16 พ.ค. ศาลปค. นัดอ่านคำสั่งคดีดิ แอสปายคอนโด ก่อสร้างกระทบชุมชน
ก่อนหน้านี้ ปี 2558 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งให้ “กรุงเทพมหานคร” ชดใช้ค่าเสียหายแก่ชาวบ้าน 7 ราย ย่านงามวงศ์วาน คนละ 35,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำ ส.3/2554 คดีหมายเลขแดงที่ ส.52/2558 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนที่ 1 กับพวกรวม 39 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร และการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
สำหรับคดีนี้ สมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 16 คน ฟ้อง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึงที่ 3 อนุญาตให้บริษัทเอกชนก่อสร้างอาคารชื่อ “โครงการอาคารชุด แอสปาย คอนโดมิเนียม งามวงศ์วาน” โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และโครงการดังกล่าวเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะปิดกั้นแสงอาทิตย์และทิศทางลม อันส่งผลกระทบต่อสิทธิของชาวบ้านและผู้ฟ้องคดีโดยชัดแจ้งผู้ฟ้องคดีจึงได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่กลับละเลยเพิกเฉยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ จึงเป็นกรณีที่ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสีย (อ่านประกอบ:ศาลปค.เพิกถอน EIA แอสปายคอนโด ซ.ชินเขต-ชดใช้รายละเกือบ 7 หมื่น )
ซึ่งก่อนหน้านี้ ปี 2558 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารกำหนดให้ต้องปฏิบัติผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง เป็นการดำเนินการก่อสร้างอาคารโดยฝ่าฝืนคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างอาคาร ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ความเสียหายของผู้ฟ้องคดีจึงเป็นความเสียหายโดยตรงจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ละเลยต่อหน้าที่ที่ไม่ใช้มาตรการทางกฎหมายรุนแรงยิ่งขึ้น กับผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 ที่กระทำการก่อสร้างอาคารโดยฝ่าฝืนกฎหมาย แม้ความเสียหายนั้นจะเกิดจากการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 ด้วย แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ยังต้องรับผิดในส่วนของตนจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 จึงต้องดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสามสิบเก้าโดยการกำกับดูแลและควบคุมการก่อสร้างอาคารของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีที่ 2 ที่ 3 ที่ 6 ที่ 7ที่ 12 ที่ 13 และที่ 16 เป็นเงินคนละ 35,503.42 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 35,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องคดีเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ใช้อำนาจหน้าที่ เพื่อให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 ดำเนินการก่อสร้างโครงการอาคารชุด แอสปาย คอนโดมิเนียม งามวงศ์วาน โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนด