ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จำคุก 5 ปี ผอ.สถานพินิจฯ เพชรบูรณ์ เอารถหลวงใช้ส่วนตัว
ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 6 จำคุก 5 ปี ผอ.สถานพินิจฯ จ.เพชรบูรณ์ เอารถยนต์หลวงใช้ส่วนตัว ไม่รอลงอาญา แฉสั่งคนขับใช้ 3 คันหมุนเวียนรับส่งที่พัก-ที่ทำงานทุกวัน แถมทำธุระเสาร์อาทิตย์ด้วย เจ้าตัวปฏิเสธอ้างซ้อนมอเตอร์ไซค์ พยานมัด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2561 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษา จำคุก 5 ปี นางนุสรา แสนนาม ผู้อำนวยการ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเพชรบูรณ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตกรณีเอารถยนต์ส่วนกลางไปใช้ภารกิจส่วนตัว (คดีหมายเลขแดงที่ อท.33/2561)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า คดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 6 โจทก์ นางนุสรา แสนนาม จำเลย
เนื้อหาของคำพิพากษาระบุว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเพชรบูรณ์ มีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตให้ใช้รถยนต์ส่วนกลางของสถานพินิจฯ จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานซึ่งมีหน้าที่จัดการหรือรักษารถยนต์ส่วนกลางซึ่งเป็นทรัพย์ของสถานพินิจฯ การที่จำเลยมีคำสั่งให้พนักงานขับรถใช้รถยนต์ส่วนกลางรับส่งจำเลยระหว่างที่พักกับที่ทำงานเป็นประจำ และมีคำสั่งให้พนักงานขับรถนำรถยนต์ส่วนกลางพาจำเลยไปทำธุระส่วนตัวในวันเสาร์อาทิตย์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเพชรบูรณ์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และยังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่การกระทำของจำเลยเมื่อเป็นความผิดตามบทเฉพาะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 แล้วจึงไม่จำเป็นต้องปรับบทประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าว คดีนี้มีผู้กล่าวโทษนางนุสราต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ต่อมา ป.ป.ท. ส่งเรื่องให้เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 7 ก.ย.2559 เลขาธิการ ป.ป.ช.ส่งส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามมาตรา 89/2 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และแจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยเมื่อ 17 มิ.ย.2560 จำเลยให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน
จำเลยเคยเป็นผู้อำนวยการสถานพินิจฯจังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อมาย้ายเป็น ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จังหวัดอุทัยธานี ต่อสู้คดีว่าไม่ได้กระทำความผิดอ้างไม่ได้เป็นผู้สั่งพนักงานขับรถมารับ และเดินทางโดยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แต่มีพยาน 3 คนให้การมัดว่าจำเลยใช้รถยนต์ส่วนกลางของสำนักงานที่มีอยู่ 3 คัน สลับหมุนเวียนรับส่งระหว่างที่พักซึ่งเป็นอพาร์ทเมนท์และที่ทำงานเป็นประจำทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น และช่วงเสาร์อาทิตย์ ล่าสุด นางนุสราดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จังหวัดพิจิตร