เปิดบันทึก องค์การค้า สกสค.แจ้งอัยการฟ้อง หจก.โคราช ตีเช็คเด้ง-ผิดสัญญาขายหนังสือ 536 ล.
"...เงื่อนไขการชำระเงินแบ่งเป็น 6 งวด ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดการชำระเงินตามงวดที่ 3 แล้ว หจก.ฯ ได้ชำระเงินค่าสินค้าจำนวน 200 ล้านบาท เป็นเช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายภคภพ ตัณฑเศรณี เป็นผู้สั่งจ่ายสินค้า เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระ องค์การค้า ฯ ได้นำเช็คไปเบิกจ่ายตามวิธีการของธนาคารแล้ว แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ จึงถือว่าผิดนัดชำระหนี้ในงวดที่ 3 หลังจากนั้น หจก.ฯ ได้ชำระเงินค่าสินค้ามาบางส่วน แต่ไม่เป็นไปตามสัญญา..."
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับปัญหาการทำสัญญาซื้อขายหนังสือ ระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา วงเงินรวมตามสัญญากว่า 1,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2558 -2559 ซึ่งปัจจุบัน องค์การค้าของ สกสค. อยู่ระหว่างฟ้องร้องคดีแพ่ง หจก.ฯ หลังมีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินตามสัญญา ในที่งวด 3 จำนวน 200 ล้านบาท เป็นเช็คเงินสดที่ไม่สามารถขึ้นเงินได้ (ตกลงจ่ายเงินจำนวน 6 งวด) และหลังจากผ่านพ้นการจ่ายเงินงวด 4 ไปแล้ว หจก.ฯ ก็ไม่ได้ติดต่อกับองค์การค้าของ สกสค. อีก ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ในการซื้อขายกับองค์การค้า สกสค. (อ่านประกอบ : โชว์รายได้ 925 ล.! เจาะงบดุล หจก.โคราชฯ ก่อนตีเช็คเด้ง200ล. หักกลบลบค่ากระดาษเจ้าหนี้สกสค.?, เปิดหน้าเช็คเด้ง200 ล.! คนในสกสค.ยันหจก.ฯ ไม่เจตนาผิดสัญญาพันล. แค่หักกลบลบหนี้ค่ากระดาษ)
ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนฉายา รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า การทำสัญญาซื้อขายหนังสือ ระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา ในช่วงปี 2558-2559 มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดย หจก.ฯได้ทำสัญญาซื้อหนังสือเรียน กับ องค์การค้า ของ สกสค. ตกลงเงื่อนไขการจ่ายเงินให้กับองค์การค้า ของ สกสค. จำนวน 6 งวด นับตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2559 จนถึงวันที่ 18 มิ.ย. 2559 รวมวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ หจก.ฯ ได้ขอผ่อนผันการจ่ายเงินในแต่ละงวด โดยทยอยจ่ายเงินเป็นครั้งสุดท้ายในงวดที่ 4 เมื่อวันที่19 ส.ค. 2559 และหลังจากวันนั้น องค์การค้า ของ สกสค.ฯ ก็ไม่สามารถติดต่อกับทาง หจก.ฯ ได้อีก ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นความเสียหายแล้ว เพราะหจก.ฯไม่ได้จ่ายเงิน 6 งวดตามที่ได้ทำสัญญาเอาไว้ องค์การค้า ของสกสค.จึงได้ยกเลิกสัญญากับ หจก.ฯทั้งหมด และตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้ามาทำสัญญาขายหนังสือกับองค์การค้า ของ สกสค. อีก
"ถ้านับจำนวนเงิน 4 งวด ที่ หจก.ฯได้จ่ายมาให้กับ องค์การค้า ของ สกสค. จะคิดเป็นจำนวนเงินมูลค่ารวมทั้งสิ้น 663,727,213.11 ล้านบาท แต่มีปัญหาเกิดขึ้นในการจ่ายเงินงวดที่ 3 เพราะหลังจากที่ องค์การค้า ของ สกสค. ได้เอาเช็คในงวดที่ 3 ซึ่งมีมูลค่า 200 ล้านบาทไปขึ้นเงินกับทางธนาคาร ปรากฏว่าไม่มีการนำเงินมาฝากแต่อย่างใด จึงทำให้ยอดเงินที่ได้รับมาที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ 463,727,213.11 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ใช่ 663,727,213.11 ล้านบาท ขณะที่เงินค่าหนังสือที่เหลือจ่ายตามสัญญาทั้งหมด 1,000 ล้านบาท อีก 536,272,787 บาท ก็ไม่ได้รับ จึงถือเป็นความเสียหาย ซึ่งปัจจุบันทางองค์การค้า สกสค.ได้ฟ้องร้องต่อศาลแพ่งให้ดำเนินการเรียกค่าเสียหายกับ หจก.ฯและผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว"
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวใน องค์การค้า สกสค. ว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ ในช่วงปลายเดือนม.ค.2561 ที่ผ่านมา องค์การค้า สกสค. โดยนายกิตติศักดิ์ รัตนฉายา รองผู้อำนวยการ องค์การค้าฯ ได้จัดทำบันทึกข้อความ ลงวันที่ 29 ม.ค. 2561 ส่งเรื่องไปยังสำนักอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อขอให้ฟ้องคดีแพ่งต่อ หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา เป็นทางการ
โดยในบันทึกข้อความว่า ตามที่ หจก.ฯทำสัญญาซื้อขายหนังสือกับองค์การค้า ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขการชำระเงินตามสัญญาดังนี้
ข้อ 6.3 เงื่อนไขการชำระเงินแบ่งเป็น 6 งวด ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดการชำระเงินตามงวดที่ 3 แล้ว หจก.ฯ ได้ชำระเงินค่าสินค้าจำนวน 200 ล้านบาท เป็นเช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายภคภพ ตัณฑเศรณี เป็นผู้สั่งจ่ายสินค้า เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระ องค์การค้า ฯ ได้นำเช็คไปเบิกจ่ายตามวิธีการของธนาคารแล้ว แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ จึงถือว่าผิดนัดชำระหนี้ในงวดที่ 3
หลังจากนั้น หจก.ฯ ได้ชำระเงินค่าสินค้ามาบางส่วน แต่ไม่เป็นไปตามสัญญา องค์การค้าฯ จึงได้ติดตามทวงถามให้ หจกฯ.ชำระหนี้ในส่วนที่เหลือตามสัญญาหลายครั้ง แต่ หจกฯ กลับเพิกเฉยไม่ยอมชำระค่าสินค้าดังกล่าว ทำให้องค์การค้าฯได้รับความเสียหายนอกจากจำนวนเงิน 200 ล้านบาทที่ค้างชำระตามเช็คแล้ว ยังมีหนี้ค้างชำระจากยอดซื้อ 1,000 ล้านบาท และได้รับสินค้าไปจากองค์การค้าฯ เรียบร้อยแล้ว หจก.ฯยังคงมีหนี้ค้างชำระอยู่อีก เป็นจำนวนเงิน 336,272,786.89 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 536,272,786.89 บาท
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารองค์การค้ามีมติให้สำนักงานคดีแพ่ง สำนักงาน อสส.เป็นผู้ฟ้องคดีให้กับองค์การค้า ฯ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้
1.เห็นชอบให้องค์การค้ามอบคดีให้สำนักงานคดีแพ่ง สำนักงาน อสส.เป็นผู้ฟ้องคดี
2.พิจารณาลงนามหนังสือถึงอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแพ่ง สำนักงาน อสส.
3. ลงนามในใบแต่งตั้งทนายความจำนวน 2 ชุด
4.แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องจำนวน 2 ชุด และ 5. เมื่อดำเนินการตามข้อ 1-4 แล้ว โปรดมอบเรื่องคืนให้ฝ่ายกฎหมายและวินัย องค์การค้าฯ ดำเนินการต่อไป (ดูเอกสารประกอบ)
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับกรณีนี้ นอกเหนือจากประเด็นการยื่นเรื่องฟ้องร้องคดีทางแพ่ง ขององค์การค้า ของสกสค. ดังกล่าวแล้ว
ยังมีประเด็นการสอบสวนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ และผู้บริหาร องค์การค้า ของสกสค. ด้วย โดยกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบพบข้อมูลเบื้องต้น ว่า การทำสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่าง หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา กับ องค์การค้าของ สกสค. พบว่ามีปัญหาใน 2 ประเด็นหลัก คือ
1. ในการจ่ายเงินค่าสินค้างงวด 3 วงเงิน 200 ล้านบาท ที่ หจก.ฯ สั่งจ่ายเงินค่าสินค้าเป็นเช็คธนาคารพาณิชย์ ไม่มีการนำเช็คฝากธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินภายในกำหนด แต่เจ้าหน้าที่ องค์การค้าของ สกสค. กลับออกใบเสร็จรับเงินให้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ได้ชำระค่าสินค้าครบถ้วนเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าได้
ทั้งที่ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงานการเงิน และบัญชี พ.ศ.2559 องค์การค้าของ สกสค. กำหนดให้จะต้องมีการชำระค่าสินค้าให้ครบถ้วนก่อนจึงจะส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อได้
2. ผู้บริหารระดับสูงองค์การค้า ของ สกสค.ในขณะนั้น มีความพยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร องค์การค้าของ สกสค. โดยอ้างต่อที่ประชุมว่า เหตุที่ยังไม่ได้มีการนำเช็คเข้าธนาคาร เพราะต้องการจะนำเช็คไปชำระหนี้ค่ากระดาษที่ยังค้างชำระกับเจ้าหนี้รายอื่น แต่ที่ประชุมเห็นว่า ควรนำเช็คเข้าบัญชีองค์การค้าก่อน เมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้แล้วจึงค่อยนำเงินไปชำระค่ากระดาษ
แต่ผู้บริหาร สกสค.ในขณะนั้น เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามมติดังกล่าว แสดงเจตนาให้เห็นว่าได้ร่วมกันกระทำผิดและช่วยเหลือปกปิดมิให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ขณะที่เช็คที่รับมา ไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงเป็นเหตุทำให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท และต่อมา ผู้บริหารระดับสูง สกสค. รายนี้ ยังได้ยินยอมให้ หจก.คู่สัญญา นำเช็คฉบับใหม่ มาเปลี่ยนกับเช็คฉบับเก่า เพื่อให้ระยะเวลาที่ต้องชำระเงินตามเช็คงวดที่ 3 จำนวน 200 ล้านบาท ออกไปเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ก่อนที่ในเวลาต่อมาเช็คทั้งใบใหม่ใบเก่า ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จนเป็นเหตุให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
ปัจจุบันเรื่องอยู่ระหว่างขั้นตอนการไต่สวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตามดูกันต่อไป
อ่านประกอบ :
ฝ่ายกม.สกสค. ยันก่อนตีเช็คเด้ง200ล.หจก.โคราช ต่อรองให้บ.ซีเอเอสฯ จ่ายหนี้หนังสือแทนจริง
เปิดชื่อ 'ซีเอเอส เปเปอร์' เจ้าหนี้ค่ากระดาษสกสค.-ยันไม่เคยติดเงิน หจก.โคราช 200 ล.
โชว์รายได้ 925 ล.! เจาะงบดุล หจก.โคราชฯ ก่อนตีเช็คเด้ง200ล. หักกลบลบค่ากระดาษเจ้าหนี้สกสค.?
เปิดหน้าเช็คเด้ง200 ล.! คนในสกสค.ยันหจก.ฯ ไม่เจตนาผิดสัญญาพันล. แค่หักกลบลบหนี้ค่ากระดาษ
เสียหายจริง536 ล.-ฟ้องแพ่งหจก.โคราช แล้ว! องค์การค้าสกสค.ชี้ปมขายหนังสือพันล.เจอเช็คเด้งงวด 3
เจาะพฤติการณ์ บิ๊กสกสค. เอื้อหจก.โคราช เปลี่ยนเช็คใหม่ ยืดเวลาจ่ายหนี้200ล.เด้ง2ฉ.รวด!
เปิดคดีทุจริตใหม่ สกสค. ! เอื้อปย.รับเช็คเด้ง200ล.จ่ายค่าสินค้ามิชอบ-ศธ.แจ้งDSI สืบสวนแล้ว