โชว์รายได้ 925 ล.! เจาะงบดุล หจก.โคราชฯ ก่อนตีเช็คเด้ง200ล. หักกลบลบค่ากระดาษเจ้าหนี้สกสค.?

 "... หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา  จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อ 6 มีนาคม 2522 ทุน 17,500,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่  183 ถนนไชยณรงค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา แจ้งประกอบธุรกิจ  จำหน่ายเครื่องเขียนและแบบเรียน ปรากฎชื่อ  นาย ภคภพ ตัณฑเศรณี เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ นำส่งข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ  31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่า มีรายได้จากการขายหรือการให้บริการ 925,577,659.01 บาท ส่วนรายจ่าย มี ต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ 891,819,063.96 บาท กำไร(ขาดทุน) ขั้นต้น 33,758,595.05 บาท รายได้ดอกเบี้ย 1,652,531.19 บาท รายได้อื่น 5.49 บาท กำไร(ขาดทุน)ก่อนค่าใช้จ่าย 35,411,131.73 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 6,534,527.50 บาท มีกำไรสุทธิ 13,020,752.56 บาท..."

นับจนถึงเวลานี้ สาธารณชนคงได้รับทราบข้อมูลกันไปแล้วว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา คือ คู่สัญญาซื้อขายหนังสือเรียน กับ องค์การค้าของ สกสค. ในช่วงปี 2558-2559 วงเงินตามสัญญา 1,000 ล้านบาท  และปัจจุบันกำลังถูก องค์การค้าของ สกสค. ฟ้องร้องคดีแพ่ง หลังหจก.ฯ มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินตามสัญญา ในที่งวด 3  จำนวน 200 ล้านบาท ที่ปรากฎว่า เช็คเด้ง  ไม่สามารถขึ้นเงินได้ และหลังจากผ่านพ้นการจ่ายเงินงวด 4  ไปแล้ว หจก.ฯ ก็ไม่ได้ติดต่อกับองค์การค้าของ สกสค.  ทำให้ถูกยกเลิกสัญญาการซื้อขายดังกล่าว และถูกตัดสิทธิ์ห้ามเข้ามาทำสัญญาซื้อขายหนังสือกับทางองค์การค้า ของสกสค. อีกต่อไป 

ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบพบข้อมูลว่า การทำสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่าง หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา กับ องค์การค้าของ สกสค. มีปัญหาใน 2 ประเด็นหลัก คือ 

1. ในการจ่ายเงินค่าสินค้างงวด 3 วงเงิน  200 ล้านบาท  ที่ หจก.ฯ สั่งจ่ายเงินค่าสินค้าเป็นเช็คธนาคารพาณิชย์ ไม่มีการนำเช็คฝากธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินภายในกำหนด แต่เจ้าหน้าที่ องค์การค้าของ สกสค. กลับออกใบเสร็จรับเงินให้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ได้ชำระค่าสินค้าครบถ้วนเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าได้ 

ทั้งที่ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงานการเงิน และบัญชี พ.ศ.2559 องค์การค้าของ สกสค.  กำหนดให้จะต้องมีการชำระค่าสินค้าให้ครบถ้วนก่อนจึงจะส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อได้

2. ผู้บริหารระดับสูงองค์การค้า ของ สกสค.ในขณะนั้น มีความพยายามปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร องค์การค้าของ สกสค. โดยอ้างต่อที่ประชุมว่า เหตุที่ยังไม่ได้มีการนำเช็คเข้าธนาคาร เพราะต้องการจะนำเช็คไปชำระหนี้ค่ากระดาษที่ยังค้างชำระกับเจ้าหนี้รายอื่น แต่ที่ประชุมเห็นว่า ควรนำเช็คเข้าบัญชีองค์การค้าก่อน เมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้แล้วจึงค่อยนำเงินไปชำระค่ากระดาษ

