ต้องรักษาปย.รัฐให้มากที่สุด! สตง.ยันตามตรวจสอบประกวดราคาพาสปอร์ต 1.2 หมื่นล. ต่อเนื่อง

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 30 สิงหาคม 2561 เวลา 09:14 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

ผู้ว่าฯ สตง. ยันติดตามตรวจสอบประกวดราคาพาสปอร์ต15ล้านเล่ม วงเงิน 1.2 หมื่นล้านต่อเนื่อง หลัง ก.ต่างประเทศ เริ่มต้นขั้นตอนใหม่ เผยเคยทำหนังสือแสดงความห่วงใย ช่วงเกิดปัญหารอยต่อเปลี่ยนผ่านระยะที่ 2 ไป 3 ย้ำต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกประชาชน แต่ต้องรักษาประโยชน์ภาครัฐให้ได้มากที่สุดด้วย

picssaaaasasasa30 8 18

สืบเนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศ ประกาศยกเลิกการประกวดราคาจ้างเอกชนผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 จำนวน 15 ล้านเล่ม หรือ ภายในระยะเวลา 7 ปีแล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน ราคากลาง 12,438,750,000 บาท หรือเล่มละ 829.25 บาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) หลังจากเปิดผลประกวดราคาในวันที่ 17 ส.ค.2561 ที่ผ่านมา กิจการร่วมค้า WIN ( บริษัท ศิริวัฒนาซีเคียวริตี้พริ้นท์, บริษัท MSCS สิทธิผล จำกัด และ เดอร์มาล็อก โอเดนติฟิเคชั่น ซิสเต็มส์ จีเอ็มบีเอช (เยอรมัน) ยื่นข้อเสนอถูกต้องตามเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์และผ่านการตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆเพียงรายเดียวนั้น (อ่านประกอบ : ที่แท้กลุ่ม WIN ยื่นข้อเสนอถูกต้องรายเดียว ก่อนล้มประกวดราคาพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม)

นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า สตง.ยังคงติดตามตรวจสอบโครงการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 จำนวน 15 ล้านเล่ม ของกระทรวงการต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งถึงกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำเนินงานโครงการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 โดยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็จะต้องรักษาประโยชน์ภาครัฐให้ได้มากที่สุดด้วย

"สตง.ยังคงติดตามตรวจสอบโครงการหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโครงการใหญ่ที่มีความสำคัญต่อประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็มีการติดตามตรวจสอบข้อมูลมาตลอด รวมไปการดำเนินงานในส่วนการทำสัญญาว่าจ้างเอกชนรายเดิม เข้ามารับจ้างผลิตเพิ่มด้วยวิธีการจ้างเพิ่ม(Repeat Order) ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านโครงการจากระยะที่ 2 ไประยะที่3 ด้วย เพื่อช่วยให้การดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ได้มากที่สุด" ผู้ว่าฯ สตง.ระบุ

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า การทำหนังสือแจ้งถึงกระทรวงการต่างประเทศดังกล่าว ของสตง. เกิดขึ้นในช่วงเดือนเม.ย.2560 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการเปลี่ยนผ่านโครงการจ้างผลิตหนังสือเดินทางจากระยะที่ 2 ไปสู่ระยะที่ 3 ที่กระทรวงการต่างประเทศ ใช้สิทธิตามเงื่อนไขข้อ 26 ในสัญญาว่าจ้างงานโครงการระยะที่ 2 ให้ บริษัท จันวาณิชย์ จำกัด ผู้รับจ้างดำเนินการผลิตหนังสือเดินทางเพิ่มเติมในราคาเล่มละ 400 บาท ก่อนจะมีการทำสัญญาจ้างเพิ่มเติมในเวลาต่อมาด้วยวิธีการจ้างเพิ่ม (Repeat Order) จำนวน 3,500,000 เล่ม หรือภายในระยะเวลา 18 เดือน วงเงิน 2,767,555,000 บาท ซึ่งมีการลงนามในสัญญาว่าจ้างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2560 ที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยตกเล่มละ 790.73 บาท โดย สตง. ระบุว่ามีความห่วงใยต่อการดำเนินงานโครงการจัดทำหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างมาก ขอให้ดำเนินงานโครงการโดยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศคำสั่งหรือมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็จะต้องเป็นการรักษาประโยชน์ภาครัฐให้ได้มากที่สุดด้วย

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ขั้นตอนการประกวดราคาจ้างผลิตหนังสือเดินทางระยะที่ 3 จำนวน 15 ล้านเล่มครั้งใหม่ จะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณารายละเอียดเริ่มต้นประกวดราคาใหม่ ทั้งการแต่งตั้งคณะกรรมการทีโออาร์ คณะกรรมการจัดซื้อ คณะกรรมการกำหนดราคา แต่ระยะเวลาในการประกวดราคาตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนสิ้นสุด จะต้องไม่น้อยกว่าของเดิมหรือประมาณ 18 เดือน เพราะถ้าไปกำหนดมากหรือน้อยกว่าของเดิม ก็จะถูกท้วงติงได้ และไม่ได้มีการตัดสิทธิการยื่นเสนอราคาของเอกชนเดิมเข้าร่วม ส่วนในช่วงระหว่างกระบวนการจัดประกวดราคาผลิตหนังสือเดินทาง 15 ล้านเล่มครั้งใหม่ จะมีการใช้วิธีการว่าจ้างงานผลิตหนังสือเดินทางเพิ่มเติม หรือที่เรียกว่าRepeat Order จากเอกชนคู่สัญญาเป็นครั้งที่ 2 หรือไม่ ยังบอกอะไรไม่ได้รอให้มีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายก่อน (อ่านประกอบ : ไม่เปิดชื่อบ.ยื่นข้อเสนอถูกต้อง!อธิบดีกงสุล ยันยกเลิกประกวดราคาพาสปอร์ต15ล้านเล่ม ตามกม.)