เก็บเงินเกินราคา40บ.-เวียนฉีกตั๋วเก่าขาย! บทเรียนคดีทุจริตพกส.ขสมก.-หนีหมายจับอายุความ20ปี
"...พฤติการณ์กระทำความผิด เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพทุจริตรับเงินค่าโดยสารจากผู้โดยสาร จำนวน 2 คน ๆ ละ 20 บาท แล้วไม่ฉีกตั๋วราคา 12 บาท ตามอัตราค่าโดยสารให้ผู้โดยสารรับ เบื้องต้น สภ.เมืองนนทบุรี ได้ทำหนังสือ ที่ นบ 0129.2/1546 ลว. 29 ต.ค. 53 แจ้งความคืบหน้าคดีต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ได้ดำเนินการสอบสวนและรับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 494/2553 โดยสรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี และศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว..."
ในฐานสืบค้นข้อมูลผลการพิจารณาคดีทุจริตของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการบันทึกคดีทุจริตเกี่ยวกับการเก็บเงินค่าโดยสาร ของ พนักงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่น่าสนใจไว้หลายคดี
บางคดีมูลค่าความเสียหายมีจำนวนแค่หลักร้อยบาท แต่นำมาซึ่งการหมดอนาคตของผู้กระทำความผิด ต้องใช้ชีวิตหลบซ่อนตัว หลังถูกศาลอนุมัติหมายจับ อายุความกว่า 20 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลผลการพิจารณาคดีทุจริตย้อนหลังของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบว่า ว่ามีการบันทึกผลการพิจารณาคดีทุจริตการเก็บเงินค่าโดยสาร ของ พนักงาน ขสมก. ไว้หลายคดีดังนี้
@ นายนุกูล แจ้นุ้ย พนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก. ไม่ได้ระบุสายรถประจำทาง
พฤติการณ์กระทำความผิด เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพทุจริตรับเงินค่าโดยสารจากผู้โดยสาร จำนวน 2 คน ๆ ละ 20 บาท แล้วไม่ฉีกตั๋วราคา 12 บาท ตามอัตราค่าโดยสารให้ผู้โดยสารรับ
เบื้องต้น สภ.เมืองนนทบุรี ได้ทำหนังสือ ที่ นบ 0129.2/1546 ลว. 29 ต.ค. 53 แจ้งความคืบหน้าคดีต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ได้ดำเนินการสอบสวนและรับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 494/2553 โดยสรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี และศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับนายนุกูล แจ้นุ้ย ผู้ต้องหาแล้ว แต่ยังเรียกหรือจับกุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีไม่ได้
@ นายสมชาย จ่างมณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานเก็บค่าโดยสาร 1 ระดับ 1 สายการเดินรถที่ 180 กองเดินรถที่ 2 เขตการเดินรถที่ 4
พฤติการณ์กระทำความผิด : เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีนำตั๋วโดยสารที่จำหน่ายไปแล้ว ไปจำหน่ายให้ผู้โดยสารใหม่อีก โดยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลาประมาณ 14.45 น. ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีหน้าที่เก็บค่าโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ทุจริตต่อหน้าที่นำตั๋วโดยสารราคา 9.50 บาท ที่จำหน่ายไปแล้ว จำหน่ายใหม่
เบื้องต้น สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายสมชาย จ่างมณี ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 90
แต่ผู้ต้องหาหลบหนี ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับ ที่ จ.1076/2551 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 อายุความ 20 ปี นับแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551
@ นายศักดิ์สิทธิ์ ทิศทา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานเก็บค่าโดยสาร 1 ระดับ 1 สายการเดินรถที่ 180 กองเดินรถที่ 3 เขตการเดินรถที่ 7 ฝ่ายการเดินรถองค์การ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
พฤติการณ์กระทำความผิด : เป็นพนักงานยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กล่าวคือ ระหว่างวันที่ 20 เมษายน 2551 ถึงวันที่ 20 เมษายน 2551 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีหน้าที่เก็บค่าโดยสาร ได้รับมอบตั๋วจำนวน 7 ม้วน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,071 บาท ได้จำหน่ายตั๋วให้ผู้โดยสารแล้วนำเงินดังกล่าวไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ทำให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้รับความเสียหาย
เบื้องต้น สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 มีความเห็นและคำสั่งควรสั่งฟ้อง นายศักดิ์สิทธิ์ ทิศทา ผู้ต้องหาในข้อหา เป็นพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 และมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2555 และได้เสนอสำนวนการสอบสวนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้พิจารณาแล้วเห็นชอบไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาของพนักงานอัยการดังกล่าว
ในส่วนกรณีข้อหาความผิดที่มีความเห็นและคำสั่งเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหานั้น เมื่อผู้ต้องหาหลบหนีไปยังไม่ได้ตัว พนักงานอัยการได้มีหนังสือแจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ภายในอายุความ 20 ปี นับแต่วันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556
ขณะนี้ยังจับตัวผู้ต้องหาไม่ได้โดยอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี
นอกจากนี้ ยังมีกรณี นางสาวรวี ทวิตชาติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานเก็บค่าโดยสาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
พฤติการณ์กระทำความผิด : ระบุว่าเป็นพนักงานมีหน้าที่ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเอง หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต และเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต กล่าวคือเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2550 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เก็บค่าโดยสารบนรถโดยสารประจำทางสาย 515 หมายเลข 6-56125 ขณะรถโดยสารแล่นรับ-ส่งผู้โดยสารจากท่าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (มุ่งหน้าศาลายา) มาถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาลธนบุรี 2 ถนนบรมราชชนนี นายตรวจได้ตรวจสอบพบว่าผู้ถูกกล่าวหาได้นำตั๋วราคา 16 บาท หมายเลข 6022499 ซึ่งเป็นตั๋วที่ผู้ถูกกล่าวหาฉีกขายไปแล้วในรอบที่ 2 มาขายใหม่ในรอบที่ 3 โดยมีเจตนาเบียดบังรายได้ค่าโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
เบื้องต้น พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 6 พิจารณาแล้วมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหา อย่างไรก็ดี ศาลจังหวัดตลิ่งชันพิพากษาวันที่ 25 กันยายน 2552 พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7798/2552
ทั้งหมดนี่ คือ คดีทุจริตของพนักงานเก็บค่าโดยสาร ที่น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ผู้มีความคิดจะกระทำความผิดในลักษณะด้วยกันได้เป็นอย่างดี
อ่านประกอบ :
เปิด3กรณีศึกษาคดีทุจริตป.ป.ช.-วิบากกรรมผอ.สำนักงานพุทธมณฑล ตั้งร้านค้า-วินมอไซต์เถื่อน
ปลอมใบเสร็จคนไข้ยักยอกเงิน37ครั้ง! กรณีศึกษาคดีทุจริต พนง.รพ.เทศบาลเชียงใหม่-คุก50ปี