โดนสอบวินัยไม่ร้ายแรง! ผอ.ทรัพยากรน้ำอุบลฯ ใช้รถหลวงตีกอล์ฟ-เจ้าตัวแจงแค่แวะมุทิตาจิตเจ้านายเก่า
ปัญหาใช้รถหลวงภารกิจส่วนตัว ลามกรมทรัพยากรน้ำ! ผอ.สนง.ทรัพยากรน้ำภาค 11 อุบลราชธานี ถูกร้องเรียนขับไปตีกอล์ฟขอนแก่น โดนตั้งกก.สอบ ก่อนถูกชี้มูลสอบสวนผิดวินัยไม่ร้ายแรง เจ้าตัวแจงแค่แวะไปร่วมงานมุทิตาจิตเจ้านายเก่า ก่อนมาประชุมที่กรุงเทพฯ เผยเรื่องค้างอยู่ห้องอธิบดีมา 2 ปี ไม่เซ็นรับรอง
ปัญหาการนำรถยนต์ส่วนกลาง (รถหลวง) ไปใช้ภารกิจส่วนตัว ของข้าราชการ กำลังถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาจำคุก 5 ปี นางนุสรา แสนนาม ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเพชรบูรณ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตกรณีเอารถยนต์ส่วนกลางไปใช้ภารกิจส่วนตัว ปัจจุบันนางนุสรา ถูกย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดพิจิตร อยู่ระหว่างสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ขณะที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา (อ่านประกอบ: ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จำคุก 5 ปี ผอ.สถานพินิจฯ เพชรบูรณ์ เอารถหลวงใช้ส่วนตัว, อธิบดีกรมพินิจฯ แจงผอ.พิจิตรคดีใช้รถหลวงปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ เหตุถูกย้ายจากเพชรบูรณ์แล้ว)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ได้รับแจ้งข้อมูลว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้นำหนังสือรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริง ของกรมทรัพยากรน้ำ กรณีนายประสิทธิ์ หวานเสร็จ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 จังหวัดอุบลราชธานี ถูกร้องเรียนว่า ได้นำรถยนต์ราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ไปตีกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟแดนคูน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
โดยผลการสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่า นายประสิทธิ์ ได้นำรถยนต์ราชการ ที่ใช้ปฏิบัติงานอยู่ที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 จังหวัดอุบลราชธานี ไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟแดนคูน เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2559 เป็นเวลาราชการและงานดังกล่าวไม่ได้จัดขึ้นเพื่อการกุศล อันเป็นการนำรถยนต์ราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
พฤติการณ์ดังกล่าว จึงมีมูลความผิดทางวินัย ตามมาตรา 82(2) แห่งระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) นโยบายของรัฐบาล และปฏิบัติตามแบบแผนของทางราชการ จึงแต่งตั้งคณะกรรมกาสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 92 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ประกอบข้อ 8 แห่งกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 ตามผลการสอบสวนของคณะทำงานฯ
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง นายประสิทธิ์ หวานเสร็จ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยนายประสิทธิ์ หวานเสร็จ ยอมรับว่า ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงกรณีดังกล่าวจริง ปัจจุบันผลการสอบสวนยังค้างอยู่ที่อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ยังไม่ได้มีการเซ็นลงนามรับรองผลการสอบสวนเป็นทางการในขณะนี้
ส่วนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ราชการไป ตีกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟแดนคูน อ.เมือง จ.ขอนแก่น นั้น นายประสิทธิ์ ชี้แจงว่า ก่อนหน้าที่ตนจะย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 จังหวัดอุบลราชธานี เคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 จังหวัดขอนแก่น มาก่อน ซึ่งในวันที่ 29 ก.ย.2559 ที่เกิดเหตุ ตนได้ใช้รถยนต์ราชการเดินทางมาประชุมที่กรุงเทพฯ ตามคำสั่ง แต่เนื่องจากเป็นวันที่ผู้บริหารของ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 เกษียณอายุราชการมีการจัดงานมุทิตาจิต และมีผู้ใหญ่จากกรุงเทพฯ หลายคนมาเข้าร่วมด้วย ตนในฐานะลูกน้องเก่า ก็ได้รับแจ้งให้ไปเข้าร่วมงานด้วย จึงแวะไปเข้าร่วมงานแต่ใช้เวลาไม่นานนัก ก็ออกมาจากงานเพื่อเดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ ตามกำหนดการเดิม
"ผมแค่แวะไปร่วมงานมุทิตาจิต เจ้านายเก่าเท่านั้น อยู่ร่วมงานไม่นานด้วย ไปร่วมตีกอล์ฟได้ไม่กี่หลุมเลย ไปถามคนที่มาร่วมงานได้เลย ผู้ใหญ่ก็ไปกันหลายคน หลังจากนั้น ก็เดินทางต่อไปร่วมประชุมที่กรุงเทพฯต่อ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้ชี้แจงให้กับกรรมการสอบสวนไปแล้ว"
เมื่อถามว่า มีข้อมูลปรากฎว่า ถูกชี้ว่าทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง นายประสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมก็ทราบว่าเป็นอย่างนั้น เป็นการทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้ลงโทษว่ากล่าวตักเตือน และมีการสรุปผลการสอบสวนพร้อมเรื่องอื่นอีก 5-6 ข้อ เสนอผู้บริหารของกรมฯ ไปแล้ว ถูกตีกลับให้สอบเพิ่ม 2 ครั้ง แต่เรื่องก็ไปค้างอยู่ที่อธิบดียังไม่เซ็นรับรองรายงาน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าติดขัดปัญหาอะไร ทั้งที่ผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปี "
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยังนายสุวัจน์ เปี่ยมปัจจัย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ นายสุวัจน์ แจ้งว่า เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีใหม่ ได้ไม่กี่วัน จึงไม่ทราบเรื่องนี้เลย และขอให้ไปสอบถามกับประธานคณะกรรมการสอบสวนโดยตรงจะดีกว่า
"ผมเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีได้ไม่กี่วันเอง ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย จึงยังไม่อยากพูดอะไรมาก เพิ่งเข้ามาทำงาน ขอเวลาตั้งหลักก่อน วันหลังค่อยโทรมาคุยกันเรื่องน้ำดีกว่า" นายสุวัจน์ระบุ