มีสิทธิรับค่าตอบแทน!ป.ป.ท.แจงปมอนุฯไต่สวนคดีข้าวรวมเบิกเบี้ยประชุมคนละ7หมื่นทำตามระเบียบ
สำนักงาน ป.ป.ท. แพร่คำชี้แจงปมอนุฯไต่สวนคดีข้าวรวมเบิกเบี้ยประชุมคนละ7หมื่น ผ่านเว็บไซต์เป็นทางการ ยันทำตามระเบียบ จนท.มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ทำงานรับสำนวนคดีทุจริตเก็บรักษาข้าวในโกดัง รวมกว่า 990 คดี ระบุดำเนินการตามขั้นตอนวิธีการเดียวกับคดีอื่น รับอยู่ระหว่างหารือกรมบัญชีกลางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมากำหนดแนวทางเบิกจ่ายต่อไป
จากกรณี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เกี่ยวกับปัญหาการอนุมัติเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีโครงการจำนำข้าว ของเจ้าหน้าที่ป.ป.ท.จำนวน 7 ราย ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุไต่สวน พร้อมกันถึงจำนวน 47 คำสั่ง ขณะที่ในช่วงวันที่ 18-22 ก.ค.2560 มีจัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุไต่สวนพร้อมกันทั้ง 47 คำสั่ง จำนวน 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำเรื่องเบิกจ่ายเบี้ยประชุมแบบแยกคำสั่งให้ในครั้งเดียว ทำให้วงเงินเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงต่อคนสูงถึงคนละ 7 หมื่นบาท บางรายได้สูงถึง 8.8 หมื่นบาท แทนที่จะนับรวมเป็นการปฏิบัติหน้าที่แค่ครั้งเดียว เบื้องต้นคณะกรรมการ ป.ป.ท. อยู่ระหว่างหารือข้อกฎหมายกับกรมบัญชีกลาง นั้น (อ่านประกอบ : ประชุม2นัดได้คนละ7หมื่น!ป.ป.ท.โร่หารือก.บัญชีกลางเบิกเบี้ยค่าประชุมอนุฯไต่สวนคดีจำนำข้าว)
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ท. ได้เผยแพร่คำชี้แจงกรณีนี้ ในเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ท. 3 ประเด็น ดังนี้
1. การไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตามคำสั่งของคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีขั้นตอนและกระบวนการเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ท.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการเกี่ยวกับการไต่สวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2554 โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยประชุมตามระเบียบว่าด้วยเบี้ยประชุมของอนุกรรมการซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ศ.2555
2. สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับสำนวนคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า จากพนักงานสอบสวน จำนวน 990 คดี โดยได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนและวิธีการเดียวกันกับคดีทั่วไปตามระเบียบที่คณะกรรมการ ป.ป.ท.กำหนด
3. จากกรณีดังกล่าว เป็นการรวมเบิกเบี้ยประชุมสำหรับคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงไปในคราวเดียวกันสำหรับการประชุมเป็นรายคดีต่อเนื่องกัน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ท.รับทราบและให้สำนักงาน ป.ป.ท. พิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ได้หารือกรมบัญชีกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมากำหนดแนวทางการเบิกจ่ายต่อไป (ดูคำชี้แจงฉบับเต็มท้ายข่าว)