รายชื่อ 8 นักการเมืองท้องถิ่น 8 จังหวัดไม่ยื่นบัญชีฯ ศาลฎีกาสั่งปรับ-จำคุก รอลงโทษ 1 ปี
เปิดรายชื่อนักการเมืองท้องถิ่นลอตใหม่ 8 คน จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จ.ลำปาง สมุทรสาคร สกลนคร นครศรีฯ สุราษฎร์ฯ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี สมุทรปราการ ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่งทันที 1 ราย ปรับคนละ 4,000-8,000 บาท จำคุก 1-2 เดือน รอลงโทษ 1 ปีรวด ยอดรวมกว่า 20 คดี
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ในพื้นที่ 8 จังหวัด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.และ 24 ม.ค.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้ผู้ดำรงแหน่งทางการเมือง 8 ราย มีความผิดคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริจแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช. ) ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเป็นนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ลำปาง สมุทรสาคร สกลนคร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี และ สมุทรปราการ ให้พ้นตำแหน่งทันที 1 ราย ห้ามดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี ปรับรายละ 4,000-8,000 บาท จำคุก 1-2 เดือน โทษจำคุก รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ทุกราย มีรายละเอียดดังนี้
1.นายอาทิตย์ อ่อนคำ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำปาง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.ลำปาง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.ลำปาง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 มี.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.ลำปาง มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.11/2561-23 ม.ค.2561)
2.นายพนัส โพธิ์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าจีน ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 พ.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.13/2561-23 ม.ค.2561)
3.นายนฤพลธิ์ เสโนฤทธิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โนนสะอาด อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีฯกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.โนนสะอาด ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 1 ก.พ.2557 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้าน เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.14/2561-23 ม.ค.2561)
4.นางจิตฤดี รักษายศ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาเขลียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จงใจไม่ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.นาเขลียง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 5 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.นาเขลียง และให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายก อบต.นาเขลียง ในวันที่ 23 ม.ค. 2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.15/2561-23 ม.ค.2561)
5.นายอำพล เป็ดสุวรรณ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ท่าทอง ห้ามมิให้ ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 30 ก.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.16/2561-24 ม.ค.2561)
6.นายวิฑูรย์ สงครินทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองแคน อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจาก ตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. หนองแคน ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำ แหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำ แหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 24 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.17/2561-24 ม.ค.2561)
7.นายบุญมี ศรีคำ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แก้ง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.แก้ง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 12 ธ.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.18/2561-24 ม.ค.2561)
8.นางอุบลวดี เหล่าปิ่นกาญจนะ สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) เมืองลัดหลวง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งสมาชิก สท.เมืองลัดหลวง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 30 ก.ย.2554 ซึ่งเป็นวันที่ ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.19/2561-24 ม.ค.2561)
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ ม.ค.2561 -24 มี.ค.2561 มีคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจงใจไม่ยื่นบัญชีฯและจงใจยื่นเท็จกว่า 20 คดี ( เฉพาะคดีที่มีการเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา)
อ่านประกอบ:
ฉบับเต็มคดี‘ธาริต’ซุกทรัพย์สิน! รับโอนหุ้น บ.ในฮ่องกง-เงินฝากโผล่ บช.หลานเมีย
อ้างไม่รู้ หลงลืม!ศาลฟันรองนายก อบต.จ.พิจิตรซุกเงิน 15 บัญชี หุ้น 2 บ. ที่ดิน 7แปลง
นักการเมืองท้องถิ่น 8 คนใน 6 จังหวัด ถูกศาลฎีกาฯฟันจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
เจตนาซุกซ่อน! ศาลฎีกาฯฟันนายก อบต. ใน จ.สมุทรสาคร ไม่แสดงเงินฝาก 3 บัญชี