เปิดหน้าเช็คเด้ง200 ล.! คนในสกสค.ยันหจก.ฯ ไม่เจตนาผิดสัญญาพันล. แค่หักกลบลบหนี้ค่ากระดาษ

"...เหตุผลที่หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา  ไม่จ่ายเงินจำนวน 200 ล้านบาท ให้กับ สกสค. ในงวดที่ 3 เป็นเพราะต้องการให้มีการหักกลบลบหนี้ ค่ากระดาษ ที่ องค์การค้า สกสค. เป็นหนี้อยู่กับเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งเอกชนรายนี้ มีสถานะ เป็นลูกหนี้ ของ หจก.ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา ต่ออีกทีหนึ่งแทน..."

"ถ้านับจำนวนเงิน 4 งวด ที่ หจก.ฯ ได้จ่ายมาให้กับ องค์การค้า ของ สกสค. จะคิดเป็นจำนวนเงินมูลค่ารวมทั้งสิ้น 663,727,213.11 ล้านบาท แต่มีปัญหาเกิดขึ้นในการจ่ายเงินงวดที่ 3 เพราะหลังจากที่ องค์การค้า ของ สกสค. ได้เอาเช็คในงวดที่ 3 ซึ่งมีมูลค่า 200 ล้านบาทไปขึ้นเงินกับทางธนาคาร ปรากฏว่าไม่มีการนำเงินมาฝากแต่อย่างใด จึงทำให้ยอดเงินที่ได้รับมาที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ 463,727,213.11 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ใช่ 663,727,213.11 ล้านบาท ขณะที่เงินค่าหนังสือที่เหลือจ่ายตามสัญญาทั้งหมด 1,000 ล้านบาท อีก 536,272,787 บาท ก็ไม่ได้รับ จึงถือเป็นความเสียหาย ซึ่งปัจจุบันทางองค์การค้า สกสค.ได้ฟ้องร้องต่อศาลแพ่งให้ดำเนินการเรียกค่าเสียหายกับ หจก.ฯและผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว"

คือ ข้อมูลยืนยันล่าสุดของ นายกิตติศักดิ์ รัตนฉายา รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ถึงสาเหตุสำคัญ เกี่ยวกับปัญหาการทำสัญญาซื้อขายหนังสือ ระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ  ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา วงเงินรวมตามสัญญากว่า 1,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2558 -2559 ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอให้สาธารณชนรับทราบอยู่ในขณะนี้  ภายหลังได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำหนังสือแจ้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สืบสวนการทุจริตกรณีการทำสัญญาซื้อขายสินค้า ระหว่าง องค์การค้าของ สกสค. กับ หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา 

เนื่องจากสืบสวนข้อมูลเบื้องต้น พบว่า  ผู้บริหารระดับสูงองค์การค้า ของ สกสค.ในขณะนั้น มีความพยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร องค์การค้าของ สกสค. โดยอ้างต่อที่ประชุมว่า เหตุที่ยังไม่ได้มีการนำเช็คเข้าธนาคาร เพราะต้องการจะนำเช็คไปชำระหนี้ค่ากระดาษที่ยังค้างชำระกับเจ้าหนี้รายอื่น แต่ที่ประชุมเห็นว่า ควรนำเช็คเข้าบัญชีองค์การค้าก่อน เมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้แล้วจึงค่อยนำเงินไปชำระค่ากระดาษ แต่ผู้บริหาร สกสค.ในขณะนั้น เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามมติดังกล่าว แสดงเจตนาให้เห็นว่าได้ร่วมกันกระทำผิดและช่วยเหลือปกปิดมิให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ขณะที่เช็คที่รับมา ไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงเป็นเหตุทำให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท  และต่อมา ผู้บริหารระดับสูง สกสค. รายนี้ ยังได้ยินยอมให้ หจก.คู่สัญญา นำเช็คฉบับใหม่ มาเปลี่ยนกับเช็คฉบับเก่า เพื่อให้ระยะเวลาที่ต้องชำระเงินตามเช็คงวดที่ 3 จำนวน 200 ล้านบาท ออกไปเพิ่มเติมได้อีกด้วย ก่อนที่ในเวลาต่อมาเช็คทั้งใบใหม่ใบเก่า ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จนเป็นเหตุให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท (อ่านประกอบ : เสียหายจริง536 ล.-ฟ้องแพ่งหจก.โคราช แล้ว! องค์การค้าสกสค.ชี้ปมขายหนังสือพันล.เจอเช็คเด้งงวด 3)

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบสัญญาซื้อขายสินค้า เลขที่ 436/2558 ลงวันที่ 16 ธ.ค.2558 ระหว่าง  องค์การค้าของ สกสค. กับ   หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา ดังกล่าว พบว่า มีการกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินไว้  6 งวด โดยงวดที่ 1 ชำระภายในวันที่ 18 ม.ค. 2559 จำนวนเงิน 100 ล้านบาท งวดที่ 2 ชำระเป็นเงินสดภายในวันที่ 18 ก.พ. 2559 จำนวนเงิน 100 ล้านบาท งวดที่ 3 ชำระเป็นเงินสดภายในวันที่ 18 มี.ค. 2559 จำนวนเงิน 200 ล้านบาท งวดที่ 4 ชำระเป็นเงินสดภายในวันที่ 20 เม.ย. 2559 งวดที่ 5 ชำระเป็นเงินสดภายในวันที่ 18 พ.ค. 2559 จำนวนเงิน 200 ล้านบาท และงวดที่ 6 ชำระเงินภายในวันที่ 18 มิ.ย. จำนวนเงิน 200 ล้านบาท เป็นตามที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนฉายา รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ระบุไว้  (ดูเอกสารประกอบ)

สำหรับรายละเอียดของเช็คที่มีปัญหาในงวดที่ 3 นั้น จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า ผู้ที่นำจ่ายให้กับองค์การค้า สกสค.คือ นายภัคภพ ตัณเศรณีวัฒน์ ผู้บริหารของทาง  หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา  โดยองค์การค้า สกสค.ได้นำเอาเช็คไปขึ้นเงินตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2559 และต่อมาในวันที่ 10 ก.พ. 2560 ธนาคารกสิกรไทย ก็ได้คืนนำส่งเช็คดังกล่าวคืนมา ที่ องค์การค้า สกสค. เนื่องจากไม่มีการนำเงินมาฝากแต่อย่างใด 

ส่วนข้อเท็จจริง ที่ รองผู้อำนวยการ องค์การค้า สกสค. ระบุว่า  ในกรณีการผิดนัดชำระเงินนั้น ถ้าหากเช็คที่เด้งเป็นเช็คในงวดที่ 4 ซึ่งเป็นงวดล่าสุดที่จ่ายมาก็พอจะประนีประนอมกับทาง หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมาได้บ้างว่าที่เขายังไม่นำเงินเข้าธนาคารเพราะอาจจะมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน จะได้เรียกมาพูดคุยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ปรากฎว่าเช็คที่เด้งกลับเป็นงวดที่ 3 ซึ่งตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหจก.ถึงไม่เอาเงินที่จะจ่ายในงวดที่ 4 ไปฝากจ่ายในงวดที่ 3 ก่อน 

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวใน องค์การค้า สกสค. ว่า เหตุผลที่หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา  ไม่จ่ายเงินจำนวน 200 ล้านบาท ให้กับ สกสค. ในงวดที่ 3 เป็นเพราะต้องการให้มีการหักลบกลบหนี้ ค่ากระดาษ ที่ องค์การค้า สกสค. เป็นหนี้อยู่กับเอกชนรายหนึ่ง

ซึ่งเอกชนรายนี้ มีสถานะ เป็นลูกหนี้ ของ หจก.ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา ต่ออีกทีหนึ่งแทน

แหล่งข่าวจาก สกสค. ยังยืนยันว่า "หจก.  ไม่ได้มีเจตนาที่จะผิดนัดการชำระหนี้ กับ  องค์การค้า สกสค. แต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาหจก. ก็จ่ายเงินตามสัญญาด้วยดีมาตลอด  พอมามีปัญหากรณีนั้น มีการเอาเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดคณะกรรมการ สกสค. ก่อนว่าจ่ายเป็นเช็คได้หรือไม่ ก็สรุปว่าได้จึงให้จ่ายเป็นเช็ค และภายหลังเช็คไม่สามารถเบิกเงินได้ ก็มีการเอาเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดพิจารณามาเป็นระยะๆ ชี้ให้เห็นว่าบอร์ดก็รับทราบเรื่องมาตลอด ก่อนที่จะมีการยื่นเรื่องฟ้องร้องหจก.ด้วย

"ขอยืนยันว่า ผู้บริหาร องค์การค้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีเจตนาทุจริตหรือเอื้อประโยชน์อะไรเอกชน ขณะที่กระบวนการทำงานบางอย่าง ก็เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นเท่านั้น " 

ทั้งหมดคือ เบื้องหน้าเบื้องหลังกรณีนี้ ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด 

ส่วนเอกชน ที่เป็นเจ้าหนี้ค่ากระดาษ ของ องค์การค้า สกสค. รายนี้ เป็นใคร? มีตัวตนจริงหรือไม่ คงต้องรอฟังคำชี้แจงเป็นทางการจากผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง?  

 อ่านประกอบ :

เจาะพฤติการณ์ บิ๊กสกสค. เอื้อหจก.โคราช เปลี่ยนเช็คใหม่ ยืดเวลาจ่ายหนี้200ล.เด้ง2ฉ.รวด!

 เปิดคดีทุจริตใหม่ สกสค. ! เอื้อปย.รับเช็คเด้ง200ล.จ่ายค่าสินค้ามิชอบ-ศธ.แจ้งDSI สืบสวนแล้ว