สั่งแจงที่มาเงินคดีปล้น196ล.เยน! รองผบช.น.ยันพบความผิดส่งปปง.แน่-ออกหมายจับเพิ่ม3ราย
พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.เผยความคืบหน้าคดีปล้นเงิน 196 ล.เยน ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 ราย รอผู้เสียหายรวบรวมเอกสารชี้แจง หลังอ้างเคยถูกกรมศุลฯ ยึดเงินที่สนามบิน แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน ยันหากพบกระทำผิดเตรียมส่ง ปปง. สอบเพิ่ม
สืบเนื่องจากกรณีคดีกลุ่มคนร้าย 5-7 คน สวมหมวกไหมพรมสีดำปิดบังใบหน้า ใช้ปืนก่อเหตุปล้นเงินสด 196 ล้านเยน มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาทของ นายภัทริศ หรือ โตโต้ แต้รัตนชัย นักธุรกิจซื้อขายทองคำแท่ง และส่งออกเครื่องประดับเพชรไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อกลางดึกวันที่ 2 ต.ค. 2560 ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน และมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการขยายผลอีกจำนวนหนึ่ง โดยคาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการประมาณ 10 คน ตามที่ปรากฏข่าวก่อนหน้านี้
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขยายผลการตรวจสอบพบว่า นายภัทริศ แต้รัตนชัย ผู้เสียหาย เป็นเจ้าของ บริษัท จี แอนด์ จี สโตนส์ จำกัด (G & G STONES CO.,LTD.) ร่วมกับนักธุรกิจชาวเกาหลี ประกอบกิจการทำเบเกอรี่ ค้าเพชร พลอย อัญมณี อยู่ในห้องเช่าย่านเขตบางรัก ซึ่งบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ และผู้ถือหุ้นหลายครั้ง โดยนายภัทริศ อาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยว 3 ชั้นหลังใหญ่ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งเปิดเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างอีกแห่งหนึ่งด้วย (อ่านประกอบ : บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ รัชดาฯ ผู้เสียหายคดีปล้น 196 ล.เยน-เป็นที่ตั้ง บ.รับเหมาอีกแห่ง)
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2560 พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ถึงความคืบหน้าคดีนี้ ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 รายแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามสอบสวนเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินผู้เสียหายด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการขอเอกสารการทำธุรกรรมต่าง ๆ จากผู้เสียหายให้นำส่งชี้แจงแล้ว อยู่ระหว่างรอผู้เสียหายรวบรวม
เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวนี้จะส่งเรื่องให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.สมพงษ์ ยืนยันว่า สำหรับกรณีการขนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าประเทศในครั้งนี้ ยังไม่ได้มีข้อมูลที่จะต้องส่งให้ทาง ปปง. ตรวจสอบด้วย แต่อย่างใด แต่หากพบว่ามีมูลการกระทำความผิดก็จะนำส่งเรื่องให้ตรวจสอบ ต่อไป
“ตามคำกล่าวอ้างของผู้เสียหาย อ้างว่า เคยถูกกรมศุลกากรยึดเงินที่สนามบินครั้งหนึ่งเมื่อประมาณปีที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้นได้มีการส่งให้ทาง ปปง. ตรวจสอบแล้วว่าเป็นทำถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ แต่หากเจ้าหน้าที่พบว่ากรณีนี้มีมูลจะส่งเรื่องให้ทาง ปปง. ต่อไป”
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเอกสารงบการเงิน บริษัท จี แอนด์ จี สโตนส์ จำกัด พบว่า มีชื่อ น.ส.พิชามญช์ เอี่ยมสำอางค์ เป็นผู้สอบบัญชี แต่ไม่ปรากฏเบอร์ติดต่อ ส่วนผู้ทำบัญชีคือ น.ส.ธนาวดี อยู่สุภาพ เบอร์โทร 089-964-11XX แต่เมื่อติดต่อไปเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ และนายภัทริศ ไม่สามารถติดต่อได้ สัญญาณตอบรับแจ้งเป็นบริการฝากหมายเลขโทรกลับ (ดูเอกสารประกอบ)
อ่านประกอบ :
เผยโฉม! บ.ผู้เสียหายคดีปล้น 196 ล.เยน ห้องเล็กๆ มีตู้เย็น ไร้เครื่องเพชร-คนเกาหลีอยู่
มีเงินสด 5,287 บาท! บัญชีงบฯ บ.ผู้เสียหายคดีปล้น 196 ล.เยน นำเข้าครั้งที่ 5
เปิดธุรกิจ‘ภัทริศ’ผู้ขนเงินสด 196 ล.เยน-ทำเบเกอรี ค้าเพชร-แจ้งรายได้ 165,961 บ.