กรุงไทย ยื่นคำร้องศาลขอให้ธนชาตส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากเอิร์ธ800ล. หลังรู้ข่าวเตรียมโอนไปจีน
เผยข้อมูล ธ.กรุงไทย ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ธนาคารธนชาต ส่งบัญชีเงินฝากบ.เอ็นเนอร์ยี่ฯ กว่า 800 ล้าน ชำระหนี้ที่ค้างหลังทราบว่าเตรียมการโอนไปจีนเพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามกม. ล่าสุดนัดไต่สวนคำร้อง 18 ก.พ.62 ที่ผ่านมา แต่พยานฝั่งคู่กรณีอ้างป่วย เลื่อนนัดใหม่เป็น 22 มี.ค.62 นี้
กรณีปัญหาการปล่อยสินเชื่อของ ธนาคารกรุงไทย ให้กับ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในขณะนี้ กำลังถูกจับตามองมากขึ้น เมื่อปรากฎข้อมูลใหม่ว่า ขณะนี้ ธนาคารกรุงไทย อยู่ระหว่างยื่นเรื่องฟ้องคดีในชั้นศาลเพื่อขอให้ ธนาคารธนชาต ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อนำมาชำระหนี้ที่ค้างชำระกับธนาคารกรุงไทย หลังจากมีข่าวว่าบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ จะโอนเงินส่วนนี้ไปประเทศจีน เพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.62 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้กำหนดให้มีการไต่สวนคำร้องของธนาคารกรุงไทย เพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินฝากดังกล่าว หลังจากเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฯ เพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินฝากดังกล่าว ขณะที่ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2562 ขอเพิกถอนหมายอายัดเงินฝาก ซึ่งธนาคารกรุงไทย ได้ยื่นคำคัดค้านคำร้องดังกล่าว พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลฯ มีคำสั่งให้ธนาคารธนชาตส่งบัญชีเงินฝากที่อายัดเพื่อให้เจ้าหนี้ทุกรายทราบยอดหนี้ในบัญชีเงินฝากด้วย
เบื้องต้น ศาลฯ จึงกำหนดให้มีวันไต่สวนคำร้องในวันที่ 18 ก.พ.62 (คดีพ. 1141/2561) และวันที่ 13 มี.ค.62 (คดี พ.1158/2561) แต่ปรากฎว่า ในการไต่สวนคำร้องเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา พยานฝั่งบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการไต่สวนโดยอ้างว่าป่วย ศาลจึงได้เลื่อนวันนัดไต่สวนเป็นวันที่ 22 มี.ค. 2562 ขณะที่ธนาคารธนชาต กลับนำส่งข้อมูลเพียงแค่คำขอเปิดฝากเงินเท่านั้น ธนาคารกรุงไทย จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ธนาคารธนชาต ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากดังกล่าวอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า การเรื่องฟ้องคดีในชั้นศาลเพื่อขอให้ธนาคารธนชาต ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท ดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2560 ที่บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ เริ่มผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารกรุงไทย หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทยทราบข่าวว่า บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ จะโอนเงินที่ฝากไว้ที่ธนาคารธนชาต ประมาณ 800 ล้านบาท ไปยังประเทศจีน เพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ แต่ธนาคารกรุงไทยไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะอายัดการโอนเงินดังกล่าวเนื่องจากเงินฝากดังกล่าวไม่ได้ฝากที่ธนาคารกรุงไทย จึงต้องยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลดังกล่าว
ธนาคารกรุงไทย จึงยื่นเรื่องฟ้องคดีต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ขอให้ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ชำระหนี้ที่ค้างชำระกับธนาคารกรุงไทย และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยการอายัดเงินฝากดังกล่าว ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้ฟ้องบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ และผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ตามมูลหนี้ Import financing จำนวน 2 คดี คดีแรกฟ้องเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2560 จำนวน ทุนทรัพย์ 800 ล้านบาท และคดีที่สองฟ้องเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2560 ทุนทรัพย์ 386.43 ล้านบาท โดยทั้งสองคดีศาลยังไม่มีคำพิพากษา แต่มีคำสั่งให้อายัดเงินฝากดังกล่าว รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2560 บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย และขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้ทำแผน จึงมีผลทำให้ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ตกอยู่ในสภาวะพักการชำระหนี้ตามกฎหมาย ซึ่งส่งผลให้อำนาจในการอายัดเงินฝากของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ตกเป็นอำนาจของศาลล้มละลายกลาง และในระหว่างนี้ ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ได้โอนคดีเดิมไปยังศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยให้เหตุผลว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจของศาล
ต่อมาบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งให้มีสิทธิเบิกถอนเงินฝากที่ธนาคารธนชาตเพื่อนำไปจ่ายเงินเดือนพนักงานและรายจ่ายที่จำเป็น เป็นเหตุทำให้ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ สามารถเบิกถอนเงินฝากในช่วงดังกล่าวได้ ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งตั้งบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ทำแผนเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นคดีพ. 1141/2561 และคดี พ.1158/2561
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 61 ศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ จึงเป็นเหตุทำให้ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ มีอำนาจในการจัดการทรัพย์สินของตนเองได้ตามเดิม ซึ่งตามสิทธิในทางกฎหมายบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ สามารถเบิกถอนเงินฝากดังกล่าว
หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทย ได้พยายามดำเนินการยื่นคำร้องไปยังศาลล้มละลายกลาง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลทรัพย์สินฯ เพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินฝากดังกล่าวต่อไป
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2561 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งว่า คำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการมีผลทำให้สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้ลูกหนี้กลับไปดังเดิม
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2561 ธนาคารกรุงไทย จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินฝากดังกล่าวอีกครั้ง และเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2561 จึงได้มีคำสั่งว่าศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งชัดเจนแล้วว่าคำสั่งศาลทรัพย์สินฯ มีผลใช้ต่อไป จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งอายัดซ้ำอีก
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2562 บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายอายัดเงินฝาก และธนาคารกรุงไทย ได้ยื่นคำคัดค้านคำร้องดังกล่าว พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกเพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ธนาคารธนชาตส่งบัญชีเงินฝากที่อายัดเพื่อให้เจ้าหนี้ทุกรายทราบยอดหนี้ในบัญชีเงินฝาก
เบื้องต้น ศาลจึงกำหนดให้มีวันไต่สวนคำร้องในวันที่ 18 ก.พ.62 และวันที่ 13 มี.ค.62 ดังกล่าว แต่ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2562 พยานฝั่งบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ฯ ขอยื่นคำร้องขอเลื่อนการไต่สวนโดยอ้างว่าย ศาลจึงได้เลื่อนวันนัดไต่สวนใหม่ เป็นวันที่ 22 มี.ค.2562 และในขณะเดียวกันธนาคารธนชาต กลับไม่นำส่งข้อมูลบัญชีเงินฝาก และส่งเพียงคำขอเปิดบัญชีเงินฝากเท่านั้น ธนาคารจึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ธนาคารธนชาต ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากดังกล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:
เบื้องลึก! 'กิตติพันธ์' ขอพักงาน ซีไอเอ็มบี 2 ด. สู้ข้อกล่าวหาปล่อยกู้เอิร์ธฯ-ตอนนี้มีอะไรในมือบ้าง?
ซีไอเอ็มบี แจ้งตลาดฯ 'กิตติพันธ์' ขอพักงาน 2 ด. ไปต่อสู้ข้อกล่าวหาปล่อยกู้เอิร์ธฯ
กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ : ศักดิ์ศรีจรรยาบรรณวิชาชีพนายธนาคาร กับ กรณีปล่อยกู้เอิร์ธฯ
กรุงไทย ยันไม่เคยหารือเอิร์ธฯออกมติเชิญเป็นกก.ย้ำสถานะผู้เสียหายฟ้องแพ่ง-อาญา
ก.ล.ต. กล่าวโทษ ก.ก. EARTH 11 ราย ยินยอมให้ลงข้อความเท็จหนี้เพิ่ม2.6หมื่นล้าน
ตั้ง บ.อีวายฯ ทำแผน! ศาลสั่งฟื้นฟูกิจการ‘เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ’-หลังปมหนี้ 2.6 หมื่นล.
ถ้าผิดจริงคุก240ปี! กรุงไทยเตรียมแจ้งดีเอสไอเพิ่ม-พบปลอมใบขนถ่านหิน80ฉบับเกือบหมื่นล.
ใช้1.5หมื่นล.แลกเหมืองถ่านหิน! เปิดรายงานตรวจสอบบ.เอิร์ธฯ สัญญาซื้อ3หมื่นล.ล่องหน
แนะกสิกรไทย-กรุงศรี-ธสน.ตรวจสอบใบขนถ่านหิน 'เอิร์ธ' หวั่นเจอเหมือนกรุงไทย!
ฉ้อโกงกรุงไทยหลายพันล.ปลอมใบขนถ่านหิน บ.เอิร์ธกู้เงิน-แจ้งดีเอสไอลุยสอบ