แต่ผู้บริหาร สกสค.ในขณะนั้น เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามมติดังกล่าว แสดงเจตนาให้เห็นว่าได้ร่วมกันกระทำผิดและช่วยเหลือปกปิดมิให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ขณะที่เช็คที่รับมา ไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงเป็นเหตุทำให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท  และต่อมา ผู้บริหารระดับสูง สกสค. รายนี้ ยังได้ยินยอมให้ หจก.คู่สัญญา นำเช็คฉบับใหม่ มาเปลี่ยนกับเช็คฉบับเก่า เพื่อให้ระยะเวลาที่ต้องชำระเงินตามเช็คงวดที่ 3 จำนวน 200 ล้านบาท ออกไปเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ก่อนที่ในเวลาต่อมาเช็คทั้งใบใหม่ใบเก่า ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จนเป็นเหตุให้ องค์การค้าของ สกสค. ได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ( 200 ล้านบาท เป็นตัวเลขเฉพาะการจ่ายเงินงวดที่ 3  ที่เช็คเด้ง  แต่หากคิดความเสียหายทั้งสัญญาหลังจากที่หจก.ฯ จ่ายเงินถึงแค่งวด ที่ 4  รวมวงเงินทั้งสิ้น 463,727,213.11 บาท ส่วนงวด 5 และ 6 มีการยกเลิกสัญญาไป เท่ากับว่า องค์การค้าของ สกสค. เสียหายจากจำนวนเงินงวด 3 ที่เช็คเด้ง และเงินงวดที่เหลือ 5 และ 6 เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น  536,272,787 บาท )

อย่างไรก็ดี มีคำชี้แจงจากคนใน สกสค. เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า  "หจก. ไม่ได้มีเจตนาที่จะผิดนัดการชำระหนี้ กับ องค์การค้า สกสค. แต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาหจก. ก็จ่ายเงินตามสัญญาด้วยดีมาตลอด พอมามีปัญหากรณีนั้น มีการเอาเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดคณะกรรมการ สกสค. ก่อนว่าจ่ายเป็นเช็คได้หรือไม่ ก็สรุปว่าได้จึงให้จ่ายเป็นเช็ค และภายหลังเช็คไม่สามารถเบิกเงินได้ ก็มีการเอาเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดพิจารณามาเป็นระยะๆ ชี้ให้เห็นว่าบอร์ดก็รับทราบเรื่องมาตลอด ก่อนที่จะมีการยื่นเรื่องฟ้องร้องหจก.ด้วย

"ขอยืนยันว่า ผู้บริหาร องค์การค้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีเจตนาทุจริตหรือเอื้อประโยชน์อะไรเอกชน ขณะที่กระบวนการทำงานบางอย่าง ก็เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นเท่านั้น " (อ่านประกอบ : เปิดหน้าเช็คเด้ง200 ล.! คนในสกสค.ยันหจก.ฯ ไม่เจตนาผิดสัญญาพันล. แค่หักกลบลบหนี้ค่ากระดาษ, เสียหายจริง536 ล.-ฟ้องแพ่งหจก.โคราช แล้ว! องค์การค้าสกสค.ชี้ปมขายหนังสือพันล.เจอเช็คเด้งงวด 3)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูล หจก. ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อ 6 มีนาคม 2522 ทุน 17,500,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่  183 ถนนไชยณรงค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 

แจ้งประกอบธุรกิจ  จำหน่ายเครื่องเขียนและแบบเรียน ปรากฎชื่อ  นาย ภคภพ ตัณฑเศรณี เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ 

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 31 กรกฎาคม 2560  นาย ภคภพ ตัณฑเศรณี  ถือหุ้นใหญ่สุด 68.5714% นาย ปิยะวัฒน์ ปรัชญ์วรกิตติ์ ถืออยู่ 31.4286% 

นำส่งข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ  31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่า มีรายได้จากการขายหรือการให้บริการ 925,577,659.01 บาท ส่วนรายจ่าย มี ต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ 891,819,063.96 บาท กำไร(ขาดทุน) ขั้นต้น 33,758,595.05 บาท รายได้ดอกเบี้ย 1,652,531.19 บาท รายได้อื่น 5.49 บาท กำไร(ขาดทุน)ก่อนค่าใช้จ่าย 35,411,131.73 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 6,534,527.50 บาท มีกำไรสุทธิ 13,020,752.56 บาท 

ข้อมูลงบดุล แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม  362,217,681.53  แบ่งเป็น เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 78,258,372.42 บาท ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 43,250,016.45 บาท สินค้าคงเหลือ 50,468,816.00 บาท สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 2,980,823.67 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 174,958,028.54 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน มี เงินให้กู้ยืมระยะยาว 162,500,000.00 บาท ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 2,681,969.32 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 22,077,683.67 บาท รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 187,259,652.99 บาท

ส่วนหนี้สิน แจ้งว่า มีหนี้สินรวม  287,103,630.99 บาท แบ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 210,392,412.18 บาท เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 42,621,889.46 บาท เงินกู้ยืมระยะสั้น 30,632,285.96 บาท ภาษีเงินได้ค้างจ่าย 3,297,209.45 บาท หนี้สินหมุนเวียนอื่น 159,833.94 บาท รวมหนี้สินหมุนเวียน 287,103,630.99 บาท 

ทั้งนี้ ในงบดุลมิได้มีการระบุชื่อ เอกชน ที่เป็นลูกหนี้ของหจก.ฯ ไว้แต่อย่างใด ส่วนวงเงินลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น อยู่ที่ตัวเลข 43,250,016.45 บาท

ขณะที่  พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ยืนยันสัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ถึงที่ไปที่มาของปัญหาเรื่องนี้ว่า เริ่มตั้งแต่ในสมัย นายสุเทพ ชิตยวงษ์  ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ องค์การค้า สกสค.ในช่วงปี 2559 โดยในช่วงเวลานั้นนายสุเทพได้มอบหมายให้ นายอดุลย์ บุสสา รองผู้อำนวยการ องค์การค้า สกสค.ไปติดตามทวงเงินกับทาง หจก.ฯ 

ต่อมาในช่วงเวลาที่นายพิษณุ ตุลสุข ได้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการ องค์การค้า สกสค. ก็ได้มีการตั้งหน่วยงานตรวจสอบภายในเพื่อตรวจสอบข้อพิรุธกรณีการจ่ายเงินของ สกสค.จึงมีการนำเรื่องส่งมายังสํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นจึงมีการนำ เรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับ นพ.ธีระเกียรติ จนได้ข้อสรุปว่าจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ โดยประเด็นที่ให้มีการสอบสวนคือกรณีเช็ค 200 ล้านบาทว่ามีการไปขึ้นเงินช้าจนไม่สามารถขึ้นเงินได้หรือไม่ โดยส่งเรื่องไปให้กับดีเอสไอในวันที่ 1 ก.ย. 2560 แต่ต่อมา ดีเอสไอก็มาแจ้งกับทางกระทรวงศึกษาธิการว่า เรื่องนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ดำเนินการสอบสวนแล้ว ดีเอสไอจึงไม่ขอดำเนินการสอบสวน กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ทำหนังสือไปถึงดีเอสไอเพื่อขอถอนเรื่องคืนจาก ดีเอสไอ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2560 ส่วนเรื่องหนี้สินกับหจก.ฯ คงเป็นเรื่องของการบริหารทางการค้าของ องค์การค้า สกสค. ที่จะต้องไปติดตามทวงถามหนี้กับทาง หจก.ฯ ต่อไป 

ส่วนรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้บริหาร องค์การค้า สกสค. อาทิ ทำไมต้องออกใบเสร็จรับเงินกับ หจก.ฯ ทั้งที่ยังไม่มีการนำเช็คไปขึ้นเงิน ทั้งที่ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงานการเงิน และบัญชี พ.ศ.2559 องค์การค้าของ สกสค.  กำหนดให้จะต้องมีการชำระค่าสินค้าให้ครบถ้วนก่อนจึงจะส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อได้ รวมถึงพฤติการณ์ของผู้บริหาร องค์การค้า สกสค. ที่มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับ หจก.ฯ นั้น 

พล.ท.โกศล ระบุว่า ตรงนี้เป็นเรื่องทางการค้าของ องค์การค้า สกสค. ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก 

อ่านประกอบ :

เปิดหน้าเช็คเด้ง200 ล.! คนในสกสค.ยันหจก.ฯ ไม่เจตนาผิดสัญญาพันล. แค่หักกลบลบหนี้ค่ากระดาษ

เสียหายจริง536 ล.-ฟ้องแพ่งหจก.โคราช แล้ว! องค์การค้าสกสค.ชี้ปมขายหนังสือพันล.เจอเช็คเด้งงวด 3

เจาะพฤติการณ์ บิ๊กสกสค. เอื้อหจก.โคราช เปลี่ยนเช็คใหม่ ยืดเวลาจ่ายหนี้200ล.เด้ง2ฉ.รวด!

 เปิดคดีทุจริตใหม่ สกสค. ! เอื้อปย.รับเช็คเด้ง200ล.จ่ายค่าสินค้ามิชอบ-ศธ.แจ้งDSI สืบสวนแล้ว