ก.ล.ต.สั่งGLแก้งบการเงินให้ตรงตามจริงหลังพบ ‘บิ๊ก’ปล่อยกู้ฉาว54ล.เหรียญ-เฉยเจอคุก10ปี
ก.ล.ต. สั่งบอร์ด GL แก้ไขงบการเงินให้ตรงความเป็นจริง หลังชงดีเอสไอ-ปปง. สอบ ‘บิ๊ก’ รับประโยชน์เงินปล่อยกู้ให้กลุ่มไซปรัส-สิงคโปร์ 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากไม่ทำตามเจอเอาผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โทษสูงสุดคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้บริหารบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในความผิดเกี่ยวกับการทุจริต เข้าข่ายเป็นการทำธุรกรรมอำพราง การยักยอกยินยอมให้ลงบัญชี และทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง กรณีการปล่อยกู้เงินให้กับบริษัท กรุ๊ปลีส โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLH บริษัทลูกที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนปล่อยกู้ต่อไปยังบริษัทกลุ่มประเทศไซปรัส และสิงคโปร์ แต่ผู้บริหารรายนี้ถูกกล่าวหาว่าได้รับผลประโยชน์กว่า 54 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา (ราว 3 พันล้านบาท) และให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยนั้น (อ่านประกอบ : ก.ล.ต.ชงดีเอสไอ-ปปง.สอบผู้บริหาร‘กรุ๊ปลีส’ ใช้ บ.ลูกปล่อยกู้เอกชน ตปท.54 ล.เหรียญสหรัฐฯ, ไส้ใน-เส้นทางปล่อยกู้‘กรุ๊ปลีส’ก่อน ก.ล.ต. ชงดีเอสไอ-ปปง.สอบบิ๊ก รับ ปย.54 ล.เหรียญ)
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2560 ก.ล.ต. ทำหนังสือแจ้งบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการแก้ไขงบการเงินดังกล่าว เนื่องจากการระบุข้อมูลเหล่านี้ มีผลทำให้งบการเงินของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) แสดงรายการเงินให้กู้ยืมสูงกว่าความเป็นจริง 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมตามสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 14-25 ต่อปี ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยจากการประกอบธุรกิจสูงกว่าความเป็นจริงไปด้วย
ข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้งบการเงินของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ไม่เป็นไปตามมาตรา 56 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 หากบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ไม่แก้ไขงบการเงิน แบบรายงาน 56-1 และแบบรายงาน 56-2 ให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงโดยเร็ว อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 56 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และหากกรรมการของบริษัท ไม่ดำเนินการให้มีการแก้ไขงบการเงินให้ถูกต้อง โดยยินยอมให้งบการเงินเป็นเท็จ ไม่ถูกต้อง หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง อาจส่งผลให้มีความผิดตาม มาตรา 312 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯด้วย ทั้งนี้กรณีที่ผู้สอบบัญชีพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม อาจทำให้จำนวนเงินที่บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) ต้องแก้ไขในงบการเงินเพิ่มขึ้นจากที่กล่าวข้างต้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 312 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ระบุว่า กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลตาม พ.ร.บ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำการดังต่อไปนี้
(1) ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว
(2) ลงข้อความเท็จ หรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชี หรือเอกสารของนิติบุคคล หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น หรือ
(3) ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง
ถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าว หรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ หรือลวงบุคคลใด ๆ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสนบาท-1 ล้านบาท