อดีตผู้ว่าฯสตง.ยันเคยท้วงกต.จัดซื้อพาสปอร์ตช่วงเปลี่ยนผ่าน2.7พันล.-แต่ผู้ใหญ่ไฟเขียวทำได้
'พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส' อดีตผู้ว่าฯ สตง. เผยข้อสรุปผลการหารือร่วมแก้ปัญหาก.ต่างประเทศ ขอทำ Repeat Order ว่าจ้างผลิตหนังสือเดินทางช่วงเปลี่ยนผ่าน 2.7 พันล. ยันเคยทักท้วงแล้วต้องจัดประกวดราคาใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการผูกขาดเอกชน แต่กต.อ้างเหตุผลมีความจำเป็นขอทำครั้งนี้ไปก่อน-ผู้ใหญ่ในรบ.ไฟเขียวด้วย
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อเท็จจริงกรณี กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ทำสัญญาว่าจ้างให้บริษัท จันวาณิชย์ จำกัด เป็นผู้รับจ้างดำเนินการผลิตเล่มหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเปลี่ยนผ่าน วงเงิน 2,767,555,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ 655/2560 ภายใต้ชื่อโครงการจัดจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม Repeat Order ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากโครงการจ้างผลิตและให้บริหารจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 2 ไปสู่ระยะที่ 3 เป็นจำนวน 3,500,000 เล่ม หรือภายในระยะเวลา 18 เดือน ซึ่งมีการลงนามในสัญญาว่าจ้างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2560 ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยตกเล่มละ 790.73 บาท (กำหนดราคากลางอยู่ที่ 2,902,375,000 บาท หรือ 829.25 บาท ต่อเล่ม)
ขณะที่จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า ในช่วงเดือนก.พ.2560 สำนักงานอัยการสูงสุด เคยทำหนังสือแจ้งตอบกลับกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับเรื่อง ร่างสัญญาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ระหว่างสิ้นสุดสัญญาระยะที่ 2 กับช่วงเริ่มต้นสัญญาระยะที่ 3 ที่กระทรวงการต่างประเทศ ส่งร่างให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ โดยสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ตามสัญญาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 26 กระทรวงต่างประเทศมีสิทธิให้ผู้รับจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้อีก 180 วันหลังจากสิ้นสุดสัญญาในราคาค่าจ้างเล่มละ 400 บาท ดังนั้น หากสามารถจัดซื้อจัดจ้างผู้รับจ้างรายใหม่และจัดการให้ผู้รับจ้างรายใหม่เริ่มงานผลิตได้ภายในเวลาดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศ ก็ควรใช้สิทธิตามข้อ 26 โดยไม่ควรทำสัญญาจ้างใหม่ ตามร่างสัญญาที่ส่งมาให้ตรวจนี้ แต่ถ้าไม่สามารถดำเนินการจัดจ้างผู้รับจ้างรายใหม่ และจัดการให้ผู้รับจ้างรายใหม่เริ่มผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ภายใน 180 วัน ก็สามารถทำสัญญาใหม่ในลักษณะ Repeat Order ตามร่างสัญญาที่ส่งมาได้
นอกจากนี้ การดำเนินงานโครงการว่าจ้างแบบ Repeat Order เคยถูกทักท้วงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จนต้องมีการนำเสนอเรื่องให้ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมไปหารือร่วมกันทั้ง สตง. กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับ สตง.แก้ปัญหาเพื่อให้เป็นไปอย่างเหมาะสมโดยไม่ยึดเพียงกฎ กติกา หรือระเบียบอย่างเดียว (อ่านประกอบ : ขมวดปม กต.ซื้อพาสปอร์ตช่วงเปลี่ยนผ่าน2.7พันล. ฝ่าฝืนRepeat Order -บิ๊กขรก.ชิงลาออก?)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงผลการหารือร่วมกันระหว่าง กระทรวงการต่างประเทศ และสตง. ที่มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
โดยนายพิศิษฐ์ กล่าวว่า กรณีการว่าจ้างพิมพ์หนังสือเดินทางในช่วงเปลี่ยนผ่านดังกล่าว มีปัญหาเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สัญญาการว่าจ้างผลิตหนังสือเดินทางในระยะที่ 2 จะสิ้นสุดลง แต่กระทรวงการต่างประเทศ แทนที่จะประกาศประกวดราคาใหม่ตามขั้นตอน กลับอ้างว่าจะขอทำวิธี Repeat Order หรือการจ้างเพิ่ม แต่ สตง.ก็แสดงความเห็นคัดค้านไป เพราะเห็นว่าการว่าจ้างเพิ่มนั้นไม่ใช่แบบที่จะดำเนินการได้ และจะกลายเป็นว่าการดำเนินงานโครงการนี้ มีลักษณะผูกขาดการว่าจ้างงานกับเอกชนรายใดรายหนึ่งเท่านั้น
"กรณีการจ้างเพิ่มจะต้องเป็นแบบเช่นการสร้างบ้าน แล้วบ้านหลังนั้นได้รับการต่อเติม แบบนี้ถึงจะจ้างเพิ่มได้ แต่ถ้ากรณีสัญญาใกล้จะสิ้นสุด แบบนี้ต้องมีการประกวดราคาและแข่งขันกันตามปกติ ซึ่งในเวลาต่อมา กระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้รายงานเรื่องไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบ ก่อนจะมีการมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเข้ามารับฟังปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้น เบื้องต้น ผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็แจ้งว่า ถ้ามีความจำเป็นต้องจ้างเพิ่มเติมก็ทำไปก่อน เพราะมันเป็นเรื่องที่สุดวิสัยก็เลยมีการจ้างเพิ่มเติมกันไป โดยมีการเซ็นสัญญาการจ้างเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2560 " นายพิศิษฐ์ระบุ
เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศ ให้เหตุผลอะไรที่ต้องดำเนินการแบบนั้น นายพิศิษฐ์กล่าวว่า " ทางกระทรวงการต่างประเทศอ้างว่าถ้าหากไม่ดำเนินการจ้างเพิ่มเติมบริษัทก็จะทำตามสัญญาผลิตหนังสือเดินทางที่ได้เคยทำไว้กับกระทรวงการต่างประเทศไม่ทัน ส่วนเหตุผลที่ทางบริษัทที่ทำหนังสือเดินทางได้อ้างก็คือว่าช่วงเวลาที่ผ่านมามีปัญหาเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก็เลยทำให้ทำหนังสือเดินทางไม่ทันตามสัญญา ก็เลยมีการจ้างเพิ่มเติมไปตามที่ปรากฎเป็นข่าว"
เมื่อถามว่า ข้อสรุปผลการหารือ คือให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินต่อไปได้ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า "ทางนั้นเขาแจ้งว่า ขอทำครั้งนี้ไปก่อน เพราะมีปัญหาไม่ทันจริงๆ แต่ทางสตง.เราก็ยังยืนยันว่า โดยหลักการมันไม่ถูกต้อง ควรจะมีการประกวดราคาว่าจ้างใหม่ นอกจากนี้ ยังมีความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด เกี่ยวกับสัญญาว่าจ้างเดิมข้อ 26 อยู่ก็ควรจะทำแบบนั้นไปก่อน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมไม่ขอแสดงความเห็น"
เมื่อถามว่า โดยหลักการวิธีว่าจ้างแบบ Repeat Order ต้องทำก่อนที่สัญญาเดิมจะหมดใช่หรือไม่ อดีตผู้ว่าฯ สตง. ระบุว่า "ต้องเป็นแบบนั้น"
อ่านประกอบ:
ขมวดปม กต.ซื้อพาสปอร์ตช่วงเปลี่ยนผ่าน2.7พันล. ฝ่าฝืนRepeat Order -บิ๊กขรก.ชิงลาออก?
อสส.ทักเล่มละ400บ.แต่ทำสัญญา790 บ.! เบื้องหลังกต.ซื้อพาสปอร์ตช่วงเปลี่ยนผ่าน 2.7 พันล.