ไล่ออก-คุกสถานเดียว! ย้อนชะตากรรม 4 อดีตปลัดอำเภอ-จนท.ปค. สวมบัตรปชช.คนตาย-แจ้งย้ายเท็จ
"... นายประภาพ แก้วคงยศ ขณะปฏิบัติหน้าที่ปลัดอำเภอบ่อไร่ กระทำการโดยมิชอบช่วยเหลือบุคคลไม่ปรากฏชื่อและสัญชาติสวมตัวทำบัตรประชาชนโดยใช้ชื่อและบุคคลของนายสมคิด กุยฉุย อยู่บ้านเลขที่ 56 ตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ซึ่งถึงแก่ความตายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 เป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการ และยังมีกรณีทำบัตรประจำตัวประชาชนให้บุคคลไม่ทราบชื่อและสัญชาติ โดยสวมตัวนางสาวอินทิรา ปาวงศ์ นางสาวสุดา ปาวงศ์ และนางสาววิมล ปาวงศ์ และย้ายชื่อบุคคลทั้งสามออกจากทะเบียนบ้านโดยมิชอบ..."
ในฐานข้อมูลการพิจารณาคดีทุจริตของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเผยแพร่ข้อมูลคดีเกี่ยวกับอดีตปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่ปกครอง ที่มีพฤติการณ์ช่วยเหลือบุคคลไม่ปรากฏชื่อและสัญชาติไทย สวมตัวทำบัตรประชาชนโดยใช้ชื่อคนตาย และแก้ไขเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านเป็นเท็จหลายราย แต่บทสรุปสุดท้ายต้องถูกไล่ออกจากราชการ และศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก เป็นระยะเวลาหลายปีเหมือนกัน
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบฐานข้อมูลการพิจารณาคดีทุจริต ของ สำนักงานป.ป.ช. มีการระบุข้อมูลผลการพิจารณาคดี ของ นายประภาพ แก้วคงยศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ไว้จำนวน 2 คดี
หนึ่ง กรณีทำบัตรประจำตัวประชาชนให้บุคคลไม่ทราบชื่อและสัญชาติ โดยสวมตัวนายสมคิด กุยฉุย
ระบุพฤติการณ์ว่า นายประภาพ แก้วคงยศ ขณะปฏิบัติหน้าที่ปลัดอำเภอบ่อไร่ กระทำการโดยมิชอบช่วยเหลือบุคคลไม่ปรากฏชื่อและสัญชาติสวมตัวทำบัตรประชาชนโดยใช้ชื่อและบุคคลของนายสมคิด กุยฉุย อยู่บ้านเลขที่ 56 ตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ซึ่งถึงแก่ความตายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 เป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการ
เบื้องต้น สถานีตำรวจภูธรบ่อไร่ มีหนังสือที่ ตช 0017(ตร).6(10)3/614 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 แจ้ง ป.ป.ช. ว่า ศาลจังหวัดตราด พิพากษาให้จำคุก 2 ปี ตามคดีดำที่ 1355/2553 คดีแดงที่ 190/2554 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554
สอง กรณีทำบัตรประจำตัวประชาชนให้บุคคลไม่ทราบชื่อและสัญชาติ โดยสวมตัวนางสาวอินทิรา ปาวงศ์ นางสาวสุดา ปาวงศ์ และนางสาววิมล ปาวงศ์ และย้ายชื่อบุคคลทั้งสามออกจากทะเบียนบ้านโดยมิชอบ
ระบุพฤติการณ์ว่า นายประภาพ แก้วคงยศ ขณะปฏิบัติหน้าที่ปลัดอำเภอบ่อไร่ ทำหน้าที่่หัวหน้านายทะเบียนทั่วไปและบัตรประจำตัวประชาชน กระทำการโดยมิชอบให้ความช่วยเหลือบุคคลที่ไม่ปรากฏชื่อและสัญชาติสามตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนในนามของนางสาวอินทิรา ปาวงศ์ นางสาวสุดา ปาวงศ์ และนางสาววิมล ปาวงศ์ โดยเพิ่มชื่อและรายการบุคคลทั้งสามในทะเบียนบ้านอำเภอบ่อไร่ และออกสูติบัตรในกรณีแจ้งเกิดเกินกำหนด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าว
เบื้องต้น สถานีตำรวจภูธรบ่อไร่ มีหนังสือที่ ตช 0017(ตร).6(10)3/618 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 แจ้งว่า ศาลจังหวัดตราดพิพากษาจำคุก มีกำหนด 2 ปี, 4 ปี และ 2 ปี ตามคดีดำที่ 251/2554, 1633/2553, 153/2554 คดีแดงที่ 345,106,253/2554 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2554, 24 มกราคม 2554 และ 28 กุมภาพันธ์ 2554
นอกจากนี้ ยังมีกรณี นายอุบล ดวงแก้ว ขณะดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตรอำเภอบุณฑริก กับพวก ถูกพฤติการณ์ว่า ได้ร่วมกันกระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่ รับแจ้งเกิดเกินกำหนด เพิ่มชื่อและรายการบุคคล จำนวน 20 ราย เข้าทะเบียนราษฎรเฉพาะในฐานข้อมูล สำนักทะเบียนอำเภอบุณฑริก และการกระทำการโดยทุจริตจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บุคคลดังกล่าว
เบื้องต้น จังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือ ที่ อบ 0018.1/4517 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2557 แจ้ง ป.ป.ช.ว่า ได้ออกคำสั่งจังหวัดอุบลราชธานี ลงโทษไล่ นายอุบล ดวงแก้ว ออกจากราชการ ตามคำสั่งที่ 1028/2550 ลงวันที่ 12 เมษายน 2550 แล้ว
ขณะที่ สถานีตำรวจบุณฑริก มีหนังสือ ที่ 0018(อบ)(๒๐)/673 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2557 แจ้ง ป.ป.ช. ว่า ศาลจังหวัดเดชอุดม ได้มีคำพิพากษาลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 เป็นจำคุก 9 ปี
และกรณี นายณรงค์ ทองก้านเหลือง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปกครอง กิ่งอำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด และนายชาญชัย เปรียมนอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอกิ่งอำเภอหนองฮี ปรากฎพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค.42 นายณรงค์ ทองก้านเหลือง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปกครองกิ่งอำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด มีหน้าที่รับผิดชอบงานทะเบียนราษฎร กระทำการทุจริตโดยได้รับแจ้งย้ายนายวิเศษ ลาสอนออกจากทะเบียนบ้านกลางของกิ่งอำเภอหนองฮีแล้ว นำบุคคลอื่นมาสวมตัวนายวิเศษ ลาสอนเพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เบื้องต้น ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยโดยลงโทษไล่ออกจากราชการแล้ว
ขณะที่ ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด มีหนังสือที่ ตช 0019(รอ).93/12, 26มี.ค.57 และที่ ตช 0019(รอ).93/15, 3เม.ย.57 แจ้ง ป.ป.ช.ว่า สำนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง นายชาญชัย เปรียมนอง ส่วนรายนายณรงค์ ทองก้านเหลือ ผู้ต้องหาหลบหนีชั้นอัยการ ได้ออกหมายจับ ตามหมายจับที่ จ.977/2552 อยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวมาดำเนินคดี
เช่นเดียวกับ นายสมศักดิ์ จันทราช ปลัดอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ถูกกล่าวหาร้องเรียนว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอสุวรรณภูมิ ได้ออกสูติบัตร กรณีรับแจ้งเกิดเกินกำหนด อันเป็นเท็จ ให้แก่บุคคลซึ่งขอมีชื่อในสูติบัตรในนามของนายสมพงษ์ อินทร และนายบุญชัย อินทร อยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด การรับแจ้งเกิดเกินกำหนดกรณีดังกล่าวไม่ได้ขออนุมัติต่อนายอำเภอสุวรรณภูมิ ตามระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2535 ข้อ 57 และในวันเดียวกันนั้น นายสมศักดิ์ จันทราช ได้ออกใบแจ้งย้ายที่อยู่อันเป็นเท็จให้แก่บุคคลดังกล่าวไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 1 ตำบลเด่นราษฎร์ กิ่งอำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ต่อมานายสมศักดิ์ จันทราชได้เพิ่มชื่อบุคคลอันเป็นเท็จให้แก่บุคคลที่มาขอเพิ่มชื่อในนามของนางสาววนิดา สีหาวงษ์ นางสาวอรัญญา สีหวงษ์ และนางสาวยุพา สีหาวงษ์ และในการดำเนินการดังกล่าว ไม่ได้ขออนุมัติต่อนายอำเภอสุวรรณภูมิตามระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2535 ข้อ 97 (1) - (6) ในวันเดียวกันนั้นได้ออกใบแจ้งย้ายที่อยู่อันเป็นเท็จให้แก่บุคคลดังกล่าว ไปอยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 11 ตำบลเด่นราษฎร์ กิ่งอำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด
เบื้องต้น ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยโดยมีคำสั่งไล่ออกจากราชการแล้ว ส่วนสถานีตำรวจภูธรสุวรรณภูมิ ได้มีหนังสือที่ ตช 0019.(รอ).96/3 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 แจ้ง ป.ป.ช. ว่า พนักงานสอบสวนได้รับแจ้ง จากสำนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ดตามหนังสือ ที่ อส0042(รอ)/4064)ว่าศาลจังหวัดร้อยเอ็ดได้พิพากษา นายสมศักดิ์ จันทราช เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 157 จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี จำเลยไม่อุทธรณ์
ทั้งหมดนี้ คือ ชะตากรรม ของ อดีตปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่ปกครอง ที่มีพฤติการณ์ไม่สุจริตปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และน่าจะเป็นบทเรียนอุทาหรณ์สอนใจ บุคคลในสายอาชีพนี้ ไม่ให้กระทำผิดซ้ำรอยได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
อ่านประกอบ :
เปิด3กรณีศึกษาคดีทุจริตป.ป.ช.-วิบากกรรมผอ.สำนักงานพุทธมณฑล ตั้งร้านค้า-วินมอไซต์เถื่อน
ปลอมใบเสร็จคนไข้ยักยอกเงิน37ครั้ง! กรณีศึกษาคดีทุจริต พนง.รพ.เทศบาลเชียงใหม่-คุก50ปี
เก็บเงินเกินราคา40บ.-เวียนฉีกตั๋วเก่าขาย! บทเรียนคดีทุจริตพกส.ขสมก.-หนีหมายจับอายุความ20ปี
ขุดกรุ คดีทุจริต พนง.ไปรษณีย์ ป.ป.ช.เชือดเรียบศาลฟันไม่เลี้ยง ยักยอก2หมื่นคุก10ปี
เปิดชุดใหญ่! รวมคดี ป.ป.ช. ฟันทุจริตอาจารย์-จว.น่าน อมเงินทุนการศึกษา คุก 12 ปี