที่ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ
โดยให้ลงชื่อเเละกรอกรายละเอียดในเเบบฟอร์มหนังสือเเสดงความประสงค์ได้ที่เเผนกทรัพยากรบุคคล ตั้งเเต่วันที่ 21-24 พ.ค. 2562 จากนั้นเเผนกทรัพยากรบุคคลจะพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของพนักงานเเละจัดทำรายชื่อ เพื่อนำเสนอในการพิจารณาของสายบังคับบัญชาอของผู้บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เเละประธานกรรมการบริหารตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งผลการพิจารณาอนุมัติจากประธานกรรมการบริหารให้ถือเป็นที่สิ้นสุด
ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับผลประโยชน์ตอบเเทนเป็นจำนวนเงินชดเชยตามอายุงาน โดยให้นับอายุงานตั้งเเต่วันที่เข้าทำงานกับบริษัทฯ จนถึงวันที่ทำงานวันสุดท้ายตามที่ระบุไว้ในใบลาออก ซึ่งการกำหนดวันที่ดังกล่าวนี้จะพิจารณาจากประธานเจ้าหน้าที่บริหารเเละประธานกรรมการบริหารเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ มีรายละเอียด ดังนี้
อายุงานครบ 120 วันขึ้นไป เเต่ไม่ครบ 1 ปี ได้รับเงินชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
อายุงานครบ 1 ปีขึ้นไป เเต่ไม่ครบ 3 ปี ได้รับเงินชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน
อายุงานครบ 3 ปีขึ้นไป เเต่ไม่ครบ 6 ปี ได้รับเงินชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน
อายุงานครบ 6 ปีขึ้นไป เเต่ไม่ครบ 10 ปี ได้รับเงินชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 240 วัน
อายุงานครบ 10 ปีขึ้นไป ได้รับเงินชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน
ทั้งนี้ ยังได้รับเงินชดเชยพิเศษอีก 30 วัน
หนังสือระบุต่อว่า พนักงานที่ได้รับอนุมัติตามโครงการจะได้รับเงินชดเชยเเละเงินชดเชยพิเศษเป็นเช็คธนาคาร กำหนดวันที่ตามที่ได้ลาออก
ขณะที่วันที่ได้รับการอนุมัติลาออกตามโครงการนั้น พนักงานจะได้รับเเจ้งจากเเผนกทรัพยากรบุคคล เรื่องกำหนดวันที่ในการทำงานวันสุดท้าย จากนั้นพนักงานต้องกรอกเเบบฟอร์มใบลาออกที่เเผนกทรัพยากรบุคคล ซึ่งบริษัทถือเป็นการลาออกโดยสมัครใจ ไม่ใช่การถูกเลิกจ้างโดยบริษัทฯ โดยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเเละจากพ้นจากพนักงานตามวันที่ระบุไว้ หากไม่ดำเนินการให้เสร็จสิ้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เเละตัดสิทธิ์พนักงานให้ออกจากโครงการนี้โดยทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ตัวแทนศูนย์ประสานงานและติดตามข้อมูลสถานการณ์ในอุตสาหกรรมสื่อมวลชน” (ศปส.) ภายใต้ 5 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ประกอบด้วย สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องในการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง คสช.ที่ 4/2562 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เเละกิจการโทรคมนาคมเเห่งชาติ (สำนักงานกสทช.)
โดยหนึ่งในข้อเรียกร้องคือต้องกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างเป็นเงินพิเศษไม่น้อยกว่า 3 เดือน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม พัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพใหม่ นอกเหนือจากค่าชดเชยเลิกจ้างตามที่กฎหมายกำหนด (อ่านประกอบ:เลขาฯ กสทช.คาดภายใน 60 วัน รู้จำนวนตัวเลข 7 ช่อง เยียวยาพนักงาน)
ฝ่ายบุคคล เผยชดเชย 1 เดือน เเค่ค่าตกใจ ไม่ใช่เยียวยาตาม กสทช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไบรท์ทีวี ออกหนังสือแจ้งพนักงานเกี่ยวกับโครงการสมัครใจลาออก โดยจ่ายค่าชดเชยพิเศษ 1 เดือนนั้น พนักงานแต่ละแผนกได้หารือกันเป็นการภายในและบางส่วนได้สอบถามกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลทราบว่า ความจริงแล้วเงินชดเชยที่ได้เป็นเพียง “ค่าตกใจ” ตามที่กฏหมายกำหนดเท่านั้น เพราะพนักงานที่สมัครเข้าโครงการฯ ภายในวันที่ 24 พ.ค.2562 นั้น จะถูกเลิกจ้างในวันที่ 31 พ.ค.2562 หรือเท่ากับว่าจะไม่ได้รับเงินเยียวยาตามมติของอนุกรรมการเยียวยาของ กสทช. ที่มีมติให้ช่องทีวีดิจิทัลที่คืนใบอนุญาตต้องเยียวยาพนักงานมากกว่าที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ ให้สมัครใจลาออกอย่างรีบเร่ง เพราะบริษัทฯ ต้องการเคลียร์พนักงานส่วนใหญ่ออกไปก่อน ซึ่งจะทำให้พนักงานส่วนนี้ไม่อยู่ในแผนเยียวยาพนักงานให้มากกว่ากฎหมายตามมติของอนุกรรมการเยียวยาของ กสทช. อย่างไรก็ตาม พนักงานบางส่วนระบุว่า อาจตัดสินใจเข้าโครงการฯ แม้ว่าจะรู้ว่าตนเองเสียสิทธิ์เยียยวยาที่ควรจะได้รับ แต่หากไม่ยื่นทางผู้บริหารก็มีแผนจะใช้วิธี “จิ้ม” พนักงานออกเป็นรายคน ซึ่งสุดท้ายพนักงานจะไม่ได้สิทธิเยียวยาตามมติอนุกรรมการฯ กสทช.อยู่ดี
ส่วนกรณีที่ผู้บริหารบอกกับพนักงานว่า หลังจากคืนช่องแล้วจะมุ่งสู่การทำออนไลน์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ารูปแบบของออนไลน์จะเป็นแบบใด ทำให้พนักงานกลุ่มหนึ่งเกรงว่าจะถูกโยกไปทำงานที่ตนเองไม่ถนัด จึงตัดสินใจว่าจะยื่นเข้าโครงการฯ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ พนักงานบางส่วนยังกังวลว่า หากไม่ยื่นสมัครเข้าโครงการฯ จะต้องย้ายสถานที่ทำงานจากที่ตั้งเดิม เพราะผู้บริหารมีแผนจะย้ายสำนักงานออกไปอยู่สถานที่ใหม่ ซึ่งอาจจะอยู่บนถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของบริษัท 3 เอ. มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นบริษัทไบรท์ทีวี
ขณะเดียวกัน ในส่วนของพนักงานระดับหัวหน้าแผนก แม้ว่าจะได้รับคำร้องเรียนจากลูกน้องว่าเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยของบริษัทฯ ไม่เป็นไปตามแนวทางเยียวยาของอนุกรรมการเยียวยาฯ ที่มีนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เป็นประธาน แต่ก็ได้แต่นิ่งเงียบ เพราะบริษัทฯเขียนเงื่อนไขของโครงการฯว่า บริษัทฯ มีสิทธิ์ไม่อนุมัติการลาออกของพนักงานคนใดก็ได้ หากเห็นว่ามีความจำเป็นต่อองค์กร ทำให้หัวหน้าบางแผนกที่ตัดสินใจจะไม่ไปต่อกับผู้บริหาร เกรงว่าหากพูดอะไรออกไปอาจจะไปขัดใจผู้บริหาร ทำให้ไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าโครงการฯได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พนักงานบางส่วนยังระบุว่า บริษัท ไบรท์ทีวี จำกัด จะได้เงินชดเชยจากกสทช.กว่า 500 ล้านบาท และมีเงินเหลือจำนวนหนึ่งหลังจากหักหนี้สินต่าง ๆ แล้ว แต่บริษัทฯ ไม่มีการเยียวยาพนักงานมากกว่ากฎหมายกำหนดตามมติอนุกรรมการฯ กสทช. ก็เท่ากับว่าคำสั่งหัวหน้าคสช.ในการเยียวยาทีวีดิจิทัลนั้น เป็นการช่วยเหลือนายทุนให้ล้มบนฟูก ในขณะที่พนักงานนับร้อยที่ต้องตกงานไม่ได้รับการเยียวยาเช่นเดียวกับนายทุน
ผู้บริหารไบรท์ทีวีกำลังเจรจาช่อง 5 ป้อนรายการ
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวขณะนี้ผู้บริหารบริษัท ไบรท์ทีวี จำกัด กำลังเจรจากับสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เพื่อขอเช่าเวลาทำรายการและแบ่งรายได้กับทางสถานี จึงเท่ากับว่านอกจากผู้บริหารจะมีเงินเหลือจากการคืนช่องแล้ว ยังอาจจะได้เวลาทำรายการจากช่อง 5 ซึ่งเป็นช่องของกองทัพบกด้วย ในขณะที่ก่อนหน้านี้เจ้าของสถานีไบรท์ทีวี จำกัด เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของสถานีช่อง 5 ด้วย
รายงานระบุว่า ผู้บริหารไบรท์ทีวีมีกำหนดชี้แจงโครงการสมัครใจลาออกกับพนักงานกว่า 200 คนในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค )
อ่านประกอบ:‘ไบรท์ทีวี’ เออลี่รีไทร์ จ่ายตามกม.-ยังไม่มีแผนชดเชยพิเศษตาม กสทช. หลังคืนช่อง
7 ช่อง คืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล-กสทช. ชี้ต้องเยียวยาพนักงานมากกว่า กม.
'ไบรท์ทีวี' เปิดให้ 200 พนง. เออลี่รีไทร์ 21 พ.ค.-เตรียมเเจงเเผนชดเชยสัปดาห์หน้า
คำสั่ง 'บิ๊กตู่' ว่าด้วยกรณี 7 ช่องทีวีดิจิทัล คืนใบอนุญาต ต้องเยียวยาพนง.!
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/