เปิดตัวเลขในบัญชี 7 บ.คดีฉ้อโกง ธ.ทหารไทย รายได้ 2,514 ล.-สินทรัพย์ 1,578 ล.

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 01 มีนาคม 2561 เวลา 21:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | Isranews | การทำผิดของเอกชน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

พลิกงบดุล-การเงิน 7 เครือข่าย บ.ขายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ‘เอพีเอส คล็อค ซีสเต็มส์’ คดีปลอมเอกสารฉ้อโกงแบงก์ทหารไทย 3.4 พันล. แจ้งตัวเลขรวมรายได้ 2.5 พันล. หนี้สิน 1.2 พันล. หนี้เงินกู้สถาบันการเงิน 1,075.8 ล. มีกำไรสะสม 163 ล. ก่อนถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด

pictmbbb1 3 18

นิติบุคคลในคดีร่วมกันใช้เอกสารปลอมกู้ยืมเงินจากธนาคารทหารไทย 3.4 พันล้านบาท และถูกศาลล้มละลายกลางสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด จำนวน 7 ราย (จาก 25 รายที่ถูก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน-ปปง.อายัดทรัพย์) ได้แก่ บริษัท โชคธนัท โลหะเจริญ จำกัด ,บริษัท รัซเซล ไบซิเคิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ,บริษัท สำนักงาน เจริญการบัญชีและคอมพิวเตอร์ จำกัด ,บริษัท ซี ดับเบิ้ล จี จำกัด บริษัท บี.ที.พริ้นท์ติ้ง จำกัด บริษัท นีโอพลาสติก เคมีคอล จำกัด หรือบริษัทนีโอพลาสติก และ บริษัท พารากอนดอท คอม จำกัด โดยมีเจ้าหนี้รายเดียวกันคือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) มีหนี้สินตามที่ระบุในบัญชีของบริษัทรวมกันกว่า 1.2 พันล้านบาท

ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบงบดุลและงบการเงินของนิติบุคคลแต่ละรายรวม 7 รายตามที่นำส่งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในรอบปีล่าสุด 31 ธ.ค.2555 รวมรายได้ประมาณ 2,514.8 ล้านบาท สินทรัพย์ 1,578 ล้านบาท กำไรสะสม 163.1 ล้านบาท หนี้สิน 1,225.6 ล้านบาท หนี้สถาบันการเงิน 1,075.8 ล้านบาท

บริษัทที่แจ้งว่ามีรายได้มากที่สุด คือ บริษัท ซี ดับเบิ้ล จี จำกัด จำนวน 696,981,007 บาท รองลงมา บริษัท พารากอนดอท คอม จำกัด 500,167,866 บาท และ บริษัท บี.ที.พริ้นท์ติ้ง จำกัด 475,862,264 บาท

บริษัทที่แจ้งว่ามีสินทรัพย์มากที่สุด คือ บริษัท ซี ดับเบิ้ล จี จำกัด 466,698,541 บาท รองลงมา บริษัท บี.ที.พริ้นท์ติ้ง จำกัด 375,941,299 บาท และ บริษัท พารากอน ดอท คอม จำกัด 248,753,233 บาท

บริษัทที่แจ้งว่ามีหนี้สินมากที่สุด บริษัท ซี ดับเบิ้ล จี จำกัด 382,996,326 บาท บริษัท บี.ที.พริ้นท์ติ้ง จำกัด 324,278,819 บาท และ บริษัท พารากอน ดอท คอม จำกัด 176,568,088.48 บาท และแจ้งว่ามีหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินมากที่สุด (ไม่ระบุชื่อ) ได้แก่ บริษัท ซี ดับเบิ้ล จี จำกัด 350,051,911.74 บาท บริษัท บี.ที.พริ้นท์ติ้ง จำกัด 291,572,761.23 บาท และ บริษัท พารากอนดอท คอม จำกัด 130,335,111 บาท

เห็นได้ว่าข้อมูลตามที่ปรากฎในงบดุลและงบกำไรขาดทุนนั้น มีรายได้สูงกว่าหนี้สินประมาณหนึ่งเท่าตัว ผลประกอบการมีกำไรสะสมกว่า 163 ล้านบาท แต่มีสินทรัพย์ 1,578 ล้านบาท น่าสังเกตว่า ไฉนถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลายและถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เป็นปริศนาหรือไม่?

งบดุลและงบการเงิน 7 บริษัทในเครือข่าย บ.เอพีเอส คล็อค ซีสเต็มส์ ที่ถูกธนาคารทหารไทยฟ้องล้มละลายและถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด

ชื่อ-จำเลย

รายได้ ปี 2555-

สินทรัพย์-หนี้สิน

1.บริษัท โชคธนัท โลหะเจริญ จำกัด จำเลยที่ 1, น.ส. สุทิตย์สร ทัตธนวงศ์ จำเลยที่ 2 (คดีหมายเลขแดงที่ ล. 1330/2560- 8 มี.ค.2560)

รายได้ 95,273,017 บาท

กำไรสุทธิ 3,710,819 บาท

สินทรัพย์ 45,199,829 บาท

หนี้สิน 18,298,400 บาท

(หนี้เงินกู้ยืมกรรมการ 15,000,000 บาท)

กำไรสะสม 6,901,428 บาท

2.บริษัท รัซเซล ไบซิเคิล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จำเลยที่ 1, นายสกล แซ่เตี๋ย จำเลยที่ 2 (คดีหมายเลขแดงที่ ล. 1352/2560-13 มี.ค.2560)

รายได้ 208,015,817 บาท

กำไรสุทธิ 7,080,444 บาท

สินทรัพย์ 169,303,656 บาท

หนี้สิน 133,303,961 บาท

(เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 118,722,849.92,เงินกู้ยืมจากกรรมการ 12,000,000 บาท )

กำไรสะสม 15,999,695 บาท

3.บริษัท สำนักงาน เจริญการบัญชีและคอมพิวเตอร์ จำกัด จำเลยที่ 1, นางจันทร จุลกะ จำเลยที่ 2 (คดีหมายเลขแดงที่ ล. 1932/2560-25 เม.ย.2560)

รายได้ 227,587,202 บาท

กำไรสุทธิ 2,808,476 บาท

สินทรัพย์ 140,673,520 บาท

หนี้สิน 102,315,852 บาท

(เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

100,344,252.14 บาท)

กำไรสะสม 13,357,667 บาท

4.บริษัท ซี ดับเบิ้ล จี จำกัด จำเลยที่ 1, นายประยงค์ แซ่เตี๋ย จำเลยที่ 2, น.ส. วิไลพร พรมศร จำเลยที่ 3 นายสำรวย หล่อกิตตินันท์ จำเลยที่ 4 (คดีหมายเลขแดงที่ ล. 2813/2560-21 มิ.ย.2560 )

รายได้รวม 696,981,007 บาท

กำไรสุทธิ 14,947,906 บาท

สินทรัพย์ 466,698,541 บาท

หนี้สิน 382,996,326 บาท

(เงินกู้ยืมจากธนาคาร

350,051,911.74 บาท , เงินกู้ยืมจากกรรมการ 24,000,000 บาท )

กำไรสะสม 35,702,215 บาท

5.บริษัท บี.ที.พริ้นท์ติ้ง จำกัด จำเลยที่ 1 , น.ส. ศุภลักษณ์ เสนพนัสสัก จำเลยที่ 3 (คดีหมายเลขแดงที่ ล. 2814/2560 -21 มิ.ย.2560)

รายได้ 475,862,264 บาท

กำไรสุทธิ 14,759,793 บาท

สินทรัพย์ 375,941,299 บาท

หนี้สิน 324,278,819 บาท