กกต.เก็บข้อมูล‘พลังดูด’ ส.ส.หากพบจูงใจด้วยทรัพย์สินผิด กม.-โทษสูงสุดยุบพรรค
กกต. ประชุมร่วม มท. ปมสรรหา ส.ว.ล็อตแรก แจ้งผู้ว่าฯทุกจังหวัดคัดคนเก่ง-เป็นกลาง-ไม่เป็นเครือญาตินักการเมืองมาดำเนินการ สั่งหาข่าวห้ามมีการฮั้ว เร่งพีอาร์ ปชช.เป็นหูเป็นตาสอดส่องทุจริต – รองเลขาฯเผยสำคัญ เหตุมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ สั่งตรวจเข้ม-เก็บข้อมูลละเอียดพวก ‘พลังดูด’ ส.ส. หากจูงใจเป็นทรัพย์สินถือว่าผิดกฎหมาย โทษสูงสุดขั้นยุบพรรค
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2561 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงมหาดไทย ประชุมสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการได้มาซึ่ง ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมีนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการ กกต. และข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วม
นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กล่าวมอบนโยบายเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบทบาทหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยตอนหนึ่งว่า ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกระดับถือว่ามีความสำคัญกับการคัดเลือกให้ได้มาซึ่ง ส.ว. ที่คุณภาพ จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดคัดคนเก่งที่เป็นกลาง ไม่เป็นเครือญาตินักการเมืองเข้ามาทำงานในการคัดเลือก ส.ว. ทั้งระดับอำเภอ และจังหวัด ทั้งนี้ กกต. ได้กำชับให้มีการหาข่าว โดยเฉพาะเรื่องการรับสมัครว่าผู้สมัครจะต้องไม่มีการฮั้วกันมาสมัคร และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่คิดว่าการเลือก ส.ว. ไม่เกี่ยวกับตัวเองนั้น ให้มีความสนใจเป็นหูเป็นตา ไม่ให้การเลือก ส.ว. มีการทุจริต
นายธวัชชัย กล่าวว่า ส่วนการเลือกระดับจังหวัดที่ กกต. วางปฏิทินไว้ในช่วง 30 ธ.ค. 2561 อาจเป็นปัญหากับกระทรวงมหาดไทยที่มีภารกิจเรื่อง 7 วันอันตราย กกต. จะไปหารือให้มีการปรับแผนการทำงานให้มีความเหมาะสม ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส. อยากให้มีการใช้เครือข่ายของกระทรวงมหาดไทย รณรงค์ให้ประชาชนใช้สิทธิให้มาก ให้จังหวัดประสานกับกระทรวงแรงงาน อำนวยความสะดวกการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตสำหรับผู้ใช้แรงงาน และเน้นย้ำให้ข้าราชการวางตัวให้เป็นกลาง กกต. จะทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีให้แจ้งเวียนคำสั่งขอให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัดด้วย
“การเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ จำเป็นจะต้องมีการบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชน ทำเป็นเครือข่าย เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียงที่จะทำให้เกิดวงจรอุบาทว์กลับมาอีก จึงต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม” นายธวัชชัย กล่าว
ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น นายธวัชชัย กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ธ.ค. 2561 ดังนั้นหลังการเลือกตั้ง ส.ส. ไปแล้ว 90 วัน จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยระบุไว้ และเมื่อใกล้ช่วงเวลาดังกล่าว กกต. จะหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมานายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการ กกต. กล่าวชี้แจงรายละเอียดการเตรียมความพร้อมการได้มาซึ่ง ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส. ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศว่า ให้ระวังเรื่องการจราจร ไม่ให้เกิดการติดขัด เพื่อมิให้เป็นเงื่อนไขให้ผู้สมัครรับการสรรหา ส.ว. มาร้องภายหลังว่าไม่สามารถมาลงคะแนนได้ทัน โดยเฉพาะการมารายงานตัวไม่ทันเวลากำหนดจะถูกตัดสิทธิ์ทันที ส่วนสถานที่ต้องบรรจุผู้เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด ขอให้พิจารณาโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ นอกจากนี้ในระหว่างลงคะแนนอย่าให้ผู้สมัครกลับก่อน ต้องรอให้การนับคะแนนเสร็จสิ้น เพราะหากพบว่า มีผู้สมัครได้คะแนนเกิน 0 คะแนน ร้อยละ 10 ของจำนวนผู้สมัคร แสดงว่ามีการฮั้ว ต้องมีการลงคะแนนใหม่ ขณะเดียวกันการส่งผู้สมัครขององค์กรต่าง ๆ จะต้องส่งผู้สมัครที่เกี่ยวข้องกับองค์กรวิชาชีพนั้น ๆ และส่งได้อำเภอละ 1 คน ผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อในนามองค์กรแล้ว จะไม่สามารถลงสมัครในนามอิสระ หรือไปลงอำเภออื่น ๆ ได้
