เตือน "สุคิริน" ส่อซ้ำรอย "หมู่บ้านป่าแหว่ง"
เครือข่ายคนไทยพุทธชายแดนใต้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่เตรียมใช้พื้นที่รอบๆ 3 หมู่บ้านของ ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ จัดสรรให้เป็นหมู่บ้านและที่ดินทำกินสำหรับ "อดีตผู้หลงผิด" ที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน
ประเด็นนี้กลายเป็นปัญหาอ่อนไหวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะชาวบ้านกว่า 500 คนจาก 3 หมู่บ้านเป้าหมายใน ต.สุคิริน รวมตัวคัดค้านเรื่องนี้อย่างแข็งขัน ถึงขั้นออกแถลงการณ์ส่งไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 ขอให้ทบทวน โดยสาเหตุที่ชาวบ้านรวมตัวกันคัดค้าน เพราะเกรงว่าคนกลุ่มนี้จะเข้ามาสร้างปัญหา สร้างความหวาดระแวง เนื่องจากบางส่วนอาจเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรง นอกจากนั้นยังอาจส่งผลทำลายทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นป่าต้นน้ำและแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญ
ความคืบหน้าก่อนหน้านี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนายอำเภอสุคิริน และผู้นำของทั้ง 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 หมู่บ้านรักษ์ธรรม และหมู่บ้านลีนานนท์ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 ออกมาให้ข่าวทำนองว่า ชาวบ้านในพื้นที่เข้าใจหมดแล้ว และพร้อมรับ "อดีตผู้หลงผิด" เข้าไปตั้งหมู่บ้านและจัดสรรที่ทำกินให้ โดยจะมีการตั้ง "คณะกรรมการร่วม" ที่มีตัวแทนจากทุกฝ่ายขึ้นมาช่วยดูแล โดยเฉพาะปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งยังสำทับว่าที่ผ่านมาไม่มีใครคัดค้าน มีแต่คนพยายามปล่อยข่าวเพราะเกรงจะเสียผลประโยชน์
ฟังจากแม่ทัพภาคที่ 4 เหมือนปัญหาจะจบแล้ว แต่เมื่อ "ทีมข่าวอิศรา" ลงพื้นที่ และได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่นั่น กลับพบว่าส่วนใหญ่ยังคงคัดค้าน และเตรียมจัดชุมนุมเดินขบวน หากฝ่ายความมั่นคงยังดึงดังเดินหน้าโครงการต่อ (อ่านประกอบ "ลุงวิโรจน์"คนสุคิรินเต็มขั้น ขอคัดค้าน"คนกลับบ้าน"ร่วมชายคา)
ล่าสุดปัญหาส่อเค้าบานปลาย เมื่อ นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้ออกมาคัดค้านเรื่องนี้เช่นกัน โดยบอกว่า พื้นที่ อ.สุคิริน ตอนนี้กำลังมาแรงเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยอะ โดยเฉพาะคนมาเลเซีย ทำให้คนในพื้นที่คัดค้านหากจะให้กลุ่มอดีตผู้หลงผิดเข้าไปตั้งหมู่บ้านอยู่ด้วย ฉะนั้นเมื่อหน่วยงานรัฐไม่ฟังเสียงพวกเขา ต่อไปอาจจะมีการเคลื่อนไหวต่อต้าน และจะทำให้เกิดความรู้สึก "อคติ" กับคนที่จะมาอยู่ใหม่หนักขึ้นไปอีก
สำหรับ 3 หมู่บ้านเป้าหมายที่ฝ่ายความมั่นคงจะขอใช้พื้นที่และจัดสรรที่ดินรองรับ "อดีตผู้หลงผิดนั้น" เป็นหมู่บ้านของคนมุสลิม 1 หมู่บ้าน และหมู่บ้านคนพุทธ 2 หมู่บ้าน โดยหนึ่งในนั้นเป็นหมู่บ้านผู้ร่วมพัฒนาชาติ หรือ อดีต จคม. ซึ่งหมายถึงโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) ที่รัฐบาลไทยในอดีตเคยจัดสรรที่ดินทำกินให้ ปัจจุบันพื้นที่แถบนี้ชาวบ้านอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข และมีรายได้จากการท่องเที่ยว
"ผมทราบว่าในวันที่ 17 พ.ค.นี้ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปรับพื้นที่เพื่อสร้างบ้านให้กับคนที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านแล้ว โดยคนเหล่านั้นสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะอยู่ตรงไหน ฉะนั้นเชื่อว่าจะเกิดกระแสต่อต้านตามมาอย่างแน่นอน เหมือนกรณี 'หมู่บ้านป่าแหว่ง' หรือ คฤหาสน์ตุลาการเชิงดอยสุเทพที่คนเชียงใหม่คัดค้านอยู่ในขณะนี้" นายรักชาติ ระบุ
ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ยังเห็นว่า คนที่เข้าร่วม "โครงการพาคนกลับบ้าน" อาจมีที่ดินเดิมอยู่ในภูมิลำเนาเดิมของพวกเขาเอง อาจจะไม่ใช่ผู้ยากไร้ ทำไมรัฐจึงไม่ให้งบประมาณไปสร้างบ้านในที่ดินของเขาเอง จึงอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และควรฟังเสียงชาวบ้านด้วย มิฉะนั้นจะเป็นการซ้ำเติมความแตกแยก
ขณะเดียวกัน ยังมีความเคลื่อนไหวของ นายพงษ์พันธ์ จันทร์เล็ก รองประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดยะลา เขียนข้อความถึงแม่ทัพภาคที่ 4 ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เรียกร้องทบทวนโครงการนี้
"ควรให้พวกเขากลับไปอยู่ภูมิลำเนาเดิมที่เขาเคยอยู่ ท่านทำโครงการนำเขากลับบ้านก็นับว่าเป็นบูญคุณกับพวกเขาแล้ว แต่พวกเขามองไม่เห็นความดีของท่านแม่ทัพ ด้วยการทำลายทรัพย์สิน เขียนข้อความติดประกาศ ทำลายความรู้สึกของคนสยามทั้งประเทศ อย่าลืมว่าท่านแม่ทัพรับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พวกเขาทำเหมือนกับไม่เห็นคุณงามความดีของท่าน ท่านทำดีมาตลอด จะพ้นหน้าที่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ขอให้ท่านทำความดีด้วยการฟังเสียงของพี่น้องไทยพุทธในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอร้องนะครับ ขอให้ท่านส่งพวกเขากลับไปอยู่ที่บ้านเดิมของเขา เขาจะได้กลับบ้านอย่างแท้จริง ท่านจะให้ความช่วยเหลืออย่างไรไม่มีใครว่า ขอที่ยืนของคนไทยพุทธที่กำลังต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิด เพื่อการอยู่รอด อย่าบีบคั้นให้มากกว่านี้เลย"
เป็นข้อความที่นายพงษ์พันธ์เขียนถึงแม่ทัพภาคที่ 4
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง "ทีมข่าวอิศรา" ไปสอบถามความเห็นของหนึ่งในผู้เข้าร่วม "โครงการพาคนกลับบ้าน" แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะไปตั้งหมู่บ้านใน อ.สุคิริน เขาบอกว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลจะสร้างหมู่บ้านและหาที่ดินทำกินให้กับคนที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน แต่ไม่เห็นด้วยหากทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ อยู่แล้วต้องเดือดร้อน ทั้งยังบอกว่าคนที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่หลบหนีจากประเทศไทยไปนาน ถึงขั้นไม่มีแม้แต่เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เมื่อเข้าร่วมโครงการและเดินทางกลับมา ฝ่ายความมั่นคงได้ลบข้อกล่าวหาทั้งหมด และมอบบัตรประชาชนให้ ก็น่าจะมากพอแล้ว ฉะนั้นควรสนับสนุนให้กลับไปอยู่ภูมิลำเนาเดิมของตัวเอง เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่ใช่คนยากจน
--------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ป้ายบอกทางไป อ.สุคิริน
2 นายรักชาติ สุวรรณ
ขอบคุณ : ภาพป้ายบอกทาง จากคลิปส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอสุคิริน
อ่านประกอบ :
ชาวสุคิรินฮือต้าน "ผู้เห็นต่าง" ตั้งหมู่บ้านในพื้นที่
แม่ทัพ4 ลั่นไร้เสียงค้านตั้งหมู่บ้านรับผู้หลงผิดที่สุคิริน ยันไม่ใช่อดีตโจร
"ลุงวิโรจน์"คนสุคิรินเต็มขั้น ขอคัดค้าน"คนกลับบ้าน"ร่วมชายคา