เปิดตัว'สาวปราจีน' ถูกยืมชื่อตั้ง บ.เอี่ยวคดีคืนภาษี 2 พันล.โดนไล่สอบผิดจริงจ่าย 231ล.
"...หลังจากที่ให้ชื่อกับเอกสารไป ก็ไม่เคยไปลงลายมือ หรือยุ่งเกี่ยวอะไรในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเลย รวมไปถึงลายมือที่ถูกนำไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชีและมีการโอนเงินเข้าออกจำนวนหลายสิบล้านบาทด้วย ส่วนพี่สาวก็ถูกตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเป็นเหยื่อ และนับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตอย่างมาก.."
สืบเนื่องจากในช่วงต้นปี 2559 สำนักข่าวอิศรา www.isranes.org เคยติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกกรณีกลุ่มบริษัทเอกชนขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกรมสรรพากรกลุ่มใหม่ 2 พันล้านบาท ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ต่อจากกรณีขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มวงเงินประมาณ 4.3 พันล้านบาท ของกลุ่ม นายวีรยุทธ แซ่หลก กับพวก
โดยบริษัทเอกชนขอคืนภาษีกลุ่มใหม่ 2 พันล้าน ปรากฎพฤติการณ์ คือ ให้กลุ่มบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท อ้างว่า ประกอบธุรกิจส่งออกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ทุนแห่งละ 1 ล้านบาท มีต้นทุนจากการซื้อขายผลิตสินค้าในประเทศและมาขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร ซึ่งปรากฎชื่อ น.ส.สุดสวาท พุทธา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ถ.สฤษฏ์ยุทธศิลป์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง ปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในกรรมการ และผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชนหลายแห่ง (อ่านประกอบ : พบเครือข่ายคืนภาษี'บริษัทที่ 9' สมุทรปราการฟัน 46 ล. -‘ที่ตั้งเดียว’ 2 บ. 100 ล.,เจาะทุจริตคืนภาษี 4.3 พันล. ถึงเปิดโปงกลุ่มใหม่ 2 พันล. หน้าที่ปกติ ‘สื่อ-อิศรา’ )
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้รับการติดต่อจาก น.ส.สุดสวาท พุทธา เพื่อขอชี้แจงข้อเท็จจริงถึงการปรากฎชื่อเข้าไปเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชนที่ทำเรื่องขอคืนภาษีหลายแห่งดังกล่าว
โดย น.ส.สุดสวาท เริ่มต้นให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา ได้เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ต่อกรมสรรพากร หลังถูกออกหมายเรียกตัวให้ไปรับทราบผลการตรวจสอบภาษีอากร เนื่องจากปรากฎชื่อเป็นกรรมการบริษัทกลุ่มที่ทำเรื่องขอคืนภาษี และมีเงินหมุนเวียนเข้าออกในบัญชีกว่า 6 บัญชี รวมวงเงินกว่า 80 ล้านบาท ทั้งที่ ไม่ส่วนรู้เห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
น.ส.สุดสวาท กล่าวชี้แจงต่อว่า สาเหตุที่ชื่อของตน เข้าไปเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชนกลุ่มนี้ เป็นเพราะว่าในช่วงปี 2555 พี่สาวซึ่งทำธุรกิจขายคอมพิวเตอร์อยู่ ได้รับการร้องขอจากคนรู้จัก ขอยื่มชื่อไปใช้ในการจดทะเบียนตั้งบริษัททำธุรกิจ พี่สาวจึงมาติดต่อตนเพื่อขอชื่อและเอกสารส่วนตัวไปใช้จดทะเบียนตั้งบริษัทด้วย
"ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากเลย พี่สาวมาขอ เราก็ยินยอมให้ไป จนกระทั่งมารับทราบข้อมูลจากกรมสรรพากร ว่า ถูกตรวจสอบภาษีดังกล่าวด้วย"
"หลังจากที่ให้ชื่อกับเอกสารไป ก็ไม่เคยไปลงลายมือ หรือยุ่งเกี่ยวอะไรในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเลย รวมไปถึงลายมือที่ถูกนำไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชีและมีการโอนเงินเข้าออกจำนวนหลายสิบล้านบาทด้วย ส่วนพี่สาวก็ถูกตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเป็นเหยื่อ และนับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตอย่างมาก"
น.ส.สุดสวาท กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้น ได้ชี้แจงกับกรมสรรพากรไปแล้วว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวกับอะไรกับเหตุการณ์ที่ถูกเรียกตัวไปสอบและรับทราบข้อกล่าวหา และหลังจากทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบเข้าไปพบเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน และไปตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารสาขาต่างๆ เพื่อขอทราบหลักฐานเกี่ยวกับการเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งทางธนาคารพร้อมที่จะดำเนินการให้ แต่ไม่รับปากว่าจะค้นหรือตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมทางการเงินย้อนหลังได้ครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อที่จะหาที่มาของเงินดังกล่าวได้หรือไม่
"ปัจจุบัน ดิฉันประกอบอาชีพอิสระ รายได้จากการดำรงชีพมาจากการรับจ้างรายวัน ส่วนประวัตการทำงานก่อนหน้านี้ ในช่วง ปี2555- 2556 เคยเป็นproduction ของบริษัท js91 จำกัด อัตราเงินเดือน 12,000/เดือน ปี2557-2558 เป็นเจ้าหน้าที่เขตการขาย ของบริษัท สปอร์ตเรโวลูชั่นสุขุมวิท47 อัตราเงินเดิน 20,000/เดือน ปี 2559- 2561 เป็นพนักงานกระจายเสียง สถานีวิทยุกระจายเสียงกรุงเทพ อัตราเงินเดือน 7,140/เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสมัครงานสอบราชการ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่ออนาคตครอบครัวและชีวิต ทั้งที่ ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับเรื่องที่ไม่ดีด้วยเลย จึงอยากขอความเมตตาและความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย"
เมื่อถามย้ำว่า ในการปรากฎชื่อเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชน เคยได้เงินค่าจ้างตอบแทนอะไรหรือไม่ น.ส.สุดสวาท ตอบว่า "ไม่เคยได้เงินอะไรเลย หลังจากที่ให้เอกสารไปแล้ว ก็ไม่เคยรู้เรื่องอะไรด้วยเลยว่าเขาเอาชื่อไปทำอะไรบ้าง ซึ่งในส่วนของพี่สาว ก็ไม่รู้เรื่องหรือเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยเหมือนกัน"
น.ส.สุดสวาท ยังระบุด้วยว่า ในระหว่างการเข้าชี้แจงข้อมูลกับกรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ ระบุว่า มีการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวทางการเงิน 2 บัญชี คือ เลขที่บัญชี 202-4-4400X-X เป็นสะสมทรัพย์ และ เลขที่ 202-3-0303X-X กระแสรายวัน โดยพบว่า บัญชีสะสมทรัพย์โอนเงินที่ได้รับมาโอนไปยังบัญชีกระแสรายวัน ส่วนบัญชีประเภทสะสมทรัพย์ไม่พบว่าเงินมาจากแหล่งอื่นใด จึงต้องพิสูจน์ จำนวนเงิน 84,234,993.50 บาท หากพิสูจน์ไม่ได้ ถือว่า ผิดตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัฐฎากร ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2555 และจากข้อมูลภาษี ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.3) ปี 2555 ที่ตนได้รับค่าเช่าจากบริษัทกรีนเทค คอมพิวเตอร์ มกราคม 2555 - มิถุนายน 2555 จำนวน 30,000 บาท หักภาษี ณ ที่จ่าย 1,500 บาท และเดือนมกราคม 2555 ถึง ธันวาคม 2555 จำนวน 90,000 บาท หักภาษี ณ ที่จ่าย 4,500 บาท ค่าเช่า ถือเป็นเงินได้ ตามมาตรา 40(5) แห่งประมวลรัฎษากร ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คิดรวมภาษีเงินได้บุคคลที่จะต้องชำระทั้งสิ้น 239,310,547.88 บาท (ดูตารางประกอบ)
ทั้งหมดนี่ คือ ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีบริษัทเอกชนขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกรมสรรพากรกลุ่มใหม่ 2 พันล้านบาท ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับแจ้งข้อมูลล่าสุด หลังจากเรื่องผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี
ส่วนผลการตรวจสอบคดีนี้ของกรมสรรพากรในท้ายที่สุดจะออกมาเป็นอย่างไร คงต้องติดตามดูกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:
ขบวนการคืนภาษีตั้งบริษัทใน 3 ปท.-สมุทรปราการ 9 ราย โผล่ 3 จว.ชายแดนอีสาน
เจาะทุจริตคืนภาษี 4.3 พันล. ถึงเปิดโปงกลุ่มใหม่ 2 พันล. หน้าที่ปกติ ‘สื่อ-อิศรา’
เชื่อคนสรรพากรเอี่ยว!ดีเอสไอขอ 2 เดือนออกหมายจับคดีคืนภาษี 2 พันล.
แกะรอย อธิบดี - ขรก.ซี 9 สรรพากร ยุคกรณีคืนภาษีกลุ่มใหม่ 2 พันล.?
พบบริษัทที่ 8! สมุทรปราการ ขบวนการคืนภาษี กรมสรรพากร 52.2 ล้าน
ขุมข่ายธุรกิจ 2 ตัวละคร บ.คืนภาษี 21 ล.กรมสรรพากร โยงใยเป็นพรวน 10 บริษัท
เปิดบริษัทที่ 7 สมุทรปราการ! ขบวนการคืนภาษี โยกที่ตั้ง 6 ครั้ง ฟัน 21 ล้าน
'ห้องเดียว'ตั้ง 3 บริษัทรวด!‘ตัวละคร’ ขบวนการคืนภาษี 2 พันล.โผล่กรุงเทพฯ
สรุปขบวนการคืนภาษีสมุทรปราการ 6 บริษัท 334 ล.โยง‘5 บ.ห้องเช่า’สมุทรสาคร
ที่แท้! กก.-หุ้นใหญ่ 2 บ.คืนภาษี 61 ล. อาชีพ ‘ขับรถส่งของ’-บ้านอยู่ชุมชนทุ่งครุ
2 บริษัท‘ไร้ตัวตน’ฟัน 61 ล.!เปิดแห่งที่ 6 สมุทรปราการ เครือข่ายคืนภาษี 2 พันล.
พบ บ.ไร้ตัวตน ฟันอีก 49 ล.!เครือข่ายคืนภาษี 2 พันล.ยึดสมุทรปราการ แห่งที่ 5
ตะลุย! พระประแดง ตามหา'ชวลิต' รับเงิน 137 ล. รวยจริง หรือ หุ่นเชิด คดี 2 พันล.
เป็นแค่ลูกจ้าง!หญิงสาว บ.รับเงินคืนภาษี53 ล.แจง'อิศรา'กลัวผิด ถูกเอาชื่อถือหุ้น
ขบวนการคืนภาษี! ใช้‘ห้องเดียว’ ตั้ง 2 บริษัท ฟันเละ 137 ล้าน
เปิดโฉม‘ห้องแถวเก่า’แห่งที่ 3 เครือข่าย‘เจ๊นก’ รับเงินคืนภาษีอีก 71 ล้าน
ลุยสาวเส้นทางเงิน บ.เจ๊นกกับพวก-อธิบดี'ดีเอสไอ'รับตั้งทีมสอบคดีโกงภาษี 2 พันล.
ที่แท้!เจ้าของร้านคอมฯห้างพันธุ์ทิพย์‘เจ๊นก’ โยงอีกอื้อ บ.รับเงินคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล.
เจอแล้ว!'เจ๊นก'เจ้าของ2บ.รับเงินคืนภาษี136ล. อยู่บ้านหลังโต-รถหรู พระราม2
ทาวน์เฮ้าส์ทุ่งครุบ้านหญิงสาว'หุ้นใหญ่'บ.ท็อปส์ไรเดอร์รับเงินคืนภาษี4.4ล.
เปิดตัว'เจ๊นก'เจ้าของ2บ.ห้องเช่า-ไร้ตัวตน ผู้รับเงินคืนภาษี136ล้าน
พบ‘ห้องเช่า-ไร้ตัวตน’เป็นที่ตั้ง2บริษัท รับเงินคืนภาษี136ล้าน
เปิดโปง‘ไฮ-เดฟ’บ.ห้องเช่า-ไร้ตัวตน ฟันเงินคืนภาษี จ.สมุทรปราการ74ล้าน
เปิดหนังสือ26ฉบับ'สรรพากร'ไล่บี้ตามหลัง5บ.ห้องเช่า หลังคืนภาษี122.4ล.
สรุปปมขบวนการ‘คืนภาษี’ 5บ.ห้องเช่า จ.สมุทรสาคร ฟัน122.4ล้าน
บริษัทที่5รับเงินคืนภาษี4.4ล.! หญิงสาว กก.-ใช้‘ห้องเช่า’เดียวกันอีกแล้ว
‘ห้องเช่า’บริษัทที่4ได้เงินคืนภาษี26ล้าน ใช้‘ที่ตั้ง-ตัวละคร’ชุดเดียวกัน
‘หญิงสาว’หุ้นใหญ่ บ.คืนภาษีคดี2พันล.รับเป็นแค่พนักงาน-อุบแจงขอปรึกษาแฟนก่อน
ตามไปดู! บ.ห้องแถว'หญิงสาว'แห่ง3โผล่รับเงินคืนภาษี27ล. -โยกที่ตั้ง3หน
เปิด บ.เซ้าท์เอเบิล'ห้องแถว'จ.สมุทรสาคร'ที่ตั้งเดียว'ริชเทคฯ คืนภาษี32ล.
ลงมือช่วงไล่เลี่ยก๊วน'วีรยุทธ'!'สรรพากร'ยันส่งDSIลุยบ.ขอคืนภาษีกลุ่มใหม่2พันล.
เปิดตัว บ.ริชเทคฯ ขอคืนภาษี33ล.ห้องแถวปิดร้าง จ.สมุทรสาคร โยง5บริษัท
พบอีกกลุ่ม!คืนภาษี2พันล.!โยงขุมข่าย40บ.-3บิ๊กขรก.‘สรรพากร’ส่งดีเอสไอสอบ
ยังมีอีก!ป.ป.ช.จ่อฟันเพิ่มขรก.-เอกชนพันคดีคืนภาษี-ยันหลักฐานโยงถึง
ยังมี‘นักการเมือง-ข้าราชการ’อีก16คน พัวพันคดีคืนภาษี4.3พันล.?