“สำหรับ ส.ว. 250 คน ถือว่าสำคัญ เพราะไม่เพียงเป็นผู้พิจารณากฎหมาย แต่ยังเป็นผู้มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นในการสรรหาต้องดูแลให้ดี เพราะไม่รู้ว่า ผู้รับการสรรหา ส.ว. คนดังกล่าวจะได้เป็น ส.ว. หรือไม่ หากดูแลไม่ดีแล้วเขาได้เป็น ส.ว. อาจจะมีผลกระทบถึงเรา” นายณัฏฐ์ กล่าว
รองเลขาธิการคณะกรรมการ กกต. กล่าวอีกว่า กฎหมายกำหนดให้ กกต. ต้องเก็บข้อมูลที่เข้าข่ายว่าจะกระทำผิดไว้ทั้งหมด หากอนาคตมีคนร้อง จะไปเอาข้อมูลดังกล่าวมาสืบสวน ไต่สวนตามกระบวนการของ กกต. จากนั้นเสนอให้ที่ประชุม กกต. พิจารณา หากเห็นว่าผิดต้องส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา โดยศาลฎีกาจะกำหนดว่าให้แผนกใดเป็นผู้พิจารณา อาจเป็นแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้ เรื่องการดูด ส.ส. ตามกฎหมายพรรคการเมือง ระบุว่า ไม่ให้มีการเสนอให้ทรัพย์สินหรือเงินทองเพื่อแลกกับการให้มาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หากมีการดำเนินการถือว่าเป็นโทษ และหากเป็นการดำเนินการของกรรมการบริหาร มีโทษถึงขั้นยุบพรรค
“ที่พูดไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของการดูด ส.ส. ที่ขณะนี้กำลังเป็นข่าว หากพรรคไหนมีจำนวน ส.ส. มาก จะมีสิทธิ์ในการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ กกต. เก็บข้อมูลการกระทำผิดไว้ทั้งหมด หากมีการร้องเรียน กกต. จะต้องตามล้างตามเช็ด” รองเลขาธิการคณะกรรมการ กกต. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระบวนการสรรหา ส.ว. ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2561 บัญญัติให้ ส.ว. ล็อตแรก ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นคนเลือกด้วยจำนวน 250 ราย โดยในจำนวนนี้มีบุคคลที่เป็นโดยตำแหน่งรวม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และปลัดกระทรวงกลาโหม
ส่วนการสรรหา ให้ คสช. แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. มีจำนวนไม่น้อยกว่า 9 รายแต่ไม่เกิน 12 ราย หลังจากนั้นแบ่งการคัดเลือกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการเลือกตั้งทางอ้อม ให้กลุ่มบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านกฎหมาย ด้านการปฏิรูปประเทศ ด้านสาธารณสุข หรือเปิดรับสมัครจากบุคคลภายนอก เป็นต้น สรรหากันเองทั้งในระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ให้ได้รวม 200 รายชื่อ หลังจากนั้นรวบรวมรายชื่อให้ คสช. โดยในกลุ่มนี้ต้องสรรหาให้ครบถ้วน 50 วันก่อนการเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนกลุ่มสอง ดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง ส.ว. และมีความสามารถในการปฏิรูปประเทศ รวม 400 รายชื่อ ให้ คสช.
หลังจาก คสช. ได้รับรายชื่อทั้ง 2 กลุ่มแล้ว จะคัดเลือกกลุ่มแรก 200 รายชื่อให้เหลือ 50 รายชื่อ ตามมาตรา 98 แห่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ส่วนกลุ่มสองจะคัดเลือกให้เหลือ 194 รายชื่อ โดยจะใส่อีก 6 รายชื่อที่เป็นโดยตำแหน่งข้างต้น รวมเป็น 200 รายชื่อ รวมทั้งสิ้น 250 รายชื่อ ก่อนนำทูลเกล้าฯต่อไป โดยกระบวนการทั้งหมดในการสรรหา ส.ว. นี้ ต้องทำให้แล้วเสร็จก่อนทูลเกล้าฯภายใน 3 วันหลังการเลือกตั้ง ส.ส. แล้วเสร็จ โดย ส.ว. ล็อตแรกนี้จะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี
อ่านประกอบ :
ตามไปดู กม.ลูก ส.ส.-ส.ว.เลือกตั้งเมื่อไหร่ วุฒิสมาชิกสรรหายังไง-กองทัพจอง 6 ที่
มีผลแล้ว!กม.ลูก ส.ส.-ส.ว. ขีดเส้น กกต. 150 วันกำหนด ลต.-คสช. ตั้ง กก.สรรหา ส.ว.
งดไพรมารีโหวต!คสช.คลายล็อคพรรคการเมือง-ห้ามใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์หาเสียง
กกต.ประกาศแล้วจำนวน ส.ส. 77 จังหวัด - กรุงเทพฯ 30 โคราช 14 เชียงใหม่ 9 